"ไพบูลย์" ฉะ "โล้นล็อกคอทหาร" ยังเป็นพระหรือ ผู้ที่เสียหายกรณีนี้คือ "สมเด็จช่วง"

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 


"ไพบูลย์"  ฉะ "โล้นล็อกคอทหาร" ยังสมควรเรียกว่าพระหรือไม่??...ชี้ผู้ที่เสียหายที่สุดกรณีนี้คือ "สมเด็จช่วง" ย้ำเดินหน้าปฏิรูปสงฆ์ทั้งระบบแน่

 

 

วันนี้ (15 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา เปิดเผยกับสื่อสำนักหนึ่ง (เดลินิวส์ออนไลน์) ถึงกรณีเครือข่ายพระสงฆ์ และองค์กรภาคีพุทธบริษัท นัดรวมตัวกันอ้างเพื่อปกป้องไม่ให้บางกลุ่มมาย่ำยีคณะสงฆ์ โดยนัดชุมนุมใหญ่ที่พุทธมณฑลว่า เป็นความเสียหาย เพราะการมาชุมนุมเป้าหมายของเขาคือ ปกป้องมหาเถรสมาคมให้พ้นผิด เพราะการมาชุมนุมอย่างนี้ เป็นการใช้วิธีที่ไม่ถูกกฎหมาย ไปใช้วิธีการชุมนุมในยามที่เขาไม่ให้จัดชุมนุม และไปกดดันเรื่องไม่ให้ตรวจสอบมหาเถรสมาคม ทั้งยังเรียกร้องให้ตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำเป็นสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ถ้ามาชุมนุมอย่างนี้ ผู้ที่เสียหายที่สุดคือ สมเด็จช่วง

 

 

“ภาพที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะล็อกคอทหาร ไปใช้กำลังต่าง ๆ ลักษณะดูแล้ว จะทำให้เกิดการเรียกร้องของสังคมทั้งประเทศอีกครั้งในการที่จะเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปคณะสงฆ์ทั้งระบบจากสังคม ซึ่งเกิดจากการกระทำของพวกที่ไปชุมนุมวันนี้เป็นสำคัญ จากนี้ไปผมจะเดินหน้าสู่เสียงเรียกร้องให้ปฏิรูปคณะสงฆ์ทั้งระบบ”

 


สำหรับข้อเรียกร้องของคณะสงฆ์ที่มาชุมนุมที่ระบุว่า ถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้องจะไม่ยอมเดินทางกลับ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นการเรียกร้องที่ผิดกฎหมาย แล้วใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายด้วย คือมาชุมนุมในลักษณะที่ข่มขู่ คุกคามฝ่ายรัฐ ตนมั่นใจว่านอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ยังจะมีผลเสียร้ายแรงต่อคณะสงฆ์ ทหารเขาเป็นคนดี ถ้าจะต้องให้พระสงฆ์เดินทางกลับ ก็ต้องทำตามกฎหมาย ทหารอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนพระถ้ามากระทำแบบนี้ สังคมควรจะดูว่ายังสมควรที่จะเรียกว่าเป็นพระหรือไม่ อาจจะไม่ใช่พระในพระพุทธศาสนา เถรวาทของไทยแล้ว ซึ่งเราไม่มองว่านิกายใดสำคัญ แต่เรามองพวกที่มาฝ่าฝืนเป็นพวกบุคคลผู้ฝ่าฝืนพระธรรมวินัยและยังฝ่าฝืนกฎหมายด้วย

 

 

"ไพบูลย์" ฉะ "โล้นล็อกคอทหาร" ยังเป็นพระหรือ ผู้ที่เสียหายกรณีนี้คือ "สมเด็จช่วง"

 

ภาพ : ไทยโพสต์