- 11 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ได้มีข่าวฮือฮาเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ติดตามคดีเงินทอนวัด อย่างใจจดใจจ่อว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร โดยได้มีสมาชิกเฟสบุ๊คคนหนึ่ง ที่ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับคดีนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการพูดถึงความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ที่เข้าตรวจสอบทั้งที่ยังไม่มีการแจ้งมายังสื่อมวลชน แต่กลับมาประกาศลงเฟสบุ๊คส่วตัวที่ชื่อว่า "พิสิฐชัย สว่างวัฒนากร" โดยได้มีการโพสต์ข้อความต้อเนื่องดังนี้...
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี "DSI สอบข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่ให้ข่าวเกี่ยวกับการดำเนินคดีเงินทอนวัด" โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ กรณี นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการจับกุมดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดต่างๆ เกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด ซึ่งการดำเนินคดีอาญาในเรื่องดังกล่าว เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมนั้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงโดยด่วน เนื่องจากคดีดังกล่าว DSI ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถึงแม้ว่าจะเป็นการเขียนผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวก็ถือว่ามีความผิดเนื่องจาก นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร เป็นข้าราชการระดับสูงของดีเอสไอ แต่กระทำการให้ประชาชนสับสนเป็นอันเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง
โดยล่าสุด นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยได้โพสต์ข้อความว่า...
แก้ไข
ตามที่ข้าฯได้โพสต์เกี่ยวกับการดำเนินการวัดใหญ่ใน กรุงเทพฯ 4 วัด โดยข้าติดตามข่าวจากสื่อสารมวลชนต่างๆแล้วเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนจึงขอแก้ไขข่าวว่า ไม่มีการดำเนินการตามที่โพสต์แต่อย่างใด วัดที่โพสต์ไปมีวัดปากน้ำ วัดพิชัยญาตฯ. วัดบวรฯ วัดราชสิทธิฯ
จึงขออภัยมา ณ โอกาสนี้
ทั้งนี้ได้มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาต่อว่า เป็นถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงแต่ปล่อยข่าวแบบนี้เป็นการขาดวุฒิภาวะหรือไม่ ??