สธ.ผนึกวท.คิ๊กออฟ พัฒนางานวิจัย สร้างนวัตกรรม ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อคนไทย

วันนี้ ( 7 ต.ค.)  ที่กระทรวงสาธารณสุข  จ.นนทบุรี  นพ.ปิยะสกล  สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข  โดยเชิญ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บรรยายพิเศษ เรื่อง “New Technology a Tools for Healthcare”  พร้อมถ่ายทอดเสียงไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้ทราบความร่วมมือที่มีด้วยกันมาแต่เดิมและความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นใหม่  ร่วมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อคนไทย  โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงนำโดย นายแพทย์สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และหัวหน้าหน่วยงานที่มีงานเชื่อมโยงกับการแพทย์เข้าร่วมนำเสนอและให้รายละเอียดด้วย

 

ดร.พิเชฐ  กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงวิทยาศาสตร์มีความร่วมมือกันมาโดยต่อเนื่องเราไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ ครั้งนี้จะเป็นการคิ๊กออฟความสัมพันธ์ที่เข้มข้นเพิ่มมากขึ้น  เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับประชาชน ขณะนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างการบูรณาการการทำงานด้านงานวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม  ตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อให้เกิดระบบการพัฒนางานทั้งหมด โดยเริ่มต้นที่การบูรณาการระดับนโยบาย มีการยุบรวมคณะกรรมการที่ทำงานคล้ายกัน  3 หน่วยงานและตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ คือสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ  ซึ่งคณะกรรมการเป็นคนของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงวิทยาศาสตร์  ที่สำคัญเป็นประโยชน์สำหรับกระทรวงสาธารณสุขมาก   ในการใช้ประโยชน์จากการวิจัย พัฒนา นวัตกรรม ขณะนี้ประเทศไทยมีบัญชีนวัตกรรมไทย กระทรวงสาธารณสุขมีบทบาทสูงมากในบัญชีนวัตกรรมนี้  โดยนวัตกรรมที่ขึ้นทะเบียนกับ สวทช. ขณะนี้มีกว่า 40 ผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ และสำนักงบประมาณได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานราชการจัดซื้อ ผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมของคนไทย ที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ด้วยวิธีกรณีพิเศษ เพื่อสนับสนุนนักวิจัยไทย นวัตกรรมที่ผลิตจากคนไทย ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

 

ด้าน นพ.ปิยะสกล  กล่าวว่า ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดทั้งระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้อำนวยการสำนัก และเขตสุขภาพ ที่ทำงานวิจัย พัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรม กับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้ทำงานกันต่อเนื่องกันอย่างใกล้ชิดต่อไป อาทิ การวิจัยพัฒนา ยา วัคซีน วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์  ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนรวดเร็ว ใช้การต่อยอด แตกยอด ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ ซึ่งความร่วมมือทั้ง 2 กระทรวงนี้จะเกิดพลังศักยภาพในการทำงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อประชาชนคนไทย
ทั้งนี้อีก 3 เดือนจะได้เชิญท่านปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกครั้ง เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลสำเร็จของการดำเนินงานร่วมกัน  รวมทั้งหารือแผนความร่วมมือในอนาคตของทั้ง 2 กระทรวง เพื่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนคนไทยอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม