เฉยไม่ไหว!!! "สกอ." สั่งสอบอาจารย์ราชภัฏหนีทุน ทำคนค้ำเดือดร้อน

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

เลขาฯ กกอ. สั่งสอบอดีตอาจารย์ราชภัฎหนีทุน ชี้เห็นใจผู้ค้ำประกัน พร้อมเตือนก่อนค้ำประกันให้ใครต้องคิดให้ดี ขณะอธิการบดีสวนสุนันทาแจง คนหนีทุนไปขึ้นกับราชภัฏอุดรฯ แล้ว ไม่เกี่ยวกับสวนสุนันทา

 

 

วานนี้ (12 ก.พ.) หลัง พล.ต.กิตติภพ มนูญนิมิต รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วยนางจันทิรา วิเศษณัฐ ครูชำนาญการ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี เข้าร้องทุกข์กองบังคับการปราบปรามกรณีที่ต้องเป็นหนี้จากการค้ำประกันให้แก่ "นางภัทรพร บัวทอง" อดีตอาจารย์คณะวิทยาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) ซึ่งได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วไม่ยอมกลับมาทำงานใช้ทุนคืน ทำให้ผู้ค้ำประกันต้องแบกรับหนี้สินแทนกว่า 4 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปบ้างแล้วนั้น

 

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในเรื่องนี้ น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เผยว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่ทราบข่าวจากสื่อมวลชน และได้มอบให้สำนักนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่โดยปกติหากผู้รับทุนผิดสัญญาการรับทุน ทางต้นสังกัดก็จะดำเนินการฟ้องร้องผู้รับทุนก่อน แต่หากไม่สามารถตามตัวผู้รับทุนมารับผิดชอบได้จริงๆ ก็จำเป็นต้องฟ้องร้องผู้ค้ำประกันต่อไป ซึ่งทุกหน่วยงานก็รู้สึกเห็นใจผู้ค้ำประกัน เพราะมีเจตนาดีที่ช่วยค้ำประกันให้ แต่ต้องกลับมาใช้ทุนคืนแทน ดังนั้น จึงมีการช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้ผู้ค้ำประกันชำระเงินคืนเฉพาะเงินต้นที่ผู้รับทุนได้รับไปจริงๆ ไม่คิดค่าเบี้ยปรับหรือดอกเบี้ย แต่จะไม่ให้ผู้ค้ำประกันใช้เงินแทนเลยคงไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ค้ำประกันก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วที่จะต้องรับผิดชอบร่วม ดังนั้น การที่จะเป็นผู้ค้ำประกันให้ใครก็ควรคิดให้ดีก่อนที่จะเซ็นค้ำประกัน 

 


นอกจากนี้  น.ส.อาภรณ์ ยังระบุด้วยว่า หลังเกิดกรณีดังกล่าวทาง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้ สกอ. เชิญสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงการคลัง และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดสรรทุนของรัฐบาลแล้วว่า ในอนาคตจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขอะไรหรือไม่อย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ว่าจะหารือเรื่องดังกล่าวได้ในวันใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สกอ. ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลกรณีการผิดสัญญาการรับทุนของ สกอ. ทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งนี้ด้วย

 


ด้าน รศ.ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดี มร.สส. กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นางภัทรพร เคยเป็นอาจารย์ของ มร.สส.จริง แต่ขณะนั้น มร.สส. ยังเป็นเพียงสถาบันราชภัฏสวนสุนันทา สังกัดสำนักงานสภาสถาบันราชภัฎ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งนางภัทรพรได้รับทุนจากสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ และเลือกที่จะใช้ทุนโดยรับราชการที่สถาบันราชภัฏอุดรธานี การเซ็นสัญญาค้ำประกันของผู้ค้ำประกันได้ดำเนินการกับสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ เนื่องจากสถาบันราชภัฏสวนสุนันทาขณะนั้น ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ซึ่งทันทีที่เซ็นรับทุน ก็ถือว่านางภัทรพรขาดจากการเป็นอาจารย์ของสถาบันราชภัฏสวนสุนันทา ไปสังกัดกับสถาบันราชภัฏอุดรธานี  และต่อมาสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏก็ได้รวมกับ สกอ. ในช่วงของการปฏิรูปการศึกษาที่ได้รวมทบวงมหาวิทยาลัยเข้ากับ ศธ.  เมื่อสำเร็จการศึกษานางภัทรพรจึงต้องไปใช้ทุนโดยเป็นอาจารย์ในสถาบันราชภัฏอุดรธานี หรือ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีในปัจจุบัน

 


“กรณีที่เกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติให้ลาออกหรือการดำเนินการฟ้องร้องผู้ค้ำประกันทั้ง 3 ราย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ มร.สส. เพราะสถานภาพของนางภัทรพรในขณะนั้น มิได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของสวนสุนันทา และทันทีที่เซ็นสัญญารับทุน นางภัทรพรก็ถือเป็นคนของสถาบันราชภัฏอุดรธานี และ มหาวิทยาลัยที่ฟ้องร้องผู้ค้ำประกันทั้งสามรายคือมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ส่วนที่ข่าวระบุว่า นางภัทรพร ทำหนังสือชดใช้ทุนแล้วกว่า 6 ล้านบาท ก็ไม่มีข้อมูลเช่นกัน ส่วนที่มีข้อสงสัยว่า ในขณะที่อาจารย์ยังมีปัญหาค้างทุนการศึกษา แต่เหตุใดมหาวิทยาลัยจึงกลับอนุมัติให้ลาออกได้นั้น โดยทั่วไปแล้วเป็นไปตามระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ.2551 ซึ่งผู้บังคับบัญชาไม่มีอำนาจจะยับยั้งได้ มีอำนาจเต็มที่ที่จะยับยั้งได้ก็แค่ 90  วันเท่านั้น และเป็นคนละส่วนกับการชดใช้ทุน" รศ.ดร.ฤาเดช กล่าว

 

ภาพ : www.thaipost.net