รอดอีกแล้ว!! "วิษณุ" ชี้ถก มส.วันนี้ไม่มีจับสึกกลางอากาศ "ธัมมชโย" ) ระบุ พศ.แค่รายงานว่าทำอะไรไปบ้าง เรื่องสึกนั้นยังอีกยาว

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 10 มี.ค.)  ที่ทำเนียบรัฐบาล   เมื่อเวลา 10.45 น.  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ยื่นเรื่องกล่าวหาพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ฝ่าฝืนละเมิดพระธรรมวินัย กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้เสนอเรื่องต่อมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า ตำรวจหรือดีเอสไอหากมีเรื่องอะไรจะเสนอผ่านพศ. โดย พศ.จะมีหน้าที่คัดกรองก่อนเสนอ มส.พิจารณา โดยมีทั้งเสนอเป็นลายลักษณ์และด้วยวาจา ในการประชุม มส.ในวันนี้ (10 มี.ค.) มีเรื่องที่จะรายงานในประเด็นที่ว่าได้ทำอะไรมาแล้วบ้าง เช่น การถอดถอนสมณศักดิ์ และ สิ่งที่อยากให้ มส.ช่วยดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่อยากให้ มส.ทำ บางเรื่อง มส.ทำไม่ได้ตามที่มีการเสนอ แต่บางเรื่องหากต้องดำเนินการตามพระธรรมวินัยจะต้องมีคนตั้งเรื่องขึ้นมา มีกฎนิคหกรรมฉบับที่ 11 และ 21 อยู่ ส่วนข้อหาฟอกเงินนี้ เป็นการไปรับเอาทรัพย์มาเกินกี่มาสก

" การยื่นเรื่องให้ มส.ดำเนินการนั้นใช่ แต่การตั้งเรื่องไม่ใช่เริ่มจากบนลงล่าง มส คือ ครม. เวลามีเรื่องอะไรสามารถร้องได้ ซึ่ง ครม.สามารถส่งเรื่องไปยังกรมและกระทรวงเพื่อตั้งต้น มส.จะไม่เป็นผู้ลงมาสอบอะไรเอง แต่ มส.เป็นเหมือนศาลฎีกาของสงฆ์ จึงต้องผ่านศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ แต่เทคนิคของเราในเรื่องนี้แทนที่จะไปศาลชั้นต้นเลย แต่ไปบอกให้ศาลฎีการู้ แล้วศาลฎีกาก็จะไปดำเนินการ ฉะนั้น ในชั้นผู้ปกครองสงฆ์ชั้นต้นก็จะทำตามคำสั่ง มส." นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า จะสามารถดำเนินการสึกพระธัมมชโยกลางอากาศจริงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวตอบว่า ไม่มี เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าสึกกลางอากาศได้ พระจะหวั่นไหวกันทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม เรื่องการอาบัติปาราชิกท้ายที่สุดจะต้องฟังคำวินิจฉัยจาก มส. ตามกฎนิคหกรรมฉบับที่ 21 ซึ่งต้องมีหลักประกันของสงฆ์เพื่อไม่ให้มีการสึกกันง่ายๆ ขั้นตอนดังกล่าวมีความยืดยาวมาก มีชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา เช่นเดียวกับคดีทางโลก ซึ่งใช้ระยะเวลายาวนานมาก

 

ถามต่อว่า ขั้นตอนการพิจารณาเรื่องอาบัติปาราชิกจะใช้เวลาเป็นปีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ามีการอุทธรณ์และฎีการะยะเวลาจะยาวนานเป็นปี อย่าไปนึกเฉพาะกรณีวัดพระธรรมกาย แต่ให้นึกถึงกรณีอื่นๆ ด้วย โดยเมื่อพระมีเรื่อง พระท่านจะสึกเอง กระบวนการเลยจบ ซึ่งการสึกของพระมี 2 อย่างคือ ลาสิกขาบทเองโดยสมัครใจ กับไม่สมัครใจคือกระทำผิด  อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะสึกประเภทไหนจะต้องมีตัวพระรูปนั้นๆ มา แต่หากพระถ้าหายตัวหรือหลบหนีไป จะเหมือนคดีทางโลก คือยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ สุดท้ายถ้ามีคำวินิจฉัยว่าให้สึก ไม่ต้องมีตัวพระรูปนั้นก็ได้ เหมือนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือใครก็ตามที่หลบหนีคดีไปตอนยังไม่ทันฟ้องร้อง ก็ดำเนินการฟ้องไม่ได้ แต่ถ้าฟ้องแล้วคุณหนีไปไม่เป็นไร

รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลต้องรอมติที่ประชุมมส.วันนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่การประชุม มส.วันนี้เป็นการรับทราบ เป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินเรื่องดังกล่าวจนเกิดความชัดเจนในวันนี้  ส่วนจะสั่งการให้ดำเนินการอย่างไรต่อ ชาวบ้านอาจจะไม่รู้ แต่รัฐบาลรู้ว่าคณะสงฆ์ให้ความร่วมมือ วันนี้ต้องแยกระหว่างวัดพระธรรมกายกับไม่ใช่วัดพระธรรมกาย พระที่ดีนั้นมีอยู่ สิ่งที่รัฐบาลวิตกมากคือ มีการพูดกันมากจนเกินไปว่าพระทั้งหลายเป็นฝ่ายผิดหรือบกพร่อง ทำให้เสื่อมความนับถือศรัทธาในศาสนา ตรงนี้จะทำให้ศาสนาเกิดปัญหา รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดอย่างนั้น ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น การที่พระไม่กี่รูปทำผิดไม่ได้หมายความว่าศาสนาหรือสังฆมณฑลมีปัญหาไปหมด 

 

ส่วนกรณ๊ที่ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายโจมตีว่ารัฐบาลมุ่งทำลายพระพุทธศาสนานั้น  นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร คนฝ่ายนั้น เขาต้องพูดอย่างนั้น สังคมวินิจฉัยได้ ตนดูอยู่และเห็นว่าฝ่ายบ้านเมืองได้ทำด้วยความระมัดระวังที่สุด  เรารู้ตลอดเวลาว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  พยายามถ่ายทอดให้ฝ่ายปฏิบัติรับทราบ ไม่มีอะไรไปล่วงล้ำศาสนาหรือวัดเลย นายกฯ ให้นโยบายว่าให้ระลึกตลอดว่าวัดพระธรรมกายเป็นศาสนสถาน พระเป็นศาสนบุคคล ต้องระลึกไว้ตลอดเวลาว่าศาสนธรรมไม่มีอะไรวิปริต

" เป็นเรื่องของพระบางรูป คนบางคน ที่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย เราไม่ได้ปรักปรำ คนเหล่านี้ยังบริสุทธิ์ แต่ต้องการเอาตัวเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะล่วงเลยมายาวนานมากแล้ว เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น บางเรื่องถ้าท่านออกมาให้การพูดเพียงไม่กี่คำ อาจจะทำให้เข้าใจก็ได้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจ ช่วยมาอธิบายหน่อยว่าการที่รับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นรับโดยไม่รู้หรืออย่างไร  วันนี้คนอื่นพูดแทนทั้งนั้น  " นายวิษณุ กล่าว

วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์