- 17 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
คาถามหาลาภ
ของหลวงพ่อชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
นะโม 3 จบ
"อาถรรพ์โธ โมสิตังวะ คะริงคะรัง อิสะวาสุ
อาถรรพ์โธ โมสิตังวะ คะริงคะรัง สุสะวาอิ
นะโมเม พุทธะเตเชนะ นะมะพะทะ
สะทะวิปิ ปะสะอุ ทิมะสังอังขุ
สังวิธาปุกะยะปะ อาปามะจุปะ
อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะชาลีติ
อะระหังสัมมา สัมมานิมามา
มหาสะมานา ธะนะโภคา สัมมาอะระหัง
อิติฤทธิชื่นประสิทธิ์ ภะวันตุเม"
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
9 จบเช้า-เย็น สวดทุกวันไม่จนเลยถ่ายทอดโดยอาจารย์สรยุทธศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อชื่น หลวงพ่อบอกว่าในการข้างหน้าอาจเกิดปัญหาเศรษฐกิจอีกข้าวยากหมากแพงท่านจึงฝากคาถานี้ ให้ลูกศิษย์ได้กล่าวภาวนากัน
ก่อนจะใช้อย่าลืม อาราธนาบุญบารมีของพระอาจารย์เจ้าของวิชาให้มาประสิทธ์ประสานพรให้วิชาเราสำเร็จ
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี
สงครามโลกครั้งที่ ๒ ทำให้เกิดกลียุคทั่วโลก ยิ่งประเทศเล็กประเทศน้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องรับกรรมหนักเพราะครอบครัวแตกสลายเนื่องจากความแร้นแค้นยากจนเป็นสาเหตุใหญ่
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
ครอบครัวของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาก็ได้รับความรุนแรงของไฟสงครามเช่นเดียวกัน ทำให้ญาติพี่น้องของหลวงปู่ชื่นลับหายตายจากไปหลายคน ซึ่งประเทศกัมพูชาขณะนั้นร้อนระอุสุด ๆ จนดูโหดร้ายไปทุกอย่าง ทำให้หลวงปู่ชื่นเกิดความเบื่อหน่ายจึงเดินธุดงค์เข้ามายังแผ่นดินไทยที่มีแต่ความสงบร่มเย็น
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
หลวงปู่ชื่น นามเดิมชื่อ ชื่น นามสกุล ศรีโสด เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๑ ปีมะเมีย ตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๖๑ เกิดที่บ้านหินกอง อำเภอหินกอง จังหวัดสวายศรีโสพล ประเทศกัมพูชา โยมบิดาชื่อ นายชุบ โยมมารดาชื่อ พิม ศรีโสด มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๗คน คือ นายเรียว, นายโพธิ์, นายบุญ, นายเกิด, หลวงปู่ชื่น, นางยอด และนางยาว ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ตามประสาชาวบ้านในชนบททั่วไปของชาวเขมร
ชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงปู่ชื่น นิสัยท่านเป็นคนใจบุญ มีความสุขุมลุ่มลึก และมีใจโอบอ้อมอารีชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ทั้งยังมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ๆ พออายุได้๑๕ ปี ได้ขอบิดามารดาบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งพ่อแม่ไม่ขัดข้อง ท่านจึงได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดในหมู่บ้านเกิดของท่าน
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
หลังจากบวชเณรได้ระยะหนึ่งพอถึงอายุ ๒๐ ปี หลวงปู่ชื่นก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาโดยได้รับฉายาว่า ติคญาโณ เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้ว หลวงปู่ชื่นได้ศึกษาบทสวดมนต์และบทสวดปาติโมกข์ ซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งพรรษาก็สวดพระปาติโมกข์ได้แล้ว นับว่าหาพระที่เก่งเช่นนี้น้อยมาก เพราะการท่องบทพระปาติโมกข์พระบางรูปต้องใช้เวลานานนับ๕ ปี ๑๐ ปี เนื่องจากเป็นบทสวดที่ยาวและยากที่สุดนั่นเอง
หลวงปู่ชื่นสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในพรรษาที่ ๓ หลังจากนั้นท่านจึงออกเดินธุดงค์ปลงสังขารลัดเลาะไปตามป่าดงพงพี ข้ามเขาลงห้วยในดินแดนประเทศกัมพูชา ทำให้ท่านได้พบกับครูบาอาจารย์ที่เก่ง ๆ อยู่หลายรูป ซึ่งแต่ละอาจารย์ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่ตนมีอยู่ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น โดยเฉพาะฤๅษีที่บำเพ็ญพรตอยู่กลางป่าดงดิบได้ถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้หลวงปู่ชื่น เพื่อให้นำไปช่วยเหลือศิษย์ต่อไปอีก
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
หลวงปู่ชื่นเป็นพระเถระที่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย มีศีลจารวัตรที่งดงาม ชอบบำเพ็ญกุศลเพื่อเสริมสร้างบารมีให้แก่กล้าขึ้น ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสามทำวัตรสวดมนต์ และช่วงค่ำก็เช่นกันท่านจะสวดมนต์มิได้ขาด (นอกจากจะมีกิจนิมนต์และป่วยเท่านั้น)
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
หลวงปู่ชื่นชอบทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมเป็นที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์ทั้งหลายอีกด้วย ท่านจึงเป็นที่รักเคารพของศิษย์และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมากในขณะนี้
หลวงพ่อชื่น วัดตาอี
อ่านเพิ่มเติม... "หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่"มอบคาถา..พระฉิมพลีให้ลาภ "ใครทำได้ชีวิตนี้ไม่มีตกอับ"
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูล
ธรรมะกับการทำงาน
http://www.bp.or.th/