ที่สุดแห่งคาถาอาคม "วิชากระโหลกทองคำ" !!! อานุภาพทรงพลังของครูบาอาจารย์ และวิชาอันเร้นลับสำหรับผู้มีบุญบารมี !!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

นับเป็นวิชาที่ขึ้นชื่อที่สุดวิชาหนึ่งของหลวงปู่กาหลง เพราะทุกวันนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ไม่รู้จักวิชากะโหลกทองคำของหลวงปู่ท่าน วิชากะโหลกทองคำนี้ ทราบว่าหลวงปู่ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีลักษณะเป็นวิชานะหน้าทองประเภทหนึ่ง ที่มีอิทธิคุณหลายด้าน คนส่วนมากมักเข้าใจว่าการลงทองที่หน้าผากจะเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับวิชากะโหลกทองคำของหลวงปู่กาหลงนั้นมีอิทธิคุณรอบด้าน เรียกว่า ครอบจักรวาล เพราะวิชากะโหลกทองคำนั้น เมื่อผู้ใดได้ลงแล้วนอกจากจะเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมชั้นยอดแล้วยังทำให้สติปัญญาดี มีความคงกระพันชาตรี ปกป้องคุ้มครองภยันอันตรายต่างๆ และยังทำให้เกิสิริมงคลโชคลาภ เจริญในหน้าที่การงานด้วย

ที่สุดแห่งคาถาอาคม "วิชากระโหลกทองคำ" !!! อานุภาพทรงพลังของครูบาอาจารย์ และวิชาอันเร้นลับสำหรับผู้มีบุญบารมี !!!

ที่มาของคำว่ากะโหลกทองคำนั้น หลวงปู่ท่านเล่าว่าผู้ที่ลงทองกับท่านนั้นด้วยอานุภาพแห่งพลังจิต พลังของครูบาอาจารย์ และวิชาอันเร้นลับนี้ เมื่อทำการเสกทองคำเปลวลงไปที่หน้าผากแล้ว ทองคำดังกล่าวจะหายเข้าไปติดในกะโหลกศีรษะ ทำให้เกิดเสน่ห์เมตตามหานิยม สง่าราศี เมื่อตอนตายไปแล้วเผาออกมาจะพบเห็นว่ามีทองคำเปลวติดอยู่ที่กะโหลกศีรษะอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งผลจากการที่มีทองคำเปลวติดกะโหลกศีรษะไปจนวันตายนี่แหละจึงเป็นที่มาของคำว่า “วิชากะโหลกทองคำ” อันหมายความว่าทองคำที่เสกนั้นจะเข้าไปติดถึงในกะโหลกของคนผู้นั้น นับเป็นวิชาที่หาใครทำได้ยากเพราะต้องใช้พลังจิตสูงมาก คนธรรมดาไม่อาจทำได้เลย ต้องสำเร็จฌานสมาบัติชั้นสูงเท่านั้นจึงสามารถเช่นนี้ได้

ที่สุดแห่งคาถาอาคม "วิชากระโหลกทองคำ" !!! อานุภาพทรงพลังของครูบาอาจารย์ และวิชาอันเร้นลับสำหรับผู้มีบุญบารมี !!!

