อุทาหรณ์เตือนใจ!! หญิงสาวเจอคนทำมาตีสนิทเป็นเพื่อน พอไว้ใจหลอกเอาเงิน แจ้งความคดีไม่คืบ ตร.ให้หาหลักฐานเอง คนร้ายลอยนวล

     ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เรียกได้ว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจใครหลายๆคนได้ดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Kanyapat Pink ได้โพสต์เล่าเรื่องรามของตนเองที่ย้ายไปอยู่คอนโดใกล้กับมหาวิทยาลัย และได้มีเพื่อนใหม่อีกสองคนเข้ามาตีสนิท แรกๆก็แสดงตัวว่าเป็นคนดี แต่พอสนิทไว้ใจกันก็ออกลาย แถมเมื่อไปแจ้งความตนเองนั้นมีหลักฐานพร้อมทุกอย่างทั้งรูปภาพและคลิป แต่คดีกลับไปคืบหน้าไปไหน

 

สวัสดีคะ เราอยากให้โพสนี้เป็นอุทาหรณ์ กับทุกคนนะคะ เราได้รู้จักกับเพื่อน2คนชื่อ นาย ม.ก และนางสาว น.ข (ขอใช้อีโมจิแทนทั้งสองคนนะคะ)
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราได้ย้ายเข้าไปในหอพัก F คอนโดแถวๆมหาวิทยาลัยเอแบคบางนานี้แหละ ก่อนหน้านี้เราเคยตั้งกระทู้ใน glur abac ไปแล้ว ที่กระทู้ชื่อว่า ' ลองอ่านดู ' กระทู้นี่ได้ลบไปสักพักนึงแล้วเราได้ขอโทษทางนิติหอพักเรียบร้อยแล้วคะ
เนื้อหาในกระทู้คือ ของหายแล้วโทษว่าผีเอาไป อันนี้คือ ไม่มีผีเนอะ คนนี้แหละที่ขโมย พูดแล้วอายตัวเองจัง
มาเข้าเรื่องเลยดีว่า เราได้รู้จักนาย ก และนางสาว ข ผ่านเพื่อนของเราอีกคนที่ชื่อว่า นนท์ คือ นาย ก เป็นเพื่อนร่วมคณะรุ่นเดียวกับนนท์ แล้วนางสาว ข เป็นแฟนของ ก พอเราได้เข้าไปอยู่ในหอพักนั้น
วีคแรกเราก็มีความสุขดี ไปซื้อของมาทำจิ้มจุ่ม กินหมูกระทะ ทำอาหาร ปาร์ตี้เล็กๆ ลืมบอกไปว่าห้องเราเป็นห้องที่อยู่ชั้น 1 ติดกับสระว่ายน้ำ แบบเปิดประตูออกไปเป็นคล้าย pool vila พอผ่านวีคแรกไปวีคเดียวเท่านั้น
เราเองก็เงินเริ่มหาย นนท์ก็เงินเริ่มหายเช่นกัน ตอนแรกเราก็คิดว่าเราคงจะเผลอใช้เองหรือป่าว หรือลืมแต่พอเป็นบ่อยๆ เราเองก็เห้ยเริ่มไม่ใช่แล้ว พิ้งเองก็คุยกับนนท์ว่า เออทำไมเงินหายไปไหนหมด จากที่เงินใช้ไม่เคยขาด กลับหายไปเรื่อยๆ พอเงินเริ่มหาย ของก็เริ่มหายเป็นชิ้น ซึ่งบางอย่างเราเองก็วางไว้เฉยๆ ใช้แล้วแต่โอกาส พอเราจะใช้มันก็หาย หลายอย่างมาก ตรงนี้เราก็ต้องโทษความสะเพร่าของตัวเองด้วยที่ไม่ค่อยตรวจสอบทรัพย์สิน เราก็คิดว่าลืมไว้ที่บ้านมั้ง แต่พอกลับไปดูก็ไม่มี จึงไม่สามารถระบุได้ว่าหายตอนไหน
คือตอนนั้นกลัวมาก จากเป็นคนที่กลัวผีอยู่แล้ว พอนางสาว ข อ้างว่าตัวเองมี six sense มีวิญญาณตามปกป้องคุมครองอยู่เราเองก็ไม่อยากลบหลู่ คือเรามองในแง่ดีว่า เออ เพื่อนกันคงไม่โกหกกันหรอก เลยเชื่อ พอนางสาว  ข มาบอกว่าที่หอพักมีศาลนะ คือเราก็เอ้ะใจ ทำไมไม่เคยเห็น
วันต่อมานาย ก ได้พูดกับนนท์ว่ามีศาล แล้วพิ้งกับนนท์ก็มาคุยกันลักษณะเหมือนที่สองคนนั้นกล่าวมาเลย วันรุ่งขึ้นพิ้งก็ไปซื้อของเตรียมไว้ศาล แล้วนาย ก และ นางสาว ข ได้อาสาออกไปดูศาลให้ก่อนบอดว่ารู้สึกตะหงิดใจ ตอนนั้นพิ้งเองก็นั่งปั่นชีทสอนพิเศษเด็กอยู่ตรงบริเวณสระว่ายน้ำ (พอดีรับสอน ged ) พิ้งเองก็เห็น นาย ก และ นางสาว ข เดินมาแบบหัวเราะร่าเริงปกติ แล้วพอสองคนนั้นเห็นพิ้งเขาก็เปลี่ยนสีหน้าทำเหมือนตกใจ โดยเฉพาะนางสาว ข เราเองก็ไม่เอ้ะใจ นาย ก ก็เดินมาบอกพิ้ง และตอนนั้นนนท์ก็เพิ่งกลับจากร้านขายของชำพอดี บอกว่าเออไม่มีศาลว่ะ นนท์เองก็ไม่เชื่อให้แมนพาเดินไปดูสรุป ไม่มีร่องรอยอะไรเลย เป็นหญ้ากับต้นไม้ ปกติ พอนนท์กลับมาเล่าพิ้งก็กลัวมาแบบ ไม่ไหวแล้ว เฮี้ยนขนาดนี้เลยหรอ
วันต่อมาเราไปกินปิ้งย่างเกาหลีกับเพื่อน แล้วนนท์พอดีตอนนี้พ่อแม่นนท์ยังไม่โอนเงินมา พิ้งเลยใช้เงินคืนนนท์ที่เคยวานให้ออกไปซื้อของแต่ไม่ได้ให้เงินตอนนั้น นนท์กลับไปที่ห้องเพราะช่วงนั้นสอบ ก็กลับไปอ่านหนังสือกัน แต่พิ้งไปกินกับเพื่อน นนท์ก็เล่าว่านนท์ว่างเงินไว้ 500 บนโต๊ะ ต่อมาเงินหาย ตอนที่นางสาว ข และ นาย ก เข้ามา โดยนางสาว ข อ้างว่า มาเอาผลิตภัณฑ์กำจัดขน ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วนาย ก และนางสาว ข ได้ชวนนนท์ออกมากิน ปิ้งย่างเกาหลี จากที่ตอนแรกพิ้งชวนแล้วว่าจะออกไปด้วยกันไหม สองคนนั้นบอกว่าคิดดูก่อนไม่ค่อยมีเงิน แล้วนนท์บอกว่าอ่านหนังสือเสร็จจะตามมา แต่พอเงิน นนท์หาย สองคนนั้นก็อาสาจะเลี้ยงนนท์และชวนนนท์ออกมา

