ขนส่งทางบก ลุยโครงการ"มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS"ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.Tnews.co.th

ขนส่งทางบก เดินหน้าโครงการ "มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS" ติดตามการเดินรถโดยสารสาธารณะในช่วงสงกรานต์ แบบเรียลไทม์ ปัจจุบันมีรถติดตั้ง GPS แล้วกว่า 40,000 คัน

 

วันนี้  (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การนำระบบ GPS มาใช้ในการบริหารติดตามการเดินรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามโครงการ"มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS" เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่แบบเรียลไทม์ พร้อมกับเปิดตัวแอพพลิเคชั่น DLT GPS เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าวได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยโครงการนี้เป็นการยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งสาธารณะของประเทศให้มีความปลอดภัย ใช้ระบบติดตามควบคุมจากหน่วยงานภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ โดยกรมการขนส่งทางบกได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ที่กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะ รถลากจูงและรถบรรทุกขนาดใหญ่ (ตั้งแต่ 10ล้อขึ้นไป) ที่จดทะเบียนใหม่ ต้องติดตั้ง GPS ทันที ยกเว้นรถสองแถว และรถโดยสารหมวด 4 ที่วิ่งภายในจังหวัดในส่วนภูมิภาค ไม่ต้องติดตั้งGPS ส่วนรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 25 มกราคม 2559 กรมการขนส่งทางบก กำหนดระยะเวลาดำเนินการของรถแต่ละประเภทตามความเหมาะสม เพื่อให้เจ้าของรถและผู้ประกอบการขนส่งมีเวลาในการเตรียมการเชื่อมโยงข้อมูล แก้ไขและติดตั้งGPS ให้เป็นไปตามที่กำหนด

ซึ่งรถโดยสารสาธารณะทุกคัน จะต้องติดตั้ง GPS ภายในปี 2560 สำหรับรถบรรทุก จะต้องติดตั้ง GPS ครบทุกคันภายในปี2562 ภายใต้การกำกับดูแลโดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบGPS ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์2559นี้ จะตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะตลอดเส้นทาง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ต้องเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมฝากให้ประชาชาชนเดินทางปลอดภัย ลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย

 

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานของศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบGPS ของกรมการขนส่งทางบกจะรับข้อมูลจากรถที่ติดตั้ง GPSทุกคันแบบเรียลไทม์ และมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของรถในระบบตลอด24ชั่วโมง ทั้งในส่วนกลางและศูนย์ภูมิภาคใน11จังหวัด14แห่ง ซึ่งข้อมูลของรถจะปรากฎในระบบศูนย์ทันทีเมื่อมีการใช้รถและทันทีที่เกิดการกระทำผิด ระบบจะแจ้งเตือนพร้อมระบุข้อมูล เช่น การใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด การขับรถเกินชั่วโมงทำงาน ไม่เเสดงตัวคนขับ และการถูกร้องเรียนผ่านแอพพลิเคชั่น"DLT GPS" ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและประชาชนทั่วไป สามารถค้นหาตำแหน่งของรถและร้องเรียนหรือแจ้งเหตุมายังศูนย์ฯได้ตลอด24ชั่วโมง โดยเป็นการใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือแทบเลตบนระบบปฏิบัติการAndroid เพียงระบุหมายเลขทะเบียนรถ ระบบจะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถ ความเร็วที่ใช้ และรายละเอียดของพนักงานขับรถ พร้อมระบบร้องเรียนและช่องทางรับแจ้งเหตุ เช่น กรณีรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียระหว่างทาง โดยแอพพลิเคชั่นจะรายงานเหตุการณ์พร้อมแสดงพิกัดของรถเข้าสู่ฐานข้อมูลของศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบGPSแบบเรียลไทม์ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือจากผู้ประกอบการจะเป็นส่วนสำคัญในการติดตามรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สำหรับ ปัจจุบันในวันที่ 6เมษายน 2559  มีรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกติดตั้ง GPS แล้วจำนวนทั้งสิ้น46,957 คัน เป็นรถโดยสารประจำทาง 3,232 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง4,034คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง19,093คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 12,240คัน และรถอื่นๆ8,358 คัน และในมีการผ่านรับรองแล้ว จำนวน63 รุ่น จากผู้ให้บริการระบบจำนวน38 บริษัท

 

ทั้งนี้ ในส่วนผู้ประกอบการและเจ้าของรถเร่งทะยอยนำรถเก่าที่ติดตั้งGPS เข้ารับการตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูลและสำหรับรถที่ไม่มี GPS ให้ดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จตามเงื่อนไข ซึ่งสามารถสอบถามเพิ่มเติมที่สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก โทร.02-217-8605

 

 

 

 

ขอขอบคุณ http://www.fm91bkk.com