ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

            จากกรณีที่มีเด็กนักกีฬานักฟุตบอลและโค้ช รวม 13 ชีวิต ได้สูยหายเข้าไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มิถุนายน 2561) และไม่กลับออกมาอีกเลย ในขณะนี้หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหากันอย่างต่อเนื่อง เริ่มใกล้เข้าจุดที่คาดว่า เด็กๆน่าจะอยู่

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

           ล่าสุดชาวบ้านทีมเก็บรังนกนางแอ่น บนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ร่วมกับชาวบ้านระดมทุนซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปยัง จ.เชียงราย เพื่อปีนป่ายหาทางเข้าไปในถ้ำหลวง ช่วยเหลือน้องๆ 13 ชีวิต

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

 

 

           จากกรณีนี้เอง ทางผู้ใช้เฟสบุ๊ค Jirawan Phosarat ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ชาวบ้าน ทีมเก็บรังนกได้อาสาเข้าช่วยเหลือ เด็กๆและโค้ช ที่สูญหายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ทั้ง 13 ชีวิต โดยระบุว่า

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

         เหตุการณ์เด็กติดถ้ำ เกาะติดสถานการณ์มาหลายวันพูดกับเขาได้ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ ยกเว้น เรื่อง พี่ๆ ที่มาจาก จ.ตรัง ที่มีอาชีพรับจ้างปีนเก็บรังนก ที่เกาะลิบง มาช่วยน้องๆทีมหมูป่า พูดถึงไม่ได้เลย มันจุก มันตื้นตัน มันน้ำตาปริ่ม พูดต่อไม่ได้เลย....!!! คือ...!!

   

         พี่ๆเค้าไม่มีเงินมาต้องรวบรวมเงินจากคนในหมู่บ้านเดียวกัน จากชาวบ้านเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ตอนกลับจะเอาเงินจากไหนพวกเขายังไม่ได้คิด คิดแค่ว่ารีบมาช่วย เดี๋ยวไม่ทันการ เอาใจกับความชำนาญและความตั้งใจมาช่วยเด็กๆ และทำผลงานได้น่าทึ่ง พี่ๆเค้าสามารถมุดลงไปในโพลงถ้ำ 40 เมตร แบบไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

 

      และที่สำคัญ พวกพี่ เขา เอาใบอนุญาติ มากันด้วยนะ กลัวเค้าไม่ให้ปีน กลัวเค้าไม่ให้ช่วย กลัว “สี” ว่า พี่เค้าเอาใบอนุญาตมาด้วย พี่ๆเค้าได้ลงเรือหางยาวเพื่อข้ามฟากจากเกาะลิบง มายังฝั่งในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ก่อนนั่งรถไปยังท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อเดินทางไปถึง จ.เชียงราย ชาวบ้านและผู้คนในพื้นที่ได้ระดมทุนช่วยค่าเดินทาง โดยเฉพาะค่าเครื่องบิน ที่ต้องจ่ายคนละ 2,890 บาท หรือรวมทั้งสิ้น 23,120 บาท

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

      ซึ่งทันทีที่เดินทางไปถึงถ้ำ พี่ๆจะรีบปีนป่าย หาทางเข้าถ้ำทันที ขอเพียงแค่อาหารเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวเท่านั้นและจะปักหลักอยู่ที่นั่นจนกว่าจะพบ 13 ชีวิต ไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่วันก็ตาม

 

#ร้องให้ 
มันบอกไม่ถูก มันตื้นตัน 
#คนไทยรักกัน

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

         ล่าสุดได้มีผู้ใจดี เข้าติดต่อ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับของ ทีมเก็บรังนก ชาวตรังที่ได้เข้าช่วยเหลือ เด็กๆและโค้ช ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน โดยระบุว่า

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

#ทีมนกนางแอ่น #ทีมนกนางแอ่น 

มีข่าวดีนะค๊ะ 

มีพี่ (ผู้ชาย) ใจดี ติดต่อมา ยินดีซื้อตั๋วเครื่องบินขากลับ ให้พี่ๆ #ทีมนกนางแอ่น คร๊าาาาาา

#อยากให้ข่าวดีนี้ ถึงหูพี่ๆ #ทีมนกนางแอ่น พี่เค้าจะได้มีกำลังใจ พี่เค้าจะได้ไม่มีกังวลใดๆในการช่วยเหลือทีมหมูป่าของเรา นะคะๆๆๆ ช่วยให้ข่าวนี้ ถึงหูพี่ๆ #ทีมนกนางแอ่น

 

รักทุกการช่วยเหลือ 
ขอบคุณๆๆๆๆๆๆๆ ที่นี่ประเทศไทย..!!
#รักเมืองไทย #ถ้ำหลวง #ทุกคนต้องรอด 
#วันนี้ต้องมีข่าวดี #วันนี้ต้องมีรอยยิ้ม

 

 

 

 

           หลังจากมีการเผยแพร่ โพสต์ดังกล่าวออกไปก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงควาคิดเห็นเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงได้ให้กำลังใจและชื่นชมในน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ ของทีมเก็บรังนกที่ได้เข้าช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

ไม่มีเงิน..แต่อยากมาช่วย!! "ทีมเก็บรังนก จ.ตรัง" หมดห่วง..คนไทยใจดี..ขอช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกลับทั้งหมด!!

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค Jirawan Phosarat