"ชาวเลราไวย์" ร้องบรรพบุรุษช่วยคุ้มครอง หลังถูกบุกทำร้ายคาผืนดินตนเอง

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

 

"ชาวเลราไวย์-ภูเก็ต" ร้องบรรพบุรุษช่วยคุ้มครองสมาชิกในชุมชน หลังถูกสมุนนายทุนบุกทำร้าย พร้อมวอน "บิ๊กตู่" ช่วยเหลือ ขณะเจ้าของที่ยอมเปิดทางเดินชั่วคราว นัดหารือใหม่ 2 ก.พ.นี้ ส่วนสุสานชาวเลพิสูจน์ชัด อยู่มาก่อนมีเอกสารสิทธิ
      

 

วันนี้ (28 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณชายทะเล หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชาวเลราไวย์ ได้ทำพีธีฟ้องบรรพบุรุษ หลังนายทุนนำชายฉกรรจ์มาปิดทางลงทะเล และพื้นที่จิตวิญาณของชุมชน (บาลัย) รวมทั้งทุบตีชาวบ้านในชุมชนเมื่อวานนี้ ให้บรรพบุรุษรับทราบ ตามความเชื่อของเผ่าชน โดยที่มีทหารเรือคุ้มกันความปลอดภัย...


โดยเรื่องนี้สืบเนื่องมาจาก เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่ม "ชาวไทยใหม่ราไวย์" หมู่ที่ 2 กับกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 100 คน ซึ่งระบุว่าเป็นคนของบริษัทเอกชน ที่อ้างเอกสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินได้แก่ บริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด บริเวณริมชายหาดราไวย์ รอยต่อระหว่างที่ดินของชุมชนชาวไทยใหม่ราไวย์ โดยนายทุนพยายามปิดปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชาวเลราไวย์ใช้ในชีวิตประจำวัน จึงเกิดข้อพิพาทขึ้นถึงขั้นเข้าทำร้ายร่างกายกันเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ชาวเลบาดเจ็บหลายราย

 

 

"ชาวเลราไวย์" ร้องบรรพบุรุษช่วยคุ้มครอง หลังถูกบุกทำร้ายคาผืนดินตนเอง

 

โดยพิธีกรรมอันศักสิทธิ์นี้ จัดขึ้นเพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ให้บรรพบุรุษได้รู้ พร้อมแถลงการณ์ขอให้นายกรัฐมนตรี เข้าช่วยเหลือ 4 ข้อดังนี้


1. ตรวจสอบเอกสิทธิ ที่เป็นต้นเหตุและเพิกถอน

2. ให้สังการตรวจตรอบกลุ่มชายที่ทำร้ายพี่น้องชาวเลราไวย์ เป็นกลุ่มอิทธิพลตามนโยบายแราบผู้มีอิทธิพบ แต่ยังเต็มเมืองภูเก็ต

3. ให้เร่งดำเนินกระบวนการเพิกถอนเอกสิทธ์ ที่ดินที่ตรวจสอบแล้ว โดยทันที

4. ให้รัฐเข้ามาเยียวยาดูแลผู้บาดเจ็บและเครื่องมือประกอบอาชีพของชาวเลที่ถูกทำลาย


อย่างไรก็ตาม ล่าสุดหลังปะทะ มีรายงานข่าวว่า ทางเจ้าของที่ดินยอมเปิดพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นทางสัญจรประมาณ 2 เมตร ตามข้อเรียกร้องของชาวไทยใหม่แล้ว หลังจากได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ในครั้งแรกระหว่างมีการประชุมทางเจ้าของที่ดินยืนยันที่จะไม่ยอมเปิดเส้นทางดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวไทยใหม่มารวมตัวกันอีกครั้งบริเวณที่ดินดังกล่าว ทางเจ้าของที่ดินจึงได้ยินยอมเปิดทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราว โดยได้นำรถแบ็กโฮและเครื่องจักรกลมาเกลี่ยก้อนหินที่ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินนำมาทำเป็นกำแพงไม่ให้กลุ่มชาวไทยใหม่ผ่านเข้า-ออกในพื้นที่ ออกตั้งแต่เมือคืนและช่วงเช้าของวันนี้ (29 ม.ค.) เป็นช่วงกว้างประมาณ 2 เมตร แต่ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การเปิดเส้นทางดังกล่าวจะเปิดถาวรตามข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวไทยใหม่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ทุกฝ่ายจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 2 ก.พ.2559 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

 

 

"ชาวเลราไวย์" ร้องบรรพบุรุษช่วยคุ้มครอง หลังถูกบุกทำร้ายคาผืนดินตนเอง

 


ส่วนข้อถกเถียงว่า "ชาวเลราไวย์" อยู่ในพื้นที่มานานเท่าใดนั้น ก่อนหรือหลังการออกเอกสารสิทธิ์ที่เอกชนถือครอง เรื่องนี้อาจสืบค้นได้จากกระดูกบรรพบุรุษที่ฝังในชุมชนของพวกเขา ซึ่งถูกตรวจสอบแล้วว่า ฝังมานานนับ 100 ปี ก่อนเอกชนได้ สค.1 เมื่อปี 2497 และออกเป็นโฉนด เมื่อปี 2508  ดังนั้น ชาวเลราไวย์จึงต่อสู้ทางกฎหมายอีกทางหนึ่ง โดยระบุเอกสารสิทธิที่เอกชนมี ออกมาโดยมิชอบ เพราะออกทับที่ชุมชนเก่าแก่ที่อยู่มาก่อนแล้ว

 

 

นอกจากนี้ ช่วงบ่ายเมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาภูเก็ต เลขที่ 22 ถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ได้มีชาวไทยใหม่ราไวย์กว่า 20 คน นำโดย นายนิรันดร์ หยังปาน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อขอให้ช่วยประสานงานกับบริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด ที่มี นายชาลี โสภณพนิช เป็นกรรมการ เพื่อให้มาเจรจาหาทางยุติความรุนแรง และหาทางออกตามหลักประวัติศาสตร์ และวิชาการที่ถูกต้อง แทนการใช้ความรุนแรง ด้วยการส่งตัวแทนมาเจรจากับกลุ่มชาวบ้านในวันที่ 2 ก.พ.59 นี้ โดยชาวไทยใหม่หวังว่าจะได้รับความกรุณา เพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของทุกฝ่าย โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้มี นายสมชาย พิกุลทอง ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือ ขณะที่ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็เตรียมตัวที่จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อสืบสวนหาสาเหตุของความรุนแรงในครั้งนี้ด้วย

 

 

"ชาวเลราไวย์" ร้องบรรพบุรุษช่วยคุ้มครอง หลังถูกบุกทำร้ายคาผืนดินตนเอง


 

 

 


ขอบคุณภาพจาก : "Bussarin Worasamith", MANAGER