กีฬาอาชีพกับกลไกสร้างรายได้ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางกีฬาโลก

ติดตามเพิ่มเติม www.tnews.co.th

        นับตั้งแต่พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพประกาศบังคับใช้เมื่อปี 2556 ผ่านพ้นไปแล้วกว่า 4 ปีที่มีส่วนช่วยยกระดับให้วงการกีฬาอาชีพไทยพัฒนาก้าวขึ้นมายืนหยัดอยู่ได้ รวมทั้งสร้างรายได้ และสร้างความสุขให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง จนถือได้ว่า กีฬอาชีพเป็นกลไกลส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ ทั้งด้านการกีฬา ด้านการท่องเที่ยว และด้านเศรษฐกิจกีฬาอาชีพของไทยในปัจจุบันได้รับกระแสความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาอาชีพในประเทศทั้งฟุตบอล, วอลเลย์บอล และบาสเกตบอล นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพรายการใหญ่ระดับโลก เพื่อเป็นการช่วยยกระดับต่อไปให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางกีฬาอาชีพระดับนานาชาติต่อไปด้วย

กีฬาอาชีพกับกลไกสร้างรายได้ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางกีฬาโลก


      “ผอ.น้อย” นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า เมื่อก่อนนี้กีฬาอาชีพจะเป็นส่วนที่ใช้จ่ายเงินรัฐบาลเพียงอย่างเดียวเพื่อพัฒนาให้เกิดความมั่นคง แต่ ณ บัดนี้ทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าว่า กีฬาอาชีพจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไปในตัวได้ด้วยภาครัฐบาลได้วางนโยบายการพัฒนาด้านกีฬาอาชีพให้สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เช่นเดียวกับด้านการท่องเที่ยว โดยในปี 2562 มีโครงการที่จะดึงการแข่งขันรายการกีฬาอาชีพแมตช์ใหญ่เข้ามาจัดแข่งขันในไทยเป็นจำนวนเยอะมาก  พร้อมกับผลักดันให้อุตสาหกรรมกีฬาไทยมีการเติบโตขึ้นด้วยทั้งนี้ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้บรรดานักกีฬาอาชีพระดับโลก รวมทั้งผู้ติดตาม และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งได้โมเดลมาจากการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานชิงแชมป์โลก “โมโต จีพี” ที่ จ.บุรีรัมย์ ในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้เดินทางเข้ามาไทยกว่าแสนคน และสร้างรายได้กับประเทศจำนวนมาก

กีฬาอาชีพกับกลไกสร้างรายได้ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางกีฬาโลก

      “ตอนนี้ประเทศไทยกำลังพยายามส่งเสริมกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่าง โมโตจีพี เป็นกลไกทางลัดในการนำกีฬาระดับโลกเข้ามาสร้างรายได้ให้ประเทศ ซึ่งช่วงนี้มีการตื่นตัวกันมาก และผมคิดว่าภายในอีก 1-2 ปีนี้ มอเตอร์สปอร์ตจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าติดท็อป 3 ของกีฬาอาชีพไทยแน่นอน” นายทนุเกียรติกล่าว
      นายทนุเกียรติ บอกอีกว่า ในปีหน้ากีฬาใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากการแข่งขันโมโตจีที่เราได้จัดต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว ยังจะมีการแข่งขันจักรยาน “เลแทป ไทยแลนด์ บาย เลอ ตูร์ เดอ ฟร็องส์” ที่ จ.พังงา ซึ่งถือเป็นจักรยานรายการใหญ่ที่เมืองไทยจะได้เป็นเจ้าภาพ 1 ใน 17 สนามทั่วโลกอีกด้วย

กีฬาอาชีพกับกลไกสร้างรายได้ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางกีฬาโลก

      นอกจากนี้ ยังจะมีการแข่งขันฟุตบอล “ยูธ อินเตอร์” โดยจะมีนักเตะเยาวชนจากสโมสรต่างๆ ในทวีปยุโรป รวมทั้งจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และภูมิภาคอาเซียน รวมกันส่งทีมเข้ามาร่วมฟาดแข้งที่ไทย และกีฬาอาชีพอีกจำนวนมากที่จะเป็นการช่วยสร้างโอกาสให้ประเทศไทยในการเผยแพร่ภาพลักษณ์ไปสู่สายตาคนทั่วโลก  “ในปีหน้าเราจะมีกีฬารายการใหญ่เข้ามา เพื่อสร้างโอกาสให้ประเทศไทย และเป็นการเชิญชวนบรรดาผู้ติดตาม และเหล่าแฟนคลับของนักกีฬาอาชีพระดับโลกได้เข้ามาสัมผัสประเทศไทยผ่านการกีฬา เป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยจากการกีฬา และยกระดับประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางกีฬาระดับนานาชาติด้วย” ผอ.น้อยกล่าว
          จากการที่ กกท.ได้มีการประเมินเมื่อรอบปีที่ผ่านมา กีฬาสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้เป็นตัวเลขจำนวนกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีหน้า ทาง กกท.ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า กีฬาจะสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาทต่อปีอีกด้วยตัวเลขจากการประเมินดังกล่าวเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า กีฬาอาชีพนอกจากมีส่วนในการพัฒนาในด้านกีฬาแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวเลขก็ค่อยๆ มีการพัฒนาดีดตัวสูงขึ้นไปตามลำดับในอนาคตหากวงการกีฬาอาชีพไทยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้เข้าที่เข้าทาง เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กัประเทศไทยได้อย่างแน่นอน...