"วธ." เดินหน้าพิพิธภัณฑ์ชาวเล หลังถูกร้องให้ใช้มิติทางวัฒนธรรมแก้ปัญหา

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

วีระ" กำชับทุกหน่วยงานเบิกจ่ายงบฯ 59 พร้อมเดินหน้าสร้างพิพิธภัณฑ์ชาวเล หลังถูกชาวเลหาดราไวย์ร้องให้ใช้มิติทางวัฒนธรรมแก้ปัญหา

 

 

วันนี้ (10 ก.พ.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปี 2559 ซึ่งพบว่าภาพรวมของ วธ. มีการเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด โดยเฉพาะสำนักงานปลัดวธ. กรมศิลปากร และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงบฯก่อสร้างอาคาร ตกแต่งภายใน และการบูรณะต่างๆ ดังนั้น จึงให้ทั้ง 3 หน่วยงานไปปรับแผนปฏิบัติการเบิกจ่ายและนำเสนอที่ประชุมภายในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน วธ.ยังเตรียมเสนอขอเปลี่ยนแปลงงบฯ ตกแต่งภายในอาคารหอศิลป์ร่วมสมัย ปี 2559 ที่ยังไม่ได้ใช้ เนื่องจากการก่อสร้างอาคารยังไม่แล้วเสร็จให้ไปดำเนินงานด้านสาธารณูปโภคเพิ่มเติม จัดทำระบบไอทีของวธ. และจัดซื้องานศิลปะแทน โดยจะเสนอให้สำนักงบฯพิจารณาภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ หากเห็นชอบก็จะดำเนินการได้ทันที

 

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องการดำเนินงานของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (ศมส.) ที่มีความสมบูรณ์ ทั้งฐานข้อมูลด้านพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน วิถีชีวิตของชาติพันธุ์ และความเชื่อต่างๆ แต่พบจุดอ่อนว่ามีการทำกิจกรรมน้อยเกินไปและประชาสัมพันธ์ไม่มากพอ จึงสั่งการให้ ศมส. ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานภายในวธ. เผยแพร่เพื่อให้ประชาชน เยาวชน และนิสิต นักศึกษา เข้ามาใช้บริการและสืบค้นให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งทำแผนการใช้ฐานข้อมูลของ ศมส.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมศิลปากรมีโครงการจัดทำพิพิธภัณฑ์ชาติพันธ์วิทยา ที่ ต.คลองห้า จ.ปทุมธานี ก็ให้นำข้อมูลของ ศมส.มาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วย

 


นายวีระ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องมาตรการช่วยเหลือกลุ่มชาวเลชุมชนบ้านราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ขอให้วธ.ช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมอบให้ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดวธ.ไปสรุปรวบรวมสิ่งที่ได้เคยดำเนินการมาแล้ว ขณะเดียวกันได้สั่งการให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ภูเก็ตลงพื้นที่ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นจริง พร้อมสรุปแนวทางแก้ไข ทั้งนี้ ในส่วนของวธ.จะเร่งทำองค์ความรู้เกี่ยวกับชาวเลในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลชาวเลที่ถูกต้อง โดยวธ.จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป