จากดินแดนคอมมิวนิสต์สู่เมืองเกษตรกรรม!! เรื่องเล่าจากลุงบนดอย ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก ในหลวง ร.9 ที่ปวงชนชาวไทยหลายคนยังไม่รู้

   วันที่ 13 พ.ค.61 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก‎Sukrit Thamvongsa‎ ได้โพสต์เรื่องราวดีๆระหว่างการเดินทางจากภูชี้ฟ้าจะไปไร่ชาฉุยฟง ได้มาเจอลุงคนหนึ่งกำลังตากเมล็ดกาแฟ จึงจะถามทางเพื่อความแน่ใจ จึงเป็นจุดเริ่มของบทสนทนาที่แสนเพลิดเพลินและซาบซึ้งยิ่งนัก

 

โดยระบุว่า 
#ทุกการท่องเที่ยวย่อมมีเรื่องราว 
  โพสนี้ผมขอแชร์ความประทับใจเรื่องราวดีๆของคุณลุงบนดอย และเรื่องราวเกี่ยวกับ ในหลวง ร.9 ที่มีความรักความเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณ เกี่ยวกับชาวบ้านบนดอยนี้ใน จ.เชียงรายครับ.....
เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ออกจากภูชี้ฟ้ามาเพื่อจะไปไร่ชาฉุยฟง ระยะทางกว่า 130 km. และ gps ก็เลือกเส้นทางลัดมาให้ พาผมขับผ่านป่าเขามาทางนี่ชันมากโหดสุดๆ จนมาเจอหมู่บ้านหนึ่ง และเห็นคุณลุงคนหนึ่งกำลังตากเมล็ดกาแฟอยู่ ผมเลยจอดถามทางเพื่อความแน่ใจอีกที แกก็บอกว่า "เห็นมาไกล พักจอดรถเข้ามากินกาแฟในบ้านลุงก่อนสิ" พอผมขึ้นมาบนบ้าน แกก็แนะนำกาแฟของดอยนี้ เป็นเมล็ดกาแฟสดๆพึ่งคั่ว นำมาต้มให้ผมกิน โดยไม่ใส่อะไรเลย ขมมากก แกเลยหยิบน้ำตาลมาให้ แกมีน้ำใจมาก ให้ผลไม้กินบอกลองท้องไปก่อน ระหว่างผมนั่งกินกาแฟแกก็เล่าเรื่องของดอยนี้ว่า
สมัยเมื่อ 40 กว่าปีก่อนที่นี้เรียกว่า ดอยยาว หรือ ภูหลงถัง ลุงเคยเป็นคอมมิวนิสต์ กองทัพต่อสู้เพื่อประชาชน เพราะสมัยก่อนชาวบ้านแถวนี้ถูกหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ทุกคน ก็ต้องหลบเข้าป่าเข้าเขากัน ต่อสู้กับทหารมาจนภึงปี 2524 

 

 

 

 

 

 

มีทหารนายนึงชื่อ พันโทวิโรจน์ ได้เข้ามาเจรจากับฝ่ายลุง เขาบอกว่า #พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่า อยากจะมาเยี่ยมประชาชนที่นี่ อยากให้ทหารกับชาวบ้านเลิกทำสงครามกัน ถ้าที่นี่สงบศึกกันเมื่อไร พระองค์ท่านก็จะพระราชดำเนินมาที่นี่ พระองค์ท่านไม่เคยคิดว่าเราเป็นคอมมิวนิสต์ ท่านคิดว่าเราคือประชาชนของท่าน หลังจากนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายก็เจรจาสงบศึกกันฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก็นำอาวุธทั้งหมดส่วนนึงคืนให้ทหารไทย ส่วนนึงมาฝังไว้ในถ้ำ ไม่มีการสู้กันอีก และเมื่อปี 2525 ในหลวงท่านก็เสด็จมาเยี่ยมเยือนประชาชนที่นี่ คอยรับฟังปัญหาและหาวิธีแก้ไขพัฒนาวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ตามคำที่ท่านได้ให้สัญญากับชาวบ้านไว้ และทรงพระกรุณาพระราชทาน #ประทับรอยพระบาทของพระองค์ไว้ที่นี้ด้วย ทำให้ชาวบ้านมาร่วมกันสัญญากับพระองค์ว่าจะรักษาธรรมชาติ พื้นแผ่นดินไทยตรงนี้ไว้ เพื่อพระองค์ท่านและลูกหลานชาวไทยไปตลอด
หลังจากได้ฟังคุณลุงแกเล่าแล้วน้ำตาผมก็คลอเบาๆ คิดถึงพระองค์ท่าน ได้รับรู้เรื่องราวที่เราไม่เคยจะได้ยินว่าท่านทำให้พวกเราเพียงใด และผมก็ขอบคุณ คุณลุงสมาน ที่มีน้ำใจ ทำกาแฟสดให้ผมกิน และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับที่นี้ให้ฟังพร้อมกับบอกทางกลับที่ไม่อันตรายให้ผม ถ้าผมไม่หลงทางก็คงไม่พบกับประสบการณ์ดีๆเช่นนี้ และปัจจุบันนี้ที่นี้เรียกว่า ดอยพญาพิภักดิ์
ผมเชื่อว่ายังมีเรื่องราวอีกมากเกี่ยวกับพระองค์ท่านที่เรายังไม่รู้ และรอให้เราได้พบคำตอบอยู่ทุกที่ครับ
ขอบคุณครับ