กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำผู้เสียหายร้องทุกข์ เอาผิดกลุ่มหลอกขายเครื่องรางผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้เสียหายแล้ว กว่า 100 ราย และเก

        จากกรณี วานนี้ วันที่ 12 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนขายสาริกา เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมหลักฐานคลิปวิดีโอ

โดนต้มจนเปื่อย!! โดน แก็งหลอกขายเครื่องราง ตุ๋นจนเปื่อย เสียหายกว่า 500 ล้าน (รายละเอียด)

        โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการนำผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับ นางสาวสุมาลี เลิศวิลัยและพวกฐานหลบหนีภาษีและแสดงเอกสารเป็นเท็จในการนำเข้ากรมศุลกากรที่อ้างว่าได้นำเข้าสินค้าจากประเทศพม่ารวมถึงประเทศอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วในฐานความผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

โดนต้มจนเปื่อย!! โดน แก็งหลอกขายเครื่องราง ตุ๋นจนเปื่อย เสียหายกว่า 500 ล้าน (รายละเอียด)

        ทั้งนี้ นางสาวสุมาลีและพวก มีการหลอกลวงขายเครื่องรางของขลังแก่ผู้เสียหายอย่างเป็นขั้นตอน โดยอาศัยเรื่องความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งส่งผลให้ขณะนี้ มีผู้เสียหายแล้ว กว่า 100 ราย และเกิดความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท สำหรับเรื่องการดำเนินคดีนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลและหลักฐาน ว่าจะเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 ด้วยหรือไม่

โดนต้มจนเปื่อย!! โดน แก็งหลอกขายเครื่องราง ตุ๋นจนเปื่อย เสียหายกว่า 500 ล้าน (รายละเอียด)

        ด้านนายสามารถ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยากขอให้ดีเอสไอรับไว้ตรวจสอบ โดยขณะนี้มีผู้เสียหายร้องเรียนที่สมาพันธ์ฯ แล้ว 10 ราย แต่มีข้อมูลว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 500 ล้านบาท ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ตนจะให้ผู้เสียหายเดินทางไปเขียนคำร้องที่ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนดังกล่าว เพื่อติดตามเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย และจะไปร้องเรียนต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เนื่องจากมีผู้เสียหายบางรายกู้ยืมเงินจากธกส. มาลงทุน จึงอยากให้ช่วยเจรจาพักชำระหนี้ ขณะที่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับวัตถุที่ใช้ในการทำสาริกาต่างๆ ได้ส่งให้กรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่ใช่ไม้กฤษณาและไม้คูณ แต่เป็นไม้ไผ่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
 

        สำหรับกรณีดังกล่าวผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากการถูก นางสาวสุมาลี เลิศวิลัยและพวก ที่ได้โฆษณาหลอกลวงขายเครื่องรางของขลัง อาทิ สาลิกาลิ้นทอง พระพิฆเนศ โดยมีการโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก และได้ประกาศรับสมัครสมาชิกในลักษณะขายตรง ส่งผลให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก และเกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท จึงได้ร้องขอให้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไป

ชมคลิป กรุณารอสักครู่

 

ขอบคุณข้อมูลภาพจาก : MThai