จะขอบคุณเจ้าหน้าที่..ก็อย่าเผลอปรามาสพระ!! "ครูบาบุญชุ่ม" ที่พึ่งทางใจ แม้ไม่ได้..ดำน้ำ ฝ่าเข้าถ้ำ แต่ทำหน้าที่ของภิกษุได้อย่างสมบูรณ์!!

   

         จากกรณีที่มีเด็กนักกีฬานักฟุตบอลและโค้ช รวม 13 ชีวิต ได้สูยหายเข้าไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มิถุนายน 2561) และไม่กลับออกมาอีกเลย ในขณะนี้หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ ได้พบเด็กๆและโค้ชทั้ง 13 ชีวิต และทุกคนปลอดภัยดี โดยจุดที่พบอยู่ห่างจากพัทยาบีช 400 เมตร

 

 

 

 

           โดยก่อนหน้านี้ ครูบาบุญชุ่ม ได้เดินทางมาที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และได้ทำพิธีเปิดทางให้พบเด็กๆและโค้ชที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเด็กๆและโค้ช รวมไปถึงครอบครัวของทีมหมูป่าและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้สูญหาย ซึ่งพิธีนี้เป็นการทำตามความเชื่อ พร้อมกับแผ่เมตตาให้กับเจ้าแม่นานอน ที่เชื่อว่าได้สิงสถิตอยู่ ณ ถ้ำหลวงแห่งนี้

 

          หลังจากมีการพบตัวเด็กๆและโค้ชทั้ง 13 ชีวิต ก็ได้มีกระแสโจมตีครูบาบุญชุ่ม หลังจากที่ท่านได้ทำพิธีและได้กล่าวว่า อีก 2 วันจะได้เจอเด็กๆ สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ เป็นการกู้ภัยระดับโลกเลยก็ว่าได้ โดยหน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มความสามารถ ทุ่มเท ร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทั้งประเทศ จนในที่สุดก็สามารถช่วยเหลือ ทั้ง 13 ชีวิต ออกมาได้อย่างปลอดภัย

 

           บางรายที่ศรัทธาในพระครูบาบุญชุ่ม ก็ต่างพากันฮือฮาในคำบอกกล่าวก็ครูบาที่ว่าจะเจอเด็กๆในอีกสองวัน ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นการให้กำลังใจ เรียกขวัญเหล่าบรรดาครอบครัวและเจ้าหน้าที่ และมีอีกฝ่ายที่โจมตีครูบาบุญชุ่ม กล่าวว่า การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าหน้าที่และหน่วยซีลควรจะขอบคุณพวกเขา โดย ผู้ใช้เฟสบุ๊ค อรุษ ของขลัง ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ โดยระบุข้อความว่า

 

 

สถานการณ์ฝุ่นตลบ

สิ่งที่สำคัญที่สุดจะเลือกเสพข่าวหรือโพสอะไร อย่าลืมว่าเฟสบุ๊ค นี้คือสื่อสาธารณะเพราะมีคนเห็นมากกว่า 1 คน

         ทุกท่านคือวีรบุรุษที่ได้ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือ ทั้ง 13 ชีวิต ทั้งที่่ไม่ใช่แม้แต่ญาติพี่น้อง แต่ด้วยสำนึกความเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจที่ประเสริฐ ที่เห็นคุณค่าในชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

 

 

         ที่ผมโพสเจอเพื่อนในเฟสผมหลายท่านโพสกรณีครูบาบุญชุ่ม ที่ผมค่อนข้างสะเทือนใจเห็นแนวควาคิดหลายท่าน ที่วิพากษ์วิจารณ์โจมตีครูบา แล้วรู้สึกว่ามันไม่โอเค คือการว่าว่าครูบามุดถ้ำลงไปช่วยเด็กหรือป่าว วิดน้ำไปช่วยหรือป่าว สาระพัดสาระพัน ควรต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วย ถูกต้องครับ

 

 

         ที่ต้องให้การชมเชยหน่วยซิล และทุกภาคส่วนที่เสียสละ และต้องขอบคุณท่านครูบาบุญชุ่ม และพระที่เข้าไปทำหน้าที่ ในการเป็นที่พึงญาติโยมในยามทุกข์ยาก นี้แหละครับคือหน้าที่ของผู้นำทางจิตวิญญาณผู้เป็นที่พึงทางใจ ฟังแล้วคิดตามนะครับ

 

 

         ท่านไม่ได้มาเพราะว่าท่านมาเองหรือจะมาเอาหน้า แต่มีญาติโยมนิมนต์ท่านมา ท่านก็มาตามที่ญาติโยมนิมนต์ แต่ถ้าท่านไม่มาสิครับ อันนี้โดนด่าผมจะไม่เถียงแทน เอาจริงๆท่านดั่งอยู่แล้วครับ

 

 

 

 

 

         ท่านคือที่พึ่งทางใจ ที่สำคัญในขนาดที่ทุกคนแม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องการกำลังใจ ญาติพี่น้อง พ่อแม่เด็กก็ต้องการกำลังใจ พระท่านคือที่พึงทางใจผู้นำทางจิตวิญญาณท่านก็ได้ทำหน้าที่ที่สำคัญ ในสถานการณ์แบบนี้กำลังใจคือสิ่งสำคัญ แบบเดียวกับที่พระอจารย์ธรรมโชติท่านทำ ในยามศึกยามสงครามท่านก็ต้องออกมาเป็นกำลังให้ชาวบ้านบางระจัน ทัั้งๆที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่ชาวบ้านนิมนต์ก็ปฎิเสธไม่ได้ นี้แหละครับคือใจความสำคัญ

 

 

           ย้อนมาดูเรา ตอนนี้เรานั่งหน้าคอม จะพิมพ์ว่าใครก็ได้ให้มันปาก แม้แต่หน้าที่พลเมืองพื้นฐานในการให้ความช่วยเหลือในทางใดทางหนึ่งยังไม่มีเลย ก็ได้แต่พ่นน้ำลายในเฟส ครูบาท่านยังดั้นด้นเดินทางไปสถานที่เกิดเหตุไปทำหน้าที่ของความเป็นพระ ที่เป็นที่พึงของญาติโยม ไม่ละอายใจบ้างหรือครับที่ได้แต่พร่ำในเฟส แถมยังไปด่าคนที่เขาทำหน้าที่ของเขา คือผมสุดๆจริงไม่อยากโพสให้เสียมิตรภาพ แต่เงียบมานานแล้ว

 

 

 

ขบอคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค อรุษ ของขลัง