งามใส้!! "เอไอเอส"รับผู้บริหารเอี่ยวล้วงข้อมูลลูกค้า กสทช.จ่อแจ้งความอาญา แฉมีอีกกว่า 100 เบอร์ถูกล้วงด้วย

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ ( 19 ก.ย.)   ที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  เมื่อเวลา 12.00 น.  นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.พร้อมด้วย นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม และ นายชยพลปกรณ์ ศรัทธาณรงค์ ผู้เสียหาย  ได้ร่วมกันแถลงข่าว   โดยนายฐากร กล่าวว่า  ผู้เสียหายแจ้งว่าถูกขโมยข้อมูลตั้งแต่ปี 2557 และแจ้งว่ายังมีอีกกว่า 100 เลขหมายที่ไม่ใช่เบอร์ของตนเองถูกขโมยข้อมูลด้วย  จึงได้มอบหมายให้เอไอเอสตรวจสอบเบอร์ดังกล่าวว่าถูกล้วงข้อมูลเชิงลึกจริงหรือไม่ ทั้งนี้   กสทช.เองต้องเป็นผู้เสียหายร่วมด้วย ตามมาตรา 32 พรบ.  องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553   ดังนั้นภายในสัปดาห์หน้าจะนำเสนอต่อที่ประชุมกสทช.เพื่อขอความเห็นชอบในการให้สำนักงาน กสทช.แจ้งความอาญาต่อผู้กระทำผิดด้วย
         

สำหรับผู้กระทำความผิดทางเอไอเอสได้บอกชื่อกับกสทช.แล้วว่าเป็นใคร แต่กสทช.ขอเก็บเป็นความลับ บอกได้แต่เพียงว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง 4 ใน 5 คน ที่เอไอเอสอนุญาตให้สามารถดูข้อมูลของลูกค้าได้   ในกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัญญาณไม่ดี  บิลเก็บเงินไม่เป็นธรรม เท่านั้น  แต่ไม่สามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้ถึงตำแหน่งการโทร. อย่างที่เกิดขึ้น  ซึ่งเอไอเอสก็ได้แสดงหลักฐานถึงความรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวแล้วว่า    หลังจากรับเรื่องร้องเรียนจากที่ผู้เสียหายแจ้งที่ร้านเอไอเอส สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. ทางบริษัทก็ได้ตรวจสอบและแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 13 ก.ย. และแจ้งความกับผู้กระทำความผิดโดยตรงในวันที่ 15 ก.ย. โดยเอไอเอสยืนยันว่าระบบของตนเองดีเยี่ยม  แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากคนกระทำผิด   ดังนั้นต่อไปจะเพิ่มมาตรการในการเข้าดูข้อมูลพื้นฐานให้ต้องมีลายเซ็นต์ของผู้บริหาร 2 คน ยืนยันการเข้าดูข้อมูล แต่ยังคงดูได้แค่ข้อมูลพื้นฐานกรณีมีเรื่องร้องเรียน เช่น ค่าโทร. หรือ สัญญาณการโทร. เท่านั้น ไม่สามารถดูรายละเอียดตำแหน่งที่อยู่ของผู้โทร.ได้ นอกจากจะมีหมายศาลเท่านั้น
         

ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียหาย  ต้องหารือกับอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะดำเนินการได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้กสทช.ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ก่อน ระหว่างนี้ต้องตรวจสอบข้อมูลที่ได้ จึงยังไม่มีข้อสรุป และในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คณะทำงานฯจะนัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปนัดที่สอง เพื่อให้กรณีนี้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.40 น.  นายชยพลปกรณ์ ศรัทธาณรงค์  ผู้เสียหายกรณีถูกขโมยข้อมูลโทรศัพท์มือถือจากการใช้งานในระบบของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  เดินทางมายังสำนักงาน กสทช. เพื่อยื่นเอกสารคำร้องเพื่อขอความเป็นธรรมต่อเหตุการณ์ดังกล่าว  โดย นายฐากร และนายก่อกิจ  ซึ่งเป็นประธานคณะทำงานสอบเรื่องนี้  ได้ลงมารับหนังสือผู้เสียหาย  พร้อมกับเชิญผู้เสียหายเข้าชี้แจงข้อมูล และเชิญตัวแทนจากเอไอเอสสอบถามในปัญหาที่เกิดขึ้น