พระนามนี้มีที่มา!! เผยความหมายพระนาม ของ "ในหลวงรัชกาลที่ 9" และพระนามอื่นๆ ที่น้อยคนไม่เคยได้ยิน !!

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่เชื่อว่าเราคนไทยหลายๆคน ไม่ค่อยจะทราบกันเท่าไหร่นัก กับที่มาพระนาม ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระมหากษัตริย์ผู้เป็นมิ่งขวัญของชาวไทย ซึ่งพระนามของพระองค์นั้น มีความหมายลึกซึ้ง รวมถึงพระองค์เคยมีพระนามอื่นๆอีกด้วย
 

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เป็นพระโอรสองค์ที่สาม ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ทรงมีพระนามเมื่อแรกประสูติในสูติบัตรว่า "เบบี้ สงขลา"

 

 

 

 

ในกาลต่อมา สมเด็จย่า , พระเชษฐภคินี ( สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ) และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช (พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8) ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"

 

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงได้พระราชทาน พระนาม ให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านทางโทรเลข ซึ่งโทรเลขดังกล่าวส่งถึง สมเด็จย่า โดยในโทรเลขที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่งมอบให้นั้น ทรงสะกดพระนามเป็นอักษรโรมันว่า “Bhumibala Aduladeja” ทำให้สมเด็จย่าทรงเข้าพระทัยพระนามว่า "ภูมิบาล" และต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทราบพระนามที่ในหลวงรัชกาลที่ 7 พระราชทานให้นั้น พระองค์จึงทรงใช้พระนามว่า "ภูมิพลอดุลเดช"

 

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้พระนามสลับกันไปมา ระหว่าง "ภูมิพลอดุลเดช" และ "ภูมิพลอดุลยเดช" จนในที่สุด พระองค์ทรงนิยมใช้แบบหลัง ซึ่งมีตัว "ย.ยักษ์" สะกด

 

 

โดย ภูมิ หมายความว่า แผ่นดิน
พล หมายความว่า พลัง
อดุลย หมายความว่า ไม่อาจเทียบได้
เดช หมายความว่า อำนาจ