บทเรียนมี! "มหาดไทย" วาง 4 มาตรการเข้ม หวังลดเจ็บ-ตาย ช่วงสงกรานต์!!

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

 

"ปลัดมหาดไทย" วาง 4 มาตรการเข้ม หวังลดเจ็บ-ตายช่วงสงกรานต์ ที่แต่ละปีสังเวยเป็นร้อย ๆ ศพ โดยกำชับทุกหน่วยงานในสังกัดตรวจเข้ม โดยเฉพาะพวกเมาแล้วขับ

 

วันที่ 9 เม.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้ชื่อ “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” โดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัด อำเภอ ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เนื่องจากขณะนี้ประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัดมากขึ้น  ดังนั้น เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยทางถนน และเตรียมพร้อมเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงมหาดไทย จึงได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกระทรวงมหาดไทย และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกจังหวัด โดยขอให้ข้าราชการมหาดไทย พนักงานปกครองท้องที่ สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด ได้ร่วมกันกับ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำหน้าที่เป็น "ผู้นำประชารัฐ" ในการวางมาตรการ และสร้างจิตสำนึก ร่วมกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ โดยเฉพาะสาเหตุจากการดื่มสุราแล้วไปขับขี่รถยนต์ หรือยานพาหนะ ซึ่งในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันดำเนินการ ดังนี้

 

1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้นายอำเภอ และพัฒนาการอำเภอระดมข้าราชการในพื้นที่ โดยมอบหมายให้ปลัดอำเภอ พัฒนากรตำบล ลงไปในพื้นที่ตำบล หมู่บ้าน เพื่อร่วมกันประชุมประชาคมกับประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อชี้ให้เห็นถึงผลกระทบอย่างร้ายแรงของอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะ หลังจากนั้นให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน (กม.) และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมประชาคม เพื่อกำหนดวิธีการห้ามปรามประชาชนในหมู่บ้านชุมชนไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะ เมื่อมีการดื่มสุราในหมู่บ้าน/ตำบล อย่างเด็ดขาด โดยให้ใช้ทั้งวิธีการรณรงค์ เชิญชวน และอาจกำหนดเป็นกฎกติกาประจำหมู่บ้านชุมชน เช่น ยึดกุญแจรถ หรือยึดรถไว้ เพื่อให้ญาติ  หรือเพื่อนที่ไม่ดื่มสุรามารับรถดังกล่าวภายหลัง รวมทั้งอาจมีการกำหนดบทลงโทษทางสังคม (Social Sanction) เช่น การให้ผู้ดื่มสุราแล้วขับ มาบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนร่วมทำความสะอาดวัด ศาสนสถานต่างๆ หรือสถานที่อื่นๆ ตามความเหมาะสม

 

2. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน และฝ่ายทหารในพื้นที่ รวมทั้ง เชิญผู้นำศาสนาทุกศาสนา ในพื้นที่ ร่วมกันระดมสมองหาวิธีการสนับสนุนมาตรการ หรือการใช้กฎกติกาหมู่บ้านชุมชน ที่ห้ามขับขี่ยานพาหนะ เมื่อดื่มสุราหรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอลล์ (ตามข้อ 1.) ให้เป็นที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ในจังหวัด
 

 

 

3. ให้มีการสร้างกระแส และปลุกจิตสำนึก เรื่องการไม่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์แล้วไปขับขี่ยานพาหนะ โดยให้ใช้การสื่อสารเชิญชวนทุกช่องทาง เริ่มตั้งแต่การเขียนใบปลิว จดหมายจากนายอำเภอนำไปแจกจ่ายตามหมู่บ้าน/ชุมชน หรือแจกผ่านร้านสะดวกซื้อ ประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายเสียงหมู่บ้านชุมชน สถานีวิทยุชุมชน โทรทัศน์ท้องถิ่นหรือภูมิภาคอย่างสม่ำเสมอ การใช้สื่อโซเชียลมีเดียทุกชนิด และขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งประชาสัมพันธ์ด้วยการติดตั้งป้ายในย่านชุมชนเพื่อให้การประชาสัมพันธ์เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด

 

4.มาตรการและแนวทางทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ให้ใช้ควบคู่กับการตั้ง "ด่านชุมชน" ร่วมเฝ้าตรวจกับ หน่วยตำรวจ ทหาร อาสาสมัครภาคประชาชนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางต่างๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะในหมู่บ้านหรือชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือเป็นสถานที่ที่มีการจัดงานรื่นเริง/งานสงกรานต์ ให้จัดตั้งด่านชุมชน เพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวน 1 จุด ตามสภาพของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง

 


“การสร้างความปลอดภัยทางถนน ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยที่ได้กำหนดให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2559 เพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ที่จะมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้นเป็นพิเศษ โดยใช้มาตรการต่างๆ ที่ได้กำหนดมาในข้างต้น ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการสร้างจิตสำนึกวินัยจราจร เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บุคลากรของกระทรวงมหาดไทยทุกระดับจะปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่” ปลัด มท. กล่าว