พ่อแม่ใจยักษ์ ! ทิ้งทารกเพศหญิงใส่ถังขยะหมู่บ้านศรีราชา พลเมืองดีช่วยเหลือปลอดภัย

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.Tnews.co.th

ชาวบ้านพลเมืองดีช่วยเหลือทารกเพศหญิงเพิ่งคลอดถูกทิ้งไว้ในถังขยะหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา  ล่าสุดปลอดภัยดี

 

วันที่ 12 ก.พ.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. พลเมืองพบเด็กทารกแรกคลอดถูกทิ้งไว้ในถังขยะ หน้าหมู่บ้านศิริพร วิลเลจ 2 ถนนเส้นทางซอยวัดจีนนาพร้าว-ชากค้อหมู่ 7 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี  ร.ต.อ.อุดม โกยเก็บ ร้อยเวร สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ผู้ได้รับแจ้งเหตุประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา และหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา เดินทางไปตรวจสอบ
      
ในที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา กำลังอุ้มทารกน้อยส่งเพศหญิงแรกเกิด มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ และแข็งแรงดี ที่ถูกหุ้มด้วยผ้าคลุมสีขาว ใส่หมวกไหมพรมลายฟ้าขาว และผ้าห่มสีแดงคลุมตัวอยู่ ส่วนชาวบ้านชงนมมาให้ทารกดื่มแก้หิวอยู่แล้วเกือบเต็มขวด จึงรีบส่งตัวเด็กทารกให้กับหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา รับตัวทำความสะอาด และดูดเสมหะ และน้ำคร่ำที่ยังตกค้างในปาก และจมูกออกพร้อมกับบล็อกสายสะดือ

 

ด้าน นายวิฑูรย์ จิตรัตนสุวรรณ อายุ 55 ปี ผู้พบเด็กทารกเปิดเผยว่า ตนกำลังขับรถเพื่อที่จะเข้าไปในหมู่บ้าน ได้มีเพื่อนบ้านผู้หญิง 2 คนร้องเรียกให้ตนจอด ตนจึงลดกระจกลงก็ได้ยินเสียงเด็กร้องดังลั่นอยู่ในถังขยะสีฟ้าที่ตั้งอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านศิริพร 2 เมื่อเข้าไปดูพบเด็กทารกอยู่ในมีถุงพลาสติกสีเขียวของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง กำลังร้องไห้ดังลั่น ตนจึงอุ้มเด็กออกมาจากถังขยะก็พบว่า มีเลือดสดๆ เปรอะเปื้อนผ้าอ้อมอยู่ ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

 

เบื้องต้น  คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ที่อยู่ในละแวกนั้น ซึ่งกำลังตั้งครรภ์จนครบกำหนดแล้วไม่พร้อม จึงนำมาทิ้งไว้ จนกระทั้งได้มีรถถังขยะเดินทางมาเก็บขยะในช่วงหลังเวลา 5 นาฬิกาได้พบเห็นก่อนโชคดีที่ไม่มีเศษขยะอยู่เลยและไม่มีคนนำขยะมาทิ้งต่อ พร้อมทั้งเพราะอาจจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจ หรือได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้

      
ทั้งนี้  เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทำการเคลื่อนย้ายนำส่งต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาเพื่อทำการรักษาต่อไป  ส่วนตำรวจจะได้ตรวจสอบพยาน และกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุไปตรวจสอบเพื่อที่จะได้ติดตามพ่อแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 


ขอขอบคุณ http://manager.co.th/