"หลวงปู่ฯ" ชี้ "ธัมมชโย"ป่วยขาเน่า เพราะกรรมชั่วไล่ล่า อยู่ก็ไม่ได้-ตายก็ไม่ได้

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

"เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย" เฉลยที่ "ธัมมชโย" ป่วยขาเน่าใกล้ตาย เพราะกรรมชั่วกำลังไล่ล่าอย่างเผ็ดร้อน จากเหตุย่ำยีพระธรรมวินัย คราวนี้จะอยู่ก็ไม่ได้-จะตายก็ไม่ได้ และจะทรมานจนกว่าจะตาย

 


วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม" หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)" ถึงอาการป่วยของพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ถูกสังคมมองว่า แกล้งป่วยเพื่อหลบเลี่ยงการไปพบ DSI ตามหมายเรียกว่า คราวนี้พวกลิ่วล้อทั้งหลายคงจะเลิกกล่าวหาศาลไปพักหนึ่ง เพราะเมตตายกคำร้องหมายจับ เพราะเห็นว่าป่วย แต่ที่เจ้าอาวาส...นะจ๊ะ เป็นแบบนี้ เพราะกรรมชั่วกำลังไล่ล่าอย่างเผ็ดร้อน จากเหตุย่ำยีพระธรรมวินัย คราวนี้จะอยู่ก็ไม่ได้-จะตายก็ไม่ได้ โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้คือ


จะป่วยก็ช่าง จะตายก็เชิญ แต่กฎหมาย ต้องเป็นกฎหมาย

๒๗ เมษายน ๒๕๕๙

เห็นข่าวบรรดาพวกทาสอลัชชีออกมา ดราม่า เรียกร้องวิงวอนสังคม ขอความเห็นใจ อย่างน่าสงสาร
พร้อมนำรูปภาพขาเน่าใน ของเจ้าลัทธิ ต้นทาส ต้นธรรม ผู้ลงมาปราบมาร และหยั่งรู้ฟ้าดิน ออกมาโพสต์ เรียกคะแนนสงสาร แถมตัดพ้อต่อว่า เจ้าหน้าที่และกระบวนการยุติธรรม
เหมือนกับพวกนักการเมือง กินรวบประเทศไทยบางคนที่หนีคดี
มิหนำซ้ำ ยังทำท่าจะไม่ยอมรับกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
แต่พอทนายของลัทธิอลัชชี ยื่นเรื่องคัดค้านหมายจับต่อศาล
ศาลท่านเมตตา วินิจฉัยให้ยกคำร้องการขอหมายจับของดีเอสไอ
ด้วยคำวินิจฉัยว่า ผู้ต้องสงสัยไม่มีเจตนาจะหนี
เมื่อกระบวนการยุติธรรมเป็นไปดังใจของพวกทาสอลัชชี เช่นนี้

 

คงจะเลิกโทษ เลิกตำหนิ กระบวนการยุติธรรมของไทยกันไปพักหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมองเป็นสองมุม มุมหนึ่งก็ให้กำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ทำหน้าที่รักษากฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร หวังว่าคงไม่ถอดใจ ไม่หมดกำลังใจเสียก่อน พวกเราประชาชนคนรักความถูกต้อง อยากเห็นกระบวนการยุติธรรมเดินหน้า เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ โดยไม่มีการสะดุด

 

มองในมุมของพวกอลัชชี ก็ถือว่า ศาลท่านเมตตาให้โอกาสในการรักษา บรรเทา อาการเจ็บป่วย ตามกำลัง จะได้ไม่มากล่าวหาว่า กระบวนการยุติธรรมไทย ช่างไร้เมตตา เอาคนป่วยใกล้ตาย ที่กำลังรักษาตัวมาขึ้นศาล อีกทั้งจะได้สกัดแผนการอุบาทที่จะโพทนาต่อชาวโลกว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย ละเมิดสิทธิผู้ต้องสงสัยที่กำลังป่วย พวกที่เพ้อฝันว่า จะขอลี้ภัยให้กับเจ้าลัทธิอลัชชี ไปอยู่ต่างแดนคงจะล้มไป หากภาพที่บรรดาทาสผู้ซื่อสัตว์ นำออกมาเผยแพร่ เป็นภาพจริง ไม่ได้ตัดต่อ แหกตา