การเปิดวิชากะโหลกทองคำนั้น หลวงปู่กาหลงแต่เดิมท่านลงที่วัดเขาแหลมมานานแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ต่อมาทางวัดสุทัศน์ คณะ ๗ ได้เชิญท่านมาลง แรกๆ ก็มีคนมาลงเพียง ๒๐-๓๐ ท่านต่อวันเท่านั้น แต่ด้วยบารมีธรรมของหลวงปู่กาหลงนานวันเข้าจากคนเพียงกลุ่มเล็กๆ เริ่มกลายเป็นกลุ่มคนจำนวนมาก จนเดี๋ยวนี้คนมาลงวิชากะโหลกทองคำกับท่านวันละสองสามร้อยคน หรือกว่านั้นขึ้นไป ทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์แบบปากต่อปากของผู้ที่ได้ลงไปแล้ว เกิดความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงาน สมหวังในความรัก เกิดโชคลาภอย่างน่ามหัศจรรย์ ที่สำคัญคือคนที่มาลงแล้วจะได้ใกล้ชิดหลวงปู่สัมผัสกับบารมีและเมตตาจากหลวงปู่ท่านโดยตรง ย่อมรู้สึกถึงความเย็นกายเย็นใจเป็นที่ประทับใจแก่ผู้เข้าหา มาแล้วต้องมาอีก เพราะยิ่งได้เข้าใกล้หลวงปู่ ยิ่งได้มาสัมผัส ก็ยิ่งพบกับสิ่งดีๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป สิ่งนี้เองที่ทำให้คนยิ่งหลั่งไหลมาลงวิชากะโหลกทองคำกับท่าน บางท่านมาลงซ้ำแล้วซ้ำอีก ตั้งใจลงทองคำให้ครบ ๑๐๘ แผ่นก็มี เพราะหลวงปู่ท่าน กล่าวว่าผู้ที่ได้ลงทองคำครบ ๑๐๘ แผ่นนั้น ตอนตายยังเผาไม่ไหม้ ต้องใส่กิ่งโพธิ์ลงไป ๓ กิ่งจึงเผาได้ เรื่องนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าการลงวิชากะโหลกทองคำนั้น เมื่อลงบ่อยๆ เข้าจะทำให้ร่างกายเป็นกายสิทธิ์ หมายความว่าทำให้ร่างกายเป็น คงกระพันชาตรีชั้นสูง ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ คนที่ลงทองคำด้วยวิชากะโหลกทองคำนี้จึงได้รับบารมีจากทองคำเสกในการปกป้องคุ้มครองไปในตัว ยิ่งได้ทำการสวมเครื่องมงคลของหลวงปู่ท่านแล้วประกอบกับได้ร่วมพิธีกรรมนี้ยิ่งทำให้เกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในกายของคนผู้นั้นเข้าไปอีก และทำให้เครื่องรางที่ใส่พลอยมีความเข้มขลังยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย เพราะอำนาจจากการประจุพระเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่กาหลงท่านที่ลงไว้ในกายของทุกท่าน เมื่อผนวกเข้ากับพระเวทย์พลังจิตที่หลวงปู่ท่านลงไว้ในวัตถุมงคล พลังงานทั้งจากร่างกายของบุคคลย่อมผสานเป็นหนึ่งเข้ากับพลังงานจากภายในตัววัตถุมงคล เป็นการเสริมพลังความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดอานุภาพแก่กล้าทั้งด้านคงกระพัน โชคลาภ เสน่ห์ เมตตามหานิยมยิ่งๆ ขึ้นไป ดังนั้นใครก็ตามที่มีวัตถุมงคลของหลวงปู่ ก็ควรที่จะได้รับการลงวิชากะโหลกทองคำนี้เพื่อเสริมพระเวทย์ให้แก่กล้าเสริมบารมีตัวเองไปในตัว หรือผู้ที่มีได้ลงวิชากะโหลกทองคำไปแล้วก็ควรจะหาวัตถุมงคลของหลวงปู่ไว้กับตัวสักชิ้นเพื่อเป็นการเสริมบารมีตัวเองเสริมพลังงานภายในที่หลวงปู่ประจุให้ ให้บังเกิดความเข้มขลังยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

ขั้นตอนในการลงวิชากะโหลกทองคำนั้นก่อนเริ่มเข้าสู่พิธี หลวงปู่ท่านจะทำน้ำพระพุทธมนต์เตรียมไว้ก่อน จากนั้นลูกศิษย์ของท่านที่จะช่วยในการปิดทองคำเปลงหรือประกอบพิธีกรรมจะทยอยเข้ามากราบหลวงปู่ เพื่อให้หลวงปู่ท่านประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ การประสิทธิ์ประสาทวิชาให้นี้หลวงปู่กาหลงท่านจะนำหัวนิ้วโป้งไปแตะเพดานปาก จากนั้นนำมาแตะที่กระหม่อมของบรรดาลูกศิษย์ เป็นการประกาศิตด้วยเขี้ยวแก้วของท่านมีมีอยู่บนเพดานปากนั่นเอง เพื่อให้ศิษย์ทุกคนที่จะเข้าช่วยในการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์เกิดบารมีเกิดความขลังในการช่วยท่านประกอบพิธีต่างๆ เมื่อถึงเวลาที่ทำพิธีผู้ที่ประสงค์จะลงวิชากะโหลกทองคำเริ่มทำการรับพานครู จากนั้นคลานเข้าไปกราบหลวงปู่ท่าน หลวงปู่ท่านจะรับพานครูจากนั้นหลวงปู่กาหลงท่านจะทำการจารอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ตัว “นะ” ที่เรียกว่า “นะพระลักษมณ์หน้าทอง” ให้กับทุกท่านที่เข้าพิธีด้วยมือท่านเองทุกคน พร้อมทั้งบริกรรมคาถาเรียกสูตรเรียกนามพระลักษมณ์หน้าทองเป่ากำกับไปในตัว เรียกว่าเป็นความปลาบปลื้มของทุกท่านที่ได้เข้าร่วมพิธีนี้ จากนั้นลูกศิษย์ของท่านที่ได้รับการครอบครู ได้รับอนุญาตจากหลวงปู่จะทำการปิดทองคำเปลวให้เป็นจำนวน ๑๐ แผ่น ๑๐ แผ่นที่หน้าผาก แผ่นสุดท้ายปิดที่ลิ้น เพื่อเป็นเสน่ห์แก่คำพูดคำจา ว่าแต่นี้ไปเมื่อพูดสิ่งใดก็จะมีคนเชื่อ ชื่นชอบในเสียง ในถ้อยคำเสมอไป
    
