- 25 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ทีมงานจะพาไปหาคนที่ตอแหล หลังจากที่เว็บ https://hilight.kapook.com ได้มีการเผยแพร่ เมือวันที่ 13 พฤษภาคม 2558 วิธีจับผิดคนโกหกด้วยวิธีสุดเบสิก ซึ่งในปัจจุบันมีคนอย่างนีั้เยอะมา ที่คอยแต่คิดว่าใครจะรู้ว่าเรากำลังโกหก และแน่ใจว่าไม่มีใครรู้แน่นอน ซึ่งเป็นเบสิคมากๆ ต่อให้พยายามจะโกหกแค่ไหน ก็สามารถจับได้แน่นอน ซึ่งวันนี้ผู้อ่านจะได้เข้าใจมากขึ้น และจะได้รู้วิธีง่ายๆช่วยป้องกันคนโกหกใส่เรา ที่คิดว่าเราโง่ ซึ่งมีอะไรบ้างตามนี้เลยจะได้รู็ว่าเป็นอย่างไรครับ
1. สีหน้า
ต่อให้พยายามหลบตาเราจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ทว่าเงื่อนงำที่ซ่อนอยู่ในใจของเขาจะถูกแสดงตัวออกมาทางสีหน้า แต่มันยากตรงที่สีหน้าของเหล่าคนโกหกจะเปลี่ยนแปลงแค่ชั่วเสี้ยววินาทีเท่านั้น ซึ่งคนจับผิดเองก็ต้องตาไวมาก ๆ อ้อ ! แต่ก็ยังมีจุดสังเกตอื่น ๆ เช่น ปีกจมูกที่บานเข้า ๆ หุบ ๆ เพราะลมหายใจที่ผิดปกติ หรือจะเป็นอาการกะพริบตาถี่เกิน เนื่องจากสมองกำลังประมวลคำโป้ปดอยู่ก็นับเป็นสัญญาณของคนโกหกที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือได้เหมือนกันค่ะ
2. อาการเหนียม ๆ ผิดปกติ
ร้อยทั้งร้อยของคนที่กำลังโกหกอยู่จะมีความมั่นใจที่ลดน้อยกว่าปกติ เช่น จากที่เคยพูดจาฉะฉานดี จู่ ๆ ก็มีท่าทางกระมิดกระเมี้ยนระหว่างที่สื่อสารกับเรา หรือบางรายอาจไขว้มือเก็บไว้ข้างหลังพร้อมกับโยกตัวเบา ๆ เพื่อลดความตื่นเต้นกับการโกหกของตัวเองอย่างนี้ก็มี ฉะนั้นหากคนที่คุณกำลังพูดคุยด้วยมีอากัปกิริยาดังกล่าว คิดเผื่อไว้เลยว่าสิ่งที่คุณได้ฟังจากเขาอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแล้วล่ะ
3. สังเกตจากรอยยิ้ม
รอยยิ้มเป็นหนึ่งในอาการตอบสนองของมนุษย์ที่จะแสดงออกมาได้ก็ด้วยคำสั่งของสมองและสิ่งที่คิดอยู่ในใจ ดังนั้นหากจับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของคู่สนทนาดูแปลก ๆ ไร้ซึ่งความจริงใจ บวกกับแววตาที่ไม่มั่นคงและริมฝีปากที่เหมือนจะสั่นหน่อย ๆ ฟันธงได้เลยว่าคุณกำลังเจอกับคนขี้โกหกตัวเป็น ๆ
4. น้ำเสียงและการพูด
น้ำเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติอาจไม่เพียงพอจะปรักปรำใครว่าเขากำลังโกหกอยู่ ทว่าหากน้ำเสียงก็ไม่ปกติ ลักษณะการพูดก็เร็วขึ้นหรือช้าลง พร้อมกับลมหายใจขณะที่พูดอะไรออกมาก็ถี่กระชั้นจนจับสังเกตถึงความผิดปกติได้ เมื่อทุกอย่างผสมกันแล้วก็มีแนวโน้มว่าคู่สนทนาของคุณกำลังมโนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงอยู่
5. พูดจาวกไปวนมา
เมื่อต้องแต่งเติมเสริมเรื่องที่เกินความเป็นจริง หรืออยู่ในภวังค์แห่งการมโนอันยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าคงไม่มีใครเก่งพอจะเรียบเรียงความคิดได้อย่างลื่นไหลแน่ ๆ ฉะนั้นคนที่ชอบโชว์ความสตรอว์เบอร์รีมักจะพูดจาวกวนไปมา หรือบางคนจะสังเกตได้จากการพูดจาตะกุกตะกัก ฟังแล้วงง โดยเฉพาะหากต้องเล่าอะไรยาว ๆ อาการผิดปกติเหล่านี้จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น
6. เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับผิดกล่าวว่า หากต้องพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดและความต้องการของตัวเอง คนพูดจะมีลักษณะทางกายภาพที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น จากที่เป็นคนพูดจาฉะฉาน สบตาคู่สนทนาอยู่ตลอด หากกำลังโกหกอยู่ก็จะหลบตาพร้อมกับน้ำเสียงที่พูดก็แผ่วเบาแทบจับใจความไม่ถนัด หรือบางรายอาจจะพูดจาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ทว่าดวงตาไปด้วยกันไม่ได้กับรอยยิ้มและสิ่งที่พูดออกมาแม้แต่น้อย
7. หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
คนโกหกมักจะหลีกเลี่ยงการตอบคำถามอยู่แล้ว เพราะการตอบคำถามอะไรก็ตามแต่อาจทำให้เขาหลุดอาการพิรุธบางอย่างออกมาได้ โดยเฉพาะหากคุณยิงคำถามอะไรไปแล้วคู่สนทนาดูทำท่าคิดอยู่นาน หรือมีอาการอยากเลี่ยงการตอบคำถามมากเป็นพิเศษ 99% ฟันธงได้เลยว่าเขาเหล่านั้นกำลังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอยู่
หลังจากได้อ่านมาแล้ว ใครพอจะเข้าใจได้มากขึ้นว่า วิธีจับคนโกหกได้ง่ายเพียงแค่ทำตามนี้คุณก็จะหายโง่ และจะได้รู้ว่าใครจริงจังกับเราบ้าง ต่อไปนี้ใครคิดจะมาโกหกจะได้ไม่กล้ามาโกหกอีกต่อไปนะ และ 7 วิธีนี้เท่านั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่ใหญ่เกินไปพอรับได้ ก็ปล่อยให้เขารู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เขาคิดดีกว่านะครับว่าเขาเก่ง สิ่งแล้วทุกอย่างถ้าเป็นเร่ืองเล็กก็สามารถปล่อยวางได้ก็จะดีกว่ากับตัวเองมากที่สุด
ขอบคุณบทความดีจาก https://hilight.kapook.com
ขอบคุณภาพสวย จาก https://pixabay.com