"ชาวเล" บุก "วธ." ยื่น 4 ข้อ เรียกร้องใช้มิติทางวัฒนธรรมแก้ปัญหา

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

ชาวเลชุมชนบ้านราไวย์ จ.ภูเก็ต ที่มีปัญหาถูกชายฉกรรจ์บุกทำร้ายเมื่อสัปดาห์ก่อน บุกกระทรวงวัฒนธรรมเรียกร้องให้แก้ปัญหาชาวเลอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะใช้มิติทางวัฒนธรรมช่วย


 

วันนี้ (9 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. กลุ่มชาวเลชุมชนบ้านราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่มีปัญหาถูกชายฉกรรจ์บุกทำร้ายเมื่อสัปดาห์ก่อนนำโดย นายสนิท แซ่ซั่ว พร้อมชาวบ้านราไวย์จำนวน 30 คน เดินทางมาที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เพื่อขอเข้าพบ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วธ.เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ วธ. สนับสนุนการแก้ปัญหาของชาวเลอย่างยั่งยืน โดยมีนายดำรงค์ ทองสม รองปลัดวธ. เป็นผู้รับเรื่องแทน โดยนายสนิท กล่าวว่า ตามที่มีชายฉกรรจ์ กว่า100 คน บุกเข้าทำร้ายชาวเลชุมชนบ้านราไวย์ และนำรถบรรทุกก้อนหินขนาดใหญ่มาเทปิดเส้นทางเข้าออกของชุมชน ในขณะที่มีผู้หญิงและเด็กจำนวนมากนั่งอยู่จนเป็นเหตุให้ชาวเลกว่า 30 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่พื้นที่บริเวณหาดราไวย์เป็นที่อยู่อาศัยทำกินของชาวเลบ้านราไวย์มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมากกว่า 7 ช่วงอายุคน หรือ นับระยะเวลามามากกว่า 300 ปี โดยมี 3 ชนเผ่าคือมอแกน มอแกลน และอุรักราโว้ย อาศัยในพื้นที่เดียวกันจำนวน 252 หลังคาเรือน 2,063 คน ดังนั้น จึงขอให้ วธ.เร่งแก้ปัญหาดังนี้


1. สนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ในที่อยู่อาศัยที่ทำกิน พื้นที่ทางจิตวิญญาณ เพื่อรักษาวิถีวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล

2. เร่งดำเนินการฟื้นฟูทำขอบเขตสุสาน / พื้นที่ทางจิตวิญญาณของชาวเล ทั้ง 24 แห่งในอันดามันให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม

3.ขอให้บรรจุเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม ตามแนวทางข้อเสนอของสถาบันวิจัยสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในรัฐธรรมนูญ และเร่งดำเนินการสนับสนุนให้เกิดพื้นที่ต้นแบบ


4. ช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนชาวเลบ้านราไวย์ เป็นพื้นที่ต้นแบบในการคุ้มครองทางวัฒนธรรมของชาวเล

 

" ขณะนี้กลุ่มชาวเลได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาครอบครองที่ดิน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวเล ทั้งเรื่องเส้นทางสัญจรไปยังชายหาดเพื่อประกอบอาชีพประมงและประกอบพิธีกรรมในพื้นที่ทางจิตวิญญาณ จึงเดินทางมาขอให้หน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาทั้ง วธ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และขอให้ผู้บริหารประเทศช่วยเห็นความสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วงโดยเร็ว" นายสนิท กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม นายดำรงค์ ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องกล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ นายวีระ และ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ.โดยเร็วที่สุด และมั่นใจว่า วธ.พร้อมให้การช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหากลุ่มชาวเลโดยเฉพาะเรื่องวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ รวมทั้งความเชื่อ พิธีกรรม ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ดังนั้น วธ. ก็จะเสนอมาตรการช่วยเหลือกลุ่มชาวเลให้ถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย

 

นอกจากนี้ ชาวเลราไวย์ยังยื่นหนังสืออีก 1 ฉบับถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อขอให้เร่งแก้ปัญหาอีก 3 ข้อ ดังนี้


1. ขอให้รองนายกฯ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล โดยการยกระดับคณะกรรมการ แก้ปัญหาที่ดินที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล ที่มีพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธาน และให้มีอำนาจดำเนินการแก้ไขปัญหา ภายใต้การกำกับดูแลของรองนายกฯ


2. เร่งสั่งการให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกมิชอบ ภายใน 1 เดือน ตามที่คณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดิน ได้มอบหมายให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวบรวมหลักฐานและส่งให้กรมที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ซึ่งออกมาทับชุมชน ชาวเลบ้านราไวย์ จำนวน 19 ไร่


3. มอบหมายให้คณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดิน ตรวจสอบกระบวนการออกเอกสารสิทธิ์ ในพื้นที่ 15 บริษัท บารอน เวิร์ดเทรดจำกัด จำนวน 33 ไร่ ที่ออกทับทางเดินสาธารณะ บาไลยพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ของชาวเลพื้นที่ชายหาด บ่อน้ำโบราณของชาวเล และคลองหลาโอน

 

 

ภาพจาก : www.tranbordernews.in.th