ระหว่างกินปิ้งย่าง นางสาว ข ได้พูดกับนนท์ว่า อยากได้ iphone7 jet black สีดำ 128 gb แต่แม่ไม่ซื้อให้ นนท์ ได้ตอบไปไปว่า โทรศัพท์นนท์ก็ iphone 7 jet black 128 gb พอกินปิ้งย่างเสร็จ เพื่อนพิ้ง 2 คนได้มาหาที่ห้อง เราก็ทำหมูแดดเดียวทอดกิน
แล้วพอนางสาว ข และ นาย ก มาที่ห้องก็เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์นนท์หาย พอหาไปหามาหาไม่เจอนนท์ เลยบอกว่าถ้าใครหาเจอ จะให้ 2,000 สรุป นาย ก หาเจอ โทรศัพท์เปิดโหมกเครื่องบินอยู่ใต้เตียง ตอนนั้นคือคิดว่าเออ ลงไปได้ยังไง ผีเปิดโหมดเครื่องบินเป็นด้วยหรอ
สักพักใหญ่ๆ รุ่นพี่ก็เข้ามาหาและเพื่อนอีกคน โทรศัพท์นนท์ก็หายอีก ไปโผล่ตรงพื้นไม้ข้างล่าง คราวนี้กลัวหนักกว่าเดิม กลัวกันหมดหลอนกันทั่วหน้า
แล้วหลังจากคืนนั้นก็มีเรื่องที่ว่ากระเป๋าตังของพิ้งหาย ไปโผล่อยู่หลังเตียงแต่เจอแค่กระเป๋าตัง บัตรทุกอย่างที่รูดได้หายหมด เงินก็หายหมดเช่นกัน มันก็บังเอิญกับที่บนเตียงมีแค่ นาย กและนางสาว ข นั่งอยู่แค่สองคน
นาย ก และ นางสาว ข ก็อ้างว่าจะกลับบ้าน 2-3 วัน และระหว่างที่2คนนั้นกลับบ้านก็ไม่มีอะไรหายเลย พอ 2 คนนั้นกลับมาวันแรกกระเป๋าตังนนท์หาย นนท์ก็เลยพูดว่าในกระเป๋าไม่มีตังค์เลยนะ มีแต่บัตรแต่ถ้าใครหาเจอจะให้ 8,000 (ซึ่งกระเป๋าแบรนด์)
ต่อมานาย ก ดันหาเจอ นนท์เลยยกหนี้ที่นางสาว ข ติดอยู่ แล้วแม่ของนนท์ก