ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เรื่องเล่าอภินิหาร หลวงพ่อ แช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

ชอบทำไร่ ทำนา เลี้ยงวัว และสัตว์ทุกชนิด ขนาดหมูป่าเปียว ๆ ท่านนำมาเลี้ยงเดินไปเดินมาแถวใต้เตียง (กระดานแผ่นเดียว) ที่ท่านนอน (การทำไร่ท่านให้ลูกศิษย์และหลาน ๆ ทำ ไม่ใช้ลงมือเอง) เคยปรากฏ มีขโมยมาขโมยวัวของท่านไป 2 ตัวพอลูกศิษย์มาบอกว่าวัวหายท่านถามว่ามันไปทางไหน ลูกศิษย์ก็ชี้มือว่ามันขโมยไปทางโน้น ท่านก็เดินไปหารอยวัว

พอเห็นรอยเท้าวัวและคนจูง ก็นั่งยอง ๆ ลงมองรอยนั้น สักครู่จึงลุกขึ้นมาบอกกับลูกศิษย์ว่า “มึงไปตักน้ำไว้ให้มันกิน เดี๋ยวมันกลับมามันเหนื่อย มันหิว” ลูกศิษย์งง แต่ก็เตรียมไว้ตามที่ท่านสั่ง อีกประมาณครึ่งชั่วโมงขโมยสองคนก็จูงวัวเข้ามาหาหลวงพ่อ ด้วยอาการเหนื่อยหอบตัวสั่น พอเห็นท่านก็ก้มลงกราบกลางดิน พร้อมกับพูดว่า “ผมเข็ดแล้วครับ ต่อไปผมจะไม่ลักของหลวงพ่ออีกแล้วครับ หลวงพ่ออย่าทำผมเลย” ท่านจึงกล่าวขึ้นว่า

“เออ! ไอ้ระยำนี่ ดีแต่กูเป็นพระเสียนะมึง ไม่งั้นมึงโดนดี” ฯลฯ

ไหนเมื่อกี้นี้ มึงว่ากูบ้าๆ บอๆ แล้วจะมาขออะไรอีกวะ"หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง"ผู้สำเร็จอภิญญา รู้วาระจิตผู้อื่น!! ทหารมาขอพระแทบกราบขมาไม่ทัน.

พระพลายเดี่ยวเนื้อดินหน้าตะโพนและอภินิหารของ หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง

มีเรื่องราวปรากฏอยู่ในหนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่งดังนี้

“….จากคำบอกเล่าของญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นสานุศิษย์ของท่าน

ได้ถ่ายทอดให้ฟังมานานแล้วว่า… สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ อุบัติขึ้น ญี่ปุ่นได้กรีธาทัพผ่านประเทศไทย เข้าไปยังพม่า เป็นเหตุสำคัญให้ต้องกระโจนเข้าสู่สงครามอย่างไม่ตั้งใจ

ด้วยเหตุนี้ ส.ท. อาวุธ จิรางกูร (ผู้เล่า)ซึ่งรับราชการทหารปืนใหญ่มีหน้าที่ประจำจุดแจ้งสัญญาณภัยทางอากาศ อยู่แถบจังหวัดนครปฐม ถ้าจำไม่ผิดอยู่แถว ๆ งิ้วราย วันหนึ่งซึ่งเป็นวันหยุด จึงได้เดินทางไปหาเพื่อนสนิท ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีรถไฟจังหวัดนครปฐม

ในขณะนั้นเป็นเหตุบังเอิญที่หลวงพ่อแช่ม มีกิจนิมนต์ต้องโดยสารรถไฟเข้ากรุงเทพ ฯ เมื่อ ส.ท.อาวุธ ไปพบเพื่อน ซึ่งเป็นนายสถานีก็ได้ชวน ไปนมัสการหลวงพ่อด้วยขณะเดียวกันหลวงพ่อแช่ม ได้เดินลงจากสถานีเข้าไปในตลาด ฉับพลันที่เห็นหลวงพ่อซึ่งครองจีวรแบบลวก ๆ ตลบขึ้นพาดบ่า สบงก็นุ่งหยักรั้งดูไม่เป็นการสำรวมอย่างสมณวิสัย จึงเกิดอกุศลจิตขึ้นมาว่า

เราได้ยินกิตติศัพท์ความเกรียงไกรทางพุทธาคมเลื่องลือกระฉ่อนอยู่ในขณะนั้น เมื่อมาเห็นตัวจริงเข้า ดูท่านจะบ้า ๆ บอ ๆ ไม่เต็มบาทเอาเสียเลย ทำให้เสื่อมศรัทธาไปมาก พอท่านหวนกลับมาที่สถานีอีกครั้ง เมื่อใกล้เวลาที่รถไฟจะเข้าจอด

ไหนเมื่อกี้นี้ มึงว่ากูบ้าๆ บอๆ แล้วจะมาขออะไรอีกวะ"หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง"ผู้สำเร็จอภิญญา รู้วาระจิตผู้อื่น!! ทหารมาขอพระแทบกราบขมาไม่ทัน.

