ยิ่งกว่าอุกฤษฏ์!!! "ไพบูลย์-หมอมโน" ฟ้อง "ธัมมี่" อวดอุตริฯ 4 ข้อเข้าขั้นเลวร้าย

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


"ไพบูลย์-หมอมโน" จ่อฟ้อง "ธัมมี่"  ต่อเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ชี้อวดอุตริฯ ขั้นเลวร้าย 4 ข้อ อาทิ พบเห็นพุทธทาสฯ อยู่ในนรก เพราะสอนธรรมะผิดและเป็นมิจฉาทิฏฐิ ทั้งพบเห็นพระอาจารย์มั่น อยู่ในนรก เพราะหลงว่าตนเป็นพระอรหันต์ และตนเองได้ช่วยขึ้นมาบำเพ็ญบารมีต่อที่ชั้นดาวดึงส์ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นความผิดร้ายแรงเกินกว่าขั้นอุกฤษฏ์เสียอีก
      

 

วานนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ นพ.ดร.มโน เลาหวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า พวกตนจะเข้ายื่นหนังสือคำฟ้องกล่าวหาพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ที่ได้กระทำการอวดอุตริมนุสธรรม ล่วงละเมิดพระธรรมวินัยอันเป็นครุกาบัติ ต่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้น และพระราชวิสุทธิเวที เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะผู้พิจารณาชั้นต้น ที่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร
      
      

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ได้ขอให้พระผู้ใหญ่ได้พิจารณาในพฤติกรรมของพระธัมมชโย ที่พวกตนกล่าวหาพระธัมมชโย คือ


1. การอวดอ้างว่าพบเห็นวิญญาณของนายชาติชาย โรจน์กีรติกาญจน์ อยู่สวรรค์ชั้นที่ 2 ฝากข่าวมาบอกลูกว่ามีความสุขสบายดี ขอให้ลูกทำบุญอุทิศไปให้มากๆ (ทั้งที่ข้อเท็จจริงนายชาติชายยังไม่ได้เสียชีวิต)

2. อ้างว่าพบเห็นวิญญาณของสตีฟ จ็อบส์ ไปเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา


3. เรื่องพบเห็นพุทธทาสภิกขุตกอยู่ในนรกเพราะสอนธรรมะผิดและเป็นมิจฉาทิฏฐิ เรื่องพบเห็นพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อยู่ในนรกเพราะหลงว่าตนเป็นพระอรหันต์ ธัมมชโยจึงช่วยขึ้นมาบำเพ็ญบารมีต่อที่ชั้นดาวดึงส์

และ 4. การอวดอ้างว่าตนเป็นต้นธาตุ ต้นธรรม เป็นพระพุทธเจ้า ทั้งฝ่ายโปรดและฝ่ายปราบเหนือกว่าพระพุทธเจ้าธรรมดา สามารถให้ธรรมแก่ผู้ใดให้บรรลุธรรมกาย หรือปราบจับขังไว้ในตู้เซฟไม่ให้ได้ผุดได้เกิดก็ได้
      
      

“เฉพาะกรณีการเทศน์และเผยแพร่อวดอ้างว่านายชาติชาย โรจน์กิรติการ ตายแล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ 2 (น้าชายนายสมคะเน ยอดพราหมณ์ พยาน) แต่ข้อเท็จจริงนายชาติชายยังไม่เสียชีวิต ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าพระธัมมชโยกับพวกไม่มีญาณวิเศษจริง โดยนำเข้าเผยแพร่ทางเว็บไซต์ http://www.dmc.tv เมื่อวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2556 และเมื่อวันที่ 11-15 ตุลาคม 2556 เพื่อหวังเงินบริจาคจากประชาชนที่หลงเชื่อในคุณวิเศษที่ไม่มีอยู่จริง ครบองค์แห่งอาบัติปาราชิกสิกขาบทที่ 4 และมีกรณีคล้ายคลึงคือ กรณีพระวีรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวอ้างระหว่างเทศนาธรรมว่า เคยมีเพื่อนเป็นพระอินทร์ สามารถระลึกชาติได้ และเคยเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า โดยพระพุทธเจ้าตรัสว่า หลวงปู่เณรคำจะได้เป็นผู้กอบกู้ศาสนา และเวียนว่ายตายเกิดมาจนถึงยุคปัจจุบันเพื่อนำพาศาสนิกชนให้หลุดพ้น ทำให้การกระทำดังกล่าวว่าเข้าข่ายการอวดอุตริมนุสธรรม” นายไพบูลย์กล่าว
      
      

 

นายไพบูลย์ ยังกล่าวด้วยว่า จึงขอให้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้น และพระราชวิสุทธิเวที เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะผู้พิจารณาชั้นต้น ดำเนินการไต่สวนว่า 1. อุตริมนุสธรรมไม่มีในตน 2. อวดด้วยมุ่งลาภ สรรเสริญ 3. ไม่อ้างผู้อื่น 4. บอกแก่ผู้ใดผู้นั้นเป็นชาติมนุษย์ 5. เขารู้ด้วยความในขณะนั้น ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 11 ว่าด้วยการลงนิคหกรรม และดำเนินการนำส่งรายงานข้อเท็จจริงว่า ข้อกฎหมายพระธรรมวินัยต่อมหาเถรสมาคมด้วย เพื่อให้มหาเถรสมาคมได้พิจารณาดำเนินการให้พระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) สละสมณเพศเสียตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21