ยุคดิจิตัลคนแล้งน้ำใจ!? หนุ่มในเหตุการณ์โอด อุบัติเหตุสยองรถตู้ย่างสด มีแต่คนจ้องถ่ายคลิป-ไม่กุลีกุจอช่วย-ถ้าช่วยบางคนอาจรอด

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ฤายุคดิจิตัลคนจะยิ่งแล้งน้ำใจ? หนุ่มในเหตุการณ์โอด อุบัติเหตุสยองรถตู้ย่างสด 25 ศพ บนถนนสาย 344 มุ่งหน้าระยอง มีแต่คนจอดรถถ่ายคลิป-ถ่ายรูป ไม่กุลีกุจอช่วย-ถ้าช่วยบางคนอาจรอด...โดยเฉพาะคนเจ็บที่ติดอยู่ในรถกระบะ

 

      
วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานนว่า ในโลกออนไลน์ ได้มีการโพสต์เกี่ยวกับอุบัติเหตุรถตู้โดยสารกรุงเทพฯ - จันทบุรี หมายเลขทะเบียน 15-1352 กทม. ซึ่งมีผู้โดยสารและคนขับรวม 15 คน ออกจากจังหวัดจันทบุรี วิ่งมาด้วยความเร็วสูง พุ่งข้ามเลนไปชนอัดก๊อบปี้กับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1ฒ 2483 กทม. ที่มุ่งหน้าไปยัง จ.จันทบุรี โดยมีผู้โดยสารภายในรถรวม 12 คน โดยสภาพรถทั้ง 2 คันพังยับเยิน และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นทั้งคัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พบพลเมืองดีรายหนึ่ง ซึ่งระบุตนเองว่าเป็นพลเมืองดีที่ลงไปช่วยผู้บาดเจ็บ แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เอาไว้อย่างชวนสังเวชใจ คือ
      

      
“ผมลงไปช่วยคนเจ็บ วิ่งไปขอสลิง กับเชือก รถคนที่จอดดู ไม่มีคนสนใจ แม่งถ่ายแต่รูป ถ่ายแต่คลิป ถ้าช่วยกันลากรถกระบะออกห่างจากรถตู้ คนที่ติดอยู่ในกระบะคงรอด ผมทำได้แค่ถามคนเจ็บว่าเป็นไงบ้างก่อนไฟคลอกตาย เสียใจที่ช่วยไม่ได้ครับ สายตาของผู้หญิงฝั่งข้างคนขับที่มองขอให้ช่วยยังติดตาผมอยู่เลย ผมต้องยืนฟังเสียงผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากไฟคลอก ทำอะไรไม่ได้นอกจากทนมอง และทนฟัง ผมต้องขอบคุณ พี่กระบะดีแมคซ์สีดำที่ถอยรถมาช่วยลากแต่เบลล์ขาด ขอบคุณพี่ผมยาวเสื้อลายทหารและลุงเสื้อสีกรมท่าที่ช่วยงัดประตูรถ ขอบคุณพี่เสื้อดำที่อุ้มผู้หญิงที่รอดชีวิตออกจากซากรถ”
      
      
โดยหลังข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก มีทั้งตำหนิพฤติกรรมยืนถ่ายรูป ถ่ายคลิป และระบุทำนองคนไทยเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีน้ำใจ จะทำดีก็กลัวอาย ส่วนคนดีก็มีแต่น้อย พร้อมชื่นชมพลเมืองดีรายดังกล่าวว่า ทำดีที่สุดแล้ว และขอให้ทำดีต่อไป แต่ก็มีความเห็นแย้ง อ้างว่า หลักของการเข้าช่วยเหลือคือสิ่งแวดล้อมต้องปลอดภัย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวรถไฟลุก เกรงว่าแก๊สระเบิด ควรรอเจ้าหน้าที่ดับเพลิง

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews

 

ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก "พิภพ พรหมเกศ" , MANAGER ONLINE