นายรถไฟก็ได้เอาตั๋วโดยสารเข้าไปถวายพร้อมกับดึงมือผู้เล่าให้มากราบนมัสการ ขอของขลังไว้คุ้มครองป้องกันภัย ซึ่งเจ้าตัวจะไม่เต็มใจนักแต่ทนเพื่อรบเร้าไม่ไหว พอกราบท่านแล้วเงยหน้าขึ้น หลวงพ่อได้พูดโพล่งออกมาว่า “ไหนเมื่อกี้นี้ มึงว่ากูบ้า ๆ บอ ๆ แล้วจะมาขออะไรอีกวะ” เล่นเอาท่านผู้เล่าถึงกับผงะพลางนึกในใจว่า เอ เราคิดของเราอยู่ในใจ

แต่เหตุไฉนท่านจึงทราบ ความซึ่งคิดอยู่ แต่ตอนแรกพลันหายไปหมด ท่านต้องเป็นผู้สำเร็จอภิญญาแน่ จึงทราบวาระจิตของผู้อื่นได้อย่างแจ่มแจ้ง หลวงพ่อองค์นี้ต้องไม่เบาแล้วก็ได้คลานไปกราบที่ตัก จะเป็นด้วยผู้เล่าอยู่ในเครื่องแบบทหารหรืออย่างไร ท่านจับหัวบริกรรมเป่าให้และควานลงไปในย่ามหยิบเอาพระพิมพ์เนื้อดินสีเทา รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็กคล้ายพระพิมพ์พลายเดี่ยว ซึ่งเรียกกันว่า พระดินหน้าตะโพน

ยื่นให้องค์หนึ่ง แล้วล้วงหยิบขึ้นมาอีก ๕ องค์ พร้อมกับพูดว่า

“เอาไปให้ลูกน้องเอ็งทุกคนด้วย” นับเป็นความอัศจรรย์อีกครั้ง

ที่ท่านทราบได้อย่างไรว่า มีทหารอยู่ตามจุดด้วยกันอีก ๕คนพอดี

ต่อมาได้ทราบว่า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ท่านไม่ค่อยยึดติดอะไรนัก การครองจีวรก็เป็นไปตามความพอใจ ไม่ได้คำนึงถึงระเบียบแบบแผนเท่าไร ศรัทธาที่เคยเสื่อมถอยไปแต่แรกกลับเพิ่มพูนขึ้นอีกเป็นทวี เมื่อได้พบกับอาจารย์ผู้แสดงความสามารถ จากนั้นพอสบโอกาสก็มากราบนมัสการและฝากตัวเป็นศานุศิษย์ด้วยผู้หนึ่ง

และได้รู้เรื่องราวที่แปลกประหลาด ของท่านอยู่อย่างหนึ่งคือ หลวงพ่อทำนา มีอุปกรณ์ที่ใช้ครบครัน…ขอบเขตคันนานั้น ย่อมจะติดอยู่กับชาวบ้าน ท่านปล่อยควายให้แทะเล็มหญ้าอย่างอิสระ ส่วนตัวหลวงพ่อก็นั่นนอนอยู่ที่กุฏิ พอเห็นควายทำท่าจะล่วงล้ำ เข้าไปกินข้าวในนาของคนอื่น ท่านก็เอาผ้าที่พาดบ่า ยกขึ้นสะบัดเสียทีหนึ่ง เจ้าควายที่กำลังอยู่กลางทุ่งสุดลูกหูลูกตาก็จะหันกลับทันที เป็นความอัศจรรย์ครั้งที่สามซึ่งพบเห็นมาด้วยตาของตนเองหลวงพ่อมีความสามารถที่จะคุ้มครองคนหรือสัตว์ได้ชั่วระยะสุดสายตา ผู้ที่เรียนสำเร็จวิชานี้ต้องเป็นผู้สำเร็จกสิณด้วย จึงจะบังเกิดผลได้จริง

ไหนเมื่อกี้นี้ มึงว่ากูบ้าๆ บอๆ แล้วจะมาขออะไรอีกวะ"หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง"ผู้สำเร็จอภิญญา รู้วาระจิตผู้อื่น!! ทหารมาขอพระแทบกราบขมาไม่ทัน.

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความและที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

http://historypra.blogspot.com/

เผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์