"บวชน้ำ" อุดรฯ จัดพิธีบวชน้ำ คืนชีวิตให้ "สายน้ำห้วยหลวง" หลังคุณภาพน้ำแย่หนัก

 

"บวชน้ำ" อุดรฯ จัดพิธีบวชน้ำ สืบชะตา-คืนชีวิตให้ "สายน้ำห้วยหลวง" หลังคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมหนัก และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

 

 

วานนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ลานอเนกประสงค์ของเขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี  ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี  นายสมหวัง ห่วงบางโพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มาเป็นประธาน ในการทำพิธีบวชให้กับน้ำ ในโครงการคืนชีวิตให้ลำน้ำห้วยหลวงหรือบูชาหลวงตาช่วยกันรักษาห้วยหลวง โดยได้นิมนต์พระสงฆ์มาจำนวน9 รูป ประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งมีตัวแทนมาจากอำเภอ ทั้ง13 อำเภอ และประชาชนในพื้นที่รอบเขื่อนห้วย เข้าร่วมงาน ในครั้งนี้

 

นายเฉลียว  ลีสง่า  ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่9 จ.อุดรธานี ได้เปิดเผยว่า  ทางจังหวัดร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่9 ได้เล็งเห็นความสำคัญของลำน้ำห้วยหลวง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี ที่มีลำห้วยสาขาไหลผ่านไปชุมชนในเขตเมืองอุดรธานี และชนบท โดยได้ครอบคลุมพื้นที่ถึง13 อำเภอ ของจังหวัดอุดรธานี ถือว่าเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด มีปริมาณน้ำท่าตลอดลุ่มน้ำประมาณ36 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นแหล่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค การประมงและการเกษตร รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำสำรอง เพื่อการใช้ประโยชน์ของประชาชน

 

สำหรับปัจจุบันคุณภาพน้ำของเขื่อนห้วยหลวงมีสภาพเสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฤดูแล้งพบว่ามีปริมาณน้ำน้อยแล้วยังมีคุณภาพไม่เหมาะสมต่อการนำไปผลิตเป็นน้ำประปา ในการไปใช้อุปโภคและบริโภคของประชาชน ซึ่งหลายปีที่ผ่านจังหวัดอุดรธานี มีอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ด้านการค้า การลงทุน อุตสาหกรรมการผลิต และด้านการบริการต่างๆ อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการในการใช้น้ำสะอาดเพิ่มมากขึ้น และปริมาณน้ำเสียก็เพิ่มขึ้นตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ดังนั้นทางจังหวัดและสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่9 จึงได้ประกาศ นโยบายปรับปรุงคุณภาพน้ำลำน้ำห้วยหลวง และจัดทำแผนบูรณาการเพื่อการปรับปรุงคุณภาพน้ำ  ได้แก่ สร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมกันดูแลรักษาน้ำ พร้อมทั้งอนุรักษ์และฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม และการลดควบคุมป้องกันมลพิษลงไปสู่ลำน้ำห้วย ดังกล่าว

 

นายสมหวัง ห่วงบางโพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ลำห้วยหลวง เปรียบเสมือน สายเลือดสำคัญของพี่น้องจังหวัดอุดรธานี เพราะเป็นที่มาแหล่งสำคัญ ไม่เฉพาะน้ำกินน้ำใช้  รวมไปถึงน้ำเพื่อการเกษตรด้วย ถ้าห้วยหลวงไม่มีชีวิต คุณภาพน้ำเสียก็จะมี ในการใช้น้ำในห้วยหลวงก็จะไม่ได้เช่นเดียวกัน  หรือ ลำน้ำห้วยหลวงแห้งลง และเป็นพิษ สิ่งเหล่านี้ก็จะกระทบกับเราทั้งสิ้น ซึ่งจังหวัดอุดรธานี มีประชากร1.5 ล้านคน ก็อยากปลูกจิตสำนึก ให้ตระหนัก ความสำคัญเรื่องนี้มันไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นเลย โดยเป็นหน้าที่ของเราทุกคนในการตอบแทนแก่สิ่งมีพระคุณต่อเราก็คือลำน้ำห้วยหลวง

 

 

สำหรับในการตอบแทนก็คือมีกิจกรรมที่ตัวเองสามารถรับผิดชอบได้  ในบ้านหลังคาเรือนของตนเอง หรือไร่นาของตนเอง ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ทำสิ่งที่เป็นผลลบต่อลำห้วยหลวง พร้อมทั้งช่วยกันจัดตั้งเครือข่ายขึ้นมาเปรียบเสมือนหมาเฝ้าบ้าน ถ้าเครือข่ายแข็งแรง มีน้ำไหลผ่านทั้ง13 อำเภอ ประชาชน ในพื้นที่ เป็นหูเป็นตา มีสิ่งใดใครทำไรไม่ดีกับลำห้วยหรือน้ำ ช่วยกันส่งสัญญาณเตือน มีสิ่งไม่ดีไม่งามเกิดขึ้น ก็จะมีผู้ดูแลรักษาเข้ามาจัดการดังกล่าว การที่จะให้มีชีวิตของลำห้วยหลวงอยู่ได้นั้น พวกเราทุกคนชาวจังหวัดอุดรฯ ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องของคนจังหวัดอื่น เพราะลำห้วยหลวงให้ประโยชน์แก่พวกเรา ถ้าห้วยหลวงไม่มีชีวิต พวกเราก็จะไม่มีชีวิตไปด้วย

 

 

จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มอบสติกเกอร์ บูชาหลวงตาช่วยกันรักษาห้วยหลวง ในการรณรงค์ดูแลรักษาน้ำร่วมกัน ให้กับตัวแทน จากอำเภอ ทั้ง13 อำเภอ พร้อมทั้งปล่อยพันธ์ปลานิล จำนวน 50,000 ตัว  และไปเปิดป้าย ในการก่อสร้างระบบน้ำบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์  ที่สถานีสูบน้ำดิบห้วยหลวงแห่ที่2 ของการประปาส่วยภูมิภาค สาขาอุดรธานี ดังกล่าว

 

ภาพจาก : 77jowo.com