เมื่อเสร็จจากการลงอักขระและปิดทองแล้วทุกคนจะรอให้หลวงปู่กาหลงทำการเป่าพระคาถาประสิทธิ์ประสาทอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะอยู่ในมณฑลพิธี โดยเอาสายสิญจน์มาคล้องศีรษะเอาไว้ หลวงปู่กาหลงทำการบริกรรมคาถานะหน้าทองซึ่งโดยมากท่านจะท่องพระคาถาพระลักษมณ์หน้าทองที่ท่านร่ำเรียนมา จากนั้นท่องพระคาถาชินบัญชร และพระคาถาศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่ท่านร่ำเรียน แล้วทำการเป่าครอบให้ทุกท่านที่มาลง จากนั้นประพรมน้ำพระพุทธมนต์เป็นอันเสร็จพิธี

ที่สุดแห่งคาถาอาคม "วิชากระโหลกทองคำ" !!! อานุภาพทรงพลังของครูบาอาจารย์ และวิชาอันเร้นลับสำหรับผู้มีบุญบารมี !!!

ขณะที่ทำพิธีอยู่นั้นบางท่านที่มีการสักยันต์ หรือมีองค์ มีเทพ ประทับแฝงอาจมีอาการของขึ้นหรือ ออกองค์ให้เราได้เห็นกันเป็นระยะด้วย แสดงให้เห็นว่าองค์ใน หรือของที่มีอยู่ภายในตัวนั้นได้สัมผัสกับพลังจิตของหลวงปู่กาหลงท่าน  ทำให้สิ่งที่อยู่ภายในแสดงตัวออกมา เพื่อทำการสักการะหลวงปู่ท่าน หลายท่านที่สัมผัสพลังความเมตตาจากหลวงปู่จะบอกเหมือนๆ กันว่าเย็นมาก ทั้งๆ ที่บริเวณที่ทำพิธีนั้นจะไม่เปิดแอร์ หรือเปิดก็เปิดแต่อ่อนๆ เพราะหลวงปู่ท่านไม่ชอบแอร์ แต่คนที่มาสัมผัสท่านจะบอกเหมือนๆ กันว่าพลังท่านเย็นมาก จนเป็นที่ปิติใจของผู้ที่มากราบท่านทุกคนไป
    
ผู้ที่ลงวิชากะโหลกทองคำทุกท่านมั่นใจได้ว่าตนได้รับสิ่งอันเป็นสิริมงคลที่ติดไปกับร่างกายของคนผู้นั้นไม่มีวันเสื่อม ไม่มีข้อห้าม เว้นแต่อย่าไปผิดศีลเท่านั้น อำนาจจากวิชากะโหลกทองคำคือ จะเสริมวาสนา บารมี เสริมสง่าราศีแก่ตัวเอง ทำให้เกิดเมตตามหานิยม ด้วยเดชเดชะแห่งทองคำที่เสกลงไปในกระหม่อม ทั้งยังก่อให้เกิดสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความจำดีหากเป็นนักศึกษาจะเรียนเก่ง มีปฏิภาณไหวพริบ อำนาจจากวิชากะโหลกทองคำยังดีทางด้านคุ้มครองจากคุณไสยมนต์ดำ อุบัติเหตุเภทภัยทั้งหลายทั้งปวงอีกประการหนึ่งด้วย ไปไหนมาไหนเดินทางไกลก็ปลอดภัยด้วยเดชอำนาจของวิชากะโหลกทองคำนี้ ผู้ที่ได้ลงแม้สักครั้งหนึ่งในชีวิตย่อมถือว่าเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาอย่างแท้จริง
    
อนึ่งผู้ที่ได้ลงวิชากะโหลกทองคำแล้วมีเครื่องรางอของหลวงปู่กาหลงติดตัวย่อมทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์เป็นอิทธิฤทธิ์ยิ่งๆ ขึ้น โดยเฉพาะ วัตถุมงคลที่เป็นพระลักษมณ์หน้าทองได้แก่เศียรพระลักษมณ์ ทั้งเนื้อนวะและเนื้อผง ตะกรุดพระลักษมณ์หน้าทอง และผ้ายันต์พระลักษมณ์หน้าทอง เพราะเป็นวิชาสายเดียวกันย่อมเพิ่มพลังแก่กันและกันไปในตัว ทำให้เกิดความเมตตามหานิยมยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคอยค้ำชูให้ความคุ้มครองช่วยเหลือเป็นสิริมงคลต่อตัวท่านเองตลอดไป

ที่สุดแห่งคาถาอาคม "วิชากระโหลกทองคำ" !!! อานุภาพทรงพลังของครูบาอาจารย์ และวิชาอันเร้นลับสำหรับผู้มีบุญบารมี !!!

อ้างอิงข้อมูลจาก - หนังสือ เขี้ยวแก้วประกาศิต อิทธิฤทธิ์หลวงปู่กาหลง