"ศธ." แจงให้สายวิทย์สอบครู เพื่อแก้ขาดแคลนสะเต็มศึกษา

 

 

รองปลัด ศธ.แจงเด็กจบสายวิทย์-วิศวะ สามรถสอบครูได้ เพราะต้องการแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้สอนสะเต็มศึกษา ไม่ใช่ให้อภิสิทธิ์เฉพาะกลุ่ม

 

วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีเสียงคัดค้านกรณีกระทรวงศึกษาธิการ จะเปิดให้ผู้ที่จบปริญญาตรีสายวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สามารถเข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วยได้เช่นเดียวกับผู้ที่จบทางด้านศึกษาศาสตร์และครุศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครูผู้สอนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนสะเต็มศึกษานั้น

 

ล่าสุด ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา และ โฆษก ศธ. ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แนวคิดที่จะเปิดให้บัณฑิตสายวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาสอบบรรจุเป็นครูได้นั้น ไม่ใช่เป็นการให้อภิสิทธิ์แต่อย่างใด เนื่องจากทุกคนต้องผ่านกระบวนการสอบเหมือนบัณฑิตที่จบสายครูโดยตรงทุกขั้นตอน และหากจะพูดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบต้องบอกว่าบัณฑิตสาขาวิชาอื่น ๆ จะสู้บัณฑิตสายครูในการสอบภาค ข วิชาชีพครูไม่ค่อยได้ ซึ่งเขาก็ต้องเข้ารับการอบรมมาตรฐานวิชาชีพ และฝึกปฏิบัติการสอนเช่นกัน เพราะฉะนั้นแนวคิดนี้จึงถือว่ายุติธรรมกับทุกฝ่าย และอยากให้มองถึงความจำเป็นของประเทศด้วย เพราะขณะนี้โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กำลังขาดแคลนครูที่จะสอนสะเต็มศึกษากว่า 5,000 อัตรา จึงมีแนวคิดนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็มีการออกมาให้ความคิดเห็นว่าจำนวนบัณฑิตสาขาดังกล่าวมีจำนวนมากพอไม่ได้ขาดแคลน เพียงแต่ต้นสังกัดไม่ยอมเปิดอัตราสอบบรรจุเอง ดังนั้น คงต้องกลับไปดูด้วยว่าเมื่อเปิดสอบแข่งขันแล้วจะสอบได้หรือไม่ ทั้งนี้ คนที่จบสายครูมาก็สามารถสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นครูผู้ช่วยได้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว เพียงแต่รอบนี้เราจะเปิดให้คนใน 3 สาขาขาดแคลนดังกล่าวมีโอกาสเข้ามาสอบแข่งขันได้ด้วย

 

"ความจริงบัณฑิต3 สาขานี้จะเสียเปรียบด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้เรียนวิชาครูมาก่อน ดังนั้นคงต้องย้อนถามกลับไปว่า แล้วมหาวิทยาลัยกล้าเปิดวิชาครูให้คนกลุ่มนี้มาเรียนด้วยหรือไม่ ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจว่าถ้าเปิดโอกาสให้แล้วจะมีคนมาสมัครเป็นครูมากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อเป็นความต้องการของโรงเรียนเราก็ควรเปิดสอบให้ อย่างไรก็ตามผมจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคุรุสภาอีกครั้ง" รองปลัด ศธ.กล่าว