 

 

ในฐานะที่เคยรักษาอาการเส้นเลือดอุดตัน จากผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน เพื่อถือเป็นวิทยาทานแก่ผู้ป่วยอื่นๆ และหากเป็นจริงดังภาพ นั่นแสดงว่า ผลแห่งกรรมชั่วกำลังให้ผลอย่างเผ็ดร้อนแล้ว วิบากกรรมที่ย่ำยีพระธรรมวินัย มันจะกลายเป็นเชื้อโรคร้าย ค่อยๆ กัดกินเลือด เนื้อ กระดูก และชีวิต จนกว่าจะตายอย่างทรมาน เช่นนี้เรียกกว่า อยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้ คงเป็นเพราะผู้คนที่เขาเดือดร้อน จากการกระทำของผู้ป่วยตนนี้ คงจะสาปแช่ง อยู่ตลอดเวลา

 

ได้ยินมาว่า คนแก่ๆ หลายคน ที่นำเงินก้อนสุดท้าย ไปบริจาคให้กับลัทธินี้ ต้องหมดเนื้อหมด แล้วกลับมารับจ้างขายแรงงาน หาเงินเลี้ยงตัวเองไปวันๆ อย่างน่าเวทนา เพราะสมบัติถูกหลอกให้บริจาคแก่เจ้าลัทธินี้หมดแล้ว ทั้งเงินสด บ้าน ที่ดิน เจ้ากรรมนายเวรของอลัชชีต้นธาตุ ต้นธรรม ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน อีกกลุ่มหนึ่ง คือ สมาชิกสหกรณ์เคดิตยูเนี่ยนฯ จำนวน 50,000 กว่าคน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนแก่ปลดเกษียน เอาเงินที่ทำงานเก็บสะสมมาทั้งชีวิต ไปฝากแก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ หวังจะเอาไว้เลี้ยงชีวิต ยามแก่ชราเจ็บป่วย เมื่อถูกโกงเงินไปแล้ว พวกเขาไม่มีแม้แต่ค่ารถไปหาหมอคราวเจ็บป่วย บางคนต้องไปขอกู้หนี้ยืมสินเพื่อนบ้าน พี่น้อง มาประทังชีวิต

 

บางคนเดินทางมาหาฉัน ร้องห่มร้องไห้ ขอให้ช่วยทวงเงินของเขาให้ด้วย
อุตสาห์ฝากเงิน หวังจะเอาไว้บวชลูกชาย หลานชาย สุดท้ายเหลือแต่สมุดฝาก จนวันนี้ ก็ยังไม่เห็นเงิน
ความทุกข์ยาก เดือดร้อน แร้นแค้น ของคนที่ถูกอลัชชีตนนี้และพวกกระทำต่อเขา
มันมากมาย สุดคณานับ สิ่งที่เกิดแก่อลัชชีตนนี้ ยังน้อยนิด
ผลกรรมที่กระทำเอาไว้ต่อพระธรรมวินัย และทำลายประโยชน์ชาวบ้าน
ยังคงต้องให้ผลกรรมที่เผ็ดร้อนมากกว่านี้อีกเป็นแสนพันล้านทวี
ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องชดใช้ไป อีกกี่กัปกี่กัลป์ นึกแล้วก็ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก

 

อย่างนี้กระมัง ที่โบราณท่านเรียกว่า “สว่างมา แต่มืดไป”หรือไม่ “ต้นตรง แต่ปลายคด”
ฉันแถมให้อีกหน่อยว่า

 

“ไม้คด ทำขอ
เหล็กงอ ทำเคียว
คนคด ลดเลี้ยว
ขอ เคียว ทำไม่ได้เลย
อยู่ก็รกโลก”

พุทธะอิสระ

 

 

"หลวงปู่ฯ" ชี้ "ธัมมชโย"ป่วยขาเน่า เพราะกรรมชั่วไล่ล่า อยู่ก็ไม่ได้-ตายก็ไม่ได้

 

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก "หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)"