"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช

อนึ่ง ขอภูมิพลภิกษุนั้น ทรงดำรงอยู่ในความเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภก์ จงทรงอุปถัมภ์จัดแจงทะนุบำรุงเพื่อความงอกงามไพบูลย์แห่งพระพุทธศาสนา เทอญ ฯ

พระราชฉายาบัฏ
ที่ 1582

 

เมื่อปี 2499 แต่ปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ล่วงไปแล้ว
ในปีปัจจุบันที่ 2500 เมื่อ ณ วันจันทร์ สุรทินที่ 22 ตุลาคมมาส วัสสานฤดู
ล่วงเวลา 4 นาฬิกา 23 นาที แต่เที่ยง
ภิกษุ พระนามว่า ภูมิพละ อุปสมบทแล้วในพัทธสีมาแห่งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ครั้นล่วงเวลา 5 นาฬิกา 43 นาที แต่เที่ยง
ทำทัฬหิกรรม ณ พัทธสีมาแห่งพระพุทธรัตนสถาน
มีท่านสุจิตตะ เป็นพระอุปัชฌายะ
ท่านอุฏฐายี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ฯ
 
ขอภูมิพลภิกษุนั้น จงทรงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระธรรมวินัย
ที่พระตถาคตเจ้าทรงประกาศแล้ว
 
อนึ่ง ขอภูมิพลภิกษุนั้น ทรงดำรงอยู่ในความเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภก์
จงทรงอุปถัมภ์จัดแจงทะนุบำรุงเพื่อความงอกงามไพบูลย์แห่งพระพุทธศาสนา เทอญ ฯ

"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช

สมเด็จพระราชชนนี ทรงจรดพระกรรไกร หลังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499


"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
ทรงเครื่องตามแบบผู้แสวงอุปสมบท เสด็จฯ เข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี
พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก 
พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 
เป็นการส่วนพระองค์ตามราชประเพณี
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
สมเด็จพระราชชนนี ถวายผ้าไตรเพื่อทรงขอบรรพชา ในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือไตรเข้าไปขอบรรพชาในท่ามกลางสงฆ์ต่อสมเด็จพระสังฆราช
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
สมเด็จพระสังฆราชถวายโอวาทสำหรับบรรพชา และถวายผ้ากาสายะ เพื่อได้ทรงครองอุปสมบท
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ กลับเข้าในพระฉาก ทรงครองกาสาวพัสตร์ตามเพศบรรพชิต 
พระโศภนคณาภรณ์ (เจริญ สุวฑฺฒโน ป.9) แต่งพระองค์ถวาย
 
 

"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช

เสด็จฯ ออกจากพระฉากเข้าสู่พระอุโบสถ รับสรณคมน์และศีลต่อสมเด็จพระสังฆราช  
สำเร็จบรรพชากิจเป็นสามเณรแล้ว ทรงขอนิสัยสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ 
ถวายพระสมณนามว่า ภูมิพโล ทรงขออุปสมบท
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
พระสงฆ์ถวายการอุปสมบท โดยมี สมเด็จพระสังฆราช 
(หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์ ฉายา สุจิตฺโต ป.7)  วัดบวรนิเวศวิหาร  
เป็นพระราชอุปัธยาจารย์
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
พระศาสนโศภน (จวน อุฏฐายี ป.9) วัดมกุฏกษัตริยาราม 
เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ 
ทูลซักถามอันตรายิกธรรม

 

"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช

เมื่อทรงรับอุปสมบทเสร็จเป็นอันทรงดำรงภิกขุภาวะโดยสมบูรณ์แล้ว 
สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.9) วัดเบญจมบพิตร 
พระอนุศาสนาจารย์ ถวายอนุศาสน์
 
"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช

"ภูมิพโลภิกขุ" เมื่อในหลวงรัชกาล ที่ ๙ ทรงผนวช
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ เฝ้าฯ ในพระราชวังดุสิต 
วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499
 
 
Sathaporn Tnews.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thaprajan.blogspot.com