เตือนชาวนา!! เพจ"ทนายคู่ใจ"โพสต์เตือนขายข้าวสารผ่านเฟสระวังโดนจับ แนะไปจดทะเบียนขายตรงสคบ.จังหวัด

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

สืบเนื่องจากชาวนาออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวเปลือกราคาตกต่ำมากเหลือแค่ 5-6 บาทต่อกิโลกรัม จนชาวเน็ตบางคน รวมถึงชาวนาบางกลุ่มได้เสนอความเห็นผ่านสังคมออนไลน์ว่า ให้ชาวนานำข้าวเปลือกไปสีเป็นข้าวสาร จากนั้นให้นำไปขายเองให้กับผู้บริโภคโดยตรง จึงชาวเน็ตบางคนได้โพสต์เสนอขายข้าวสารผ่านเฟชบุ๊คของตัวเองนั้ย 


วันนี้ ( 30 ต.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า เพจเฟซบุ๊ก "ทนายคู่ใจ" ซึ่งเป็นเพจที่ให้คำปรึกษาทางด้านกฏหมายได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ขายข้าวสารผ่านเฟสบุ๊ก ระวังโดนจับนะ"

กระแสข้าวเปลือกต่อกิโลราคาตกต่ำยิ่งกว่าอาหารหมาหรือมาม่าซักห่อนี่มันเจ็บปวดจริงๆ แต่จะเจ็บยิ่งกว่าถ้าเอามาขายแล้วถูกดำเนินคดีโดยไม่รู้ตัว

บ้านเราจะมีกฎหมายอยู่ฉบับหนึ่งเรียกว่า พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดี การโพสต์ขายสินค้าออนไลน์นั้นต้องยื่นเรื่องขอจดทะเบียนต่อ สคบ.ก่อน มิเช่นนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ระวังเงินที่อุสาห์ขายข้าวได้จะโดนเอามาจ่ายค่าปรับซะล่ะ

(อ้างอิง พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง มาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจขายตรง เว้นแต่จะได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจการตลาดแบบตรง.. ยกเว้นได้รับอนุญาต มาตรา 47 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 20 และมาตรา 27 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน)

วิธีแก้ไขคือ ให้ชาวนาไปเสียเงินจดทะเบียนการขายตรงกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของแต่ละจังหวัดครับ จะได้ถูกต้องตามกฎหมาย