"แรลลี่บุญ"  กิจกรรมเติมเต็มนิสิตปริญญาเอกก่อนออกรับใช้สังคม  (ชมคลิป)

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกระดับอย่างต่อเนื่อง   มหาวิทยาลัยจึงได้กำหนดเป็นเป้าหมายชัดเจนที่จะพัฒนานิสิตให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพทั้งภายในและภายนอก ก่อนจะออกรับใช้สังคม โดยเฉพาะนิสิตระดับปริญญาเอก   

 

ล่าสุดได้ดำเนินการโครง CSR (Corporate Social Responsibility) ซึ่งหมายถึง การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของนิสิตหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ และสาขารัฐประศาสนศาสตร์   โดยใช้ชื่อโครงการว่า   "แรลลี่บุญ สมทบทุนการศึกษา"

 

ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป กล่าวว่า การจัดงานมีวัตถุประสงค์ ให้นักศึกษาได้ไปทำกิจกรรมจิตสาธารณะ ฝึกนิสิตให้มีบุญกุศลในการช่วยสังคม   โดยทำโครงการที่วัดสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว  จังหวัดสระแก้ว   ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย   ปัจจุบันเปิดสอนระดับปริญญาตรี  โดยลักษณะกิจกรรมจะช่วยเหลือซ่อมแซม กวาดลานวัด ปลูกต้นไม้  ให้เป็นประโยชน์ โดยไม่ถือเนื้อถือตัวว่าเป็นใครมาจากไหน ลดฐิติมานะของคน แม้จะมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง

 

ผศ.ดร.สุรพล  กล่าวด้วยว่า ในขณะเดียวกันที่นั้นเป็นที่ตั้งของหน่วยวิทยบริการ  มีพระสงฆ์ศึกษาเล่าเรียนอยู่จำนวนมาก แต่ขาดทุนทรัพย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งตนเองและสังคม จึงกำหนดให้ทำบุญที่เรียกว่า  "คาร์แรลลี่"  ทุนทั้งหมดจะสมทบทุนช่วยเหลือโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น  โดยคาดว่าผลที่ได้รับ คือ เป็นการฝึกนิสิตปริญญาเอกให้รู้จักเสียสละ การกวาดลานวัด ซ่อมแซมวัดเป็นการฝึกจิต   และ ในฐานะชาวพุทธ จะได้ช่วยพระสงฆ์ในการศึกษาเล่าเรียน

สำหรับโครงการแรลลี่บุญนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คัน โดยลักษณะของกิจกรรมแรลลี่ เหมือนกับกิจกรรมแรลลี่โดยทั่วไป แต่กิจกรรมหลัก จะอยู่ที่การซ่อมแซม ทำความสะอาด  และการบริจาคเงินช่วยเหลือทางวัด


โดยเส้นทางแรลลี่ เริ่มจากด้านหน้ามหาวิทยามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  วังน้อย และไปจบลงที่ วัดสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว  จังหวัดสระแก้ว

 

เมื่อเดินทางไปถึง จะรับประทานอาหารร่วมกัน จากนั่นจะสวดมนต์ ฟังธรรม และ มีการร่วมกันบริจาคเงินจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยสามารถรวบรวมเงินได้กว่า 5 แสนบาท

 

หลังจากนั้นได้มีการแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมในการทำความสะอาดวัด โดยแบ่งเป็นทาสีห้องสมุด  กวาดลานวัด และปลูกต้นไม้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นิสิตปริญญาเอก ที่เข้าร่วมมาจากหลากหลายอาชีพ ได้ร่วมกันทำกิจกรรมโดยไม่ถือเนื้อตัวว่าตนเอง มีตำแหน่งอะไร ทุกคนต่างร่วมทำกิจกรรมอย่างสมัครสมานสามัคคี

ดร.พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตติปญฺโญ ผู้อำนวยการหลักสูตร สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ กล่าวว่า การจัดโครงการนี้นับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ในการอยู่ร่วมกันในสังคม การจัดโครงการขึ้นมาเพื่อให้นิสิตที่เรียนอยู่ในระดับปริญญาเอก ได้เรียนรู้ รู้จักเสียสละ  เมื่อนิสิตจบการศึกษาแล้วจะได้รู้จักเสียสละ และช่วยเหลือผู้อื่นได้ 

 

ส่วนสังคมได้อะไรนั้น มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นการศึกษาทางด้านพุทธศาสนา บูรณาการเข้ากับการจัดการศึกษาสมัยใหม่ ก็จะได้พัฒนาทั้งมิติจิตใจและมิติของสังคม หากจิตใจคนมีความเจริญแล้ว ก็จะนำความเจริญดังกล่าวไปพัฒนาสังคม ก็เชื่อว่าจะเป็นสังคมอุดมปัญญาและสังคมสันติสุข และจะเป็นสังคมที่อยู่กันปราศจากความขัดแย้ง

 

ด้านพระมหาสกล ฐานวุฑโฒ   กล่าวว่า โครงการนี้จะทำให้นิสิตได้มีโอกาสมาพัฒนาสังคม ด้านการช่วยเหลือปฏิสังขรณ์ห้องสมุดของวัดสระแก้ว   หรือสิ่งต่างๆ นอกมหาวิทยาลัย การจัดงานนี้ เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการร่วมมือกัน ทั้งนิสิตที่เป็นพระคุณเจ้าและฆราวาส

 

ด้านนิสิตปริญญาเอก ที่เป็นฆราวาส  "วลัญชญา เลิศรัชชาพัน"   บอกว่า เป็นกิจกรรมบุญ ดีใจที่ได้มาร่วมกิจกรรมกับอาจารย์และเพื่อนๆ ได้ร่วมแสดงความรัก ความสามัคคี และได้ทำประโยชน์ให้แก่วัด สร้างบุญกุศล

 

ทิพย์สุดา ภูมิพาณิชย์  กล่าวว่า สาเหตุที่มาร่วมโครงการนนี้ เนื่องจากตนเองเป็นหนึ่งในนิสิตปริญญาเอก สาขารัฐประศาสนศาสตร์  และรู้สึกดีใดที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม  เพราะกิจกรรมนี้จะส่งผลดีต่อนักศึกษา หลักการการดำเนินงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคม

 

ร.ต.อ.ประจักษ์  ขุราศรี  บอกว่า การมาร่วมทำกิจกรรมนี้มีความรู้สึกเหมือนได้มาทำบุญ  ได้ความสวยงาม ซึ่งการมาช่วยทาสีให้วัดสะอาดสะอ้าน ทำให้จิตใจเราสะอาดสะอ้านไปด้วย 

 

สุภาภรณ์ โสภา  กล่าวว่า  รู้สึกดีใจที่ได้บริการสังคม  พวกเรามาด้วยจิตสาธารณะ ซึ่งการร่วมโครงการนี้ต้องการบอกสังคมว่าเรามาด้วยจิตสาธารณะ  และเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วย

 

นอกจากจะมีการทำกิจกรรมในการทำความสะอาดวัดสระแก้ว และสมทบทุนช่วยหน่วยวิทยาบริการ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่วัดสระแก้วแล้ว  ทางมหาวิทยาลัย ยังได้นำนิสิต ไปร่วมนั่งสมาธิและสวดมนต์ ร่วมกันที่อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว เพื่อให้นิสิต ฝึกจิตใจให้สงบนิ่ง มีสมาธิ เพื่อให้เป็นบุคคลที่เพียบพร้อม และออกไปรับใช้สังคมได้สมบูรณ์แบบต่อไป