"กทม." รณรงค์ "กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค" หวังหลุดกลุ่มประเทศมีปัญหา

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


 

รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดกิจกรรม "กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค" ในวันวัณโรคสากล หวัง ตัดวงจรของโรคลดปัญหาการแพร่กระจาย และหลุดจากกลุ่ม 14 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรคสูง

 

 

วันนี้ (24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม “กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค” ในวันวัณโรคสากล (World TB Day) 24 มีนาคม 2559 ณ บริเวณสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เขตปทุมวัน มีผู้แทนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย BE Health Association บริษัทซาโนฟี่ อเวนติส ประเทศไทย มูลนิธิรักษ์ไทยองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข องค์การ FHI 360 (Family Health International) และหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เรื่องวัณโรคให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเฝ้าระวังและค้นหาผู้มีอาการเข้าข่ายสงสัย แนะนำสู่การตรวจวินิจฉัยตั้งแต่มีอาการเริ่มต้น ตัดวงจรของโรคลดปัญหาการแพร่กระจาย เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกลุ่ม 14 ประเทศของโลกที่มีปัญหาวัณโรคสูง จากการจัดกลุ่มขององค์การอนามัยโลกให้เป็น “Central diamons”

 


รองผู้ว่ากรุงเทพฯ กล่าวด้วยว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองใหญ่ มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้มีการแพร่กระจายของโรคติดต่อที่สำคัญ และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเชื้อวัณโรคนั้นมากับอากาศ ทุกคนมีสิทธิป่วยได้โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่อยู่ในสถานที่แออัดการระบายอากาศไม่ดี สถานที่ปรับอากาศระบบปิด ทั้งสถานประกอบการ บริษัท โรงงานห้างร้าน รวมทั้งผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะที่ต้องรับผู้โดยสารหลากหลายเสี่ยงได้รับเชื้อจากผู้มาใช้บริการได้ กลุ่มคนเหล่านี้จึงควรได้รับการคัดกรองอาการ ตรวจสุขภาพประจำปีตรวจเอกซเรย์ปอด ปีละ 1 ครั้ง หากพบสิ่งผิดปกติรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย หากป่วยเป็นวัณโรคจะได้รับการรักษาเพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายเชื้อโดยเร็ว เพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิตด้วยวัณโรค และให้วัณโรคหมดไปจากโลกนี้ สอดคล้องกับคำขวัญองค์การอนามัยโลกในวันวัณโรคสากลในปีนี้คือ “UNITE TO END TB”“รวมพลังยุติ วัณโรค”

 


 

ทั้งนี้ กรุงเทพฯ มีประชากรกว่า 10 ล้านคน คาดว่ามีผู้ป่วยวัณโรคอยู่มากกว่า 14,000 คนแต่ละปีจะมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ขึ้นทะเบียนรักษา ประมาณ 10,000 ราย ขณะที่ผู้ป่วยที่รับการรักษาจนหาย ประมาณร้อยละ 80 ซึ่งสำนักอนามัยได้ให้ความสำคัญกับวัณโรคมาตลอดตามนโยบายของผู้ว่ากรุงเทพฯ ในการสร้างมหานครแห่งความปลอดภัย โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์และคัดกรองผู้ป่วยเชิงรุก และค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ให้ทุกคนเข้าถึงบริการด้านการดูแลรักษาวัณโรคโดยไม่คำนึงถึงสิทธิใดๆ หากพบว่าเป็นวัณโรคจะส่งต่อให้รักษาจนหายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งในปีนี้ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์วันวัณโรคสากล “กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค” สนับสนุนให้กลุ่มเสี่ยงได้ตรวจสุขภาพ ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก โดยสำนักอนามัยได้จัดให้บริการเอกซเรย์ปอด ตรวจวินิจฉัยวัณโรค ฉีดวัคซีนบีซีจี ป้องกันวัณโรคในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง ในช่วงสัปดาห์รณรงค์วันวัณโรคสากล เพื่อลดการแพร่กระจายของวัณโรค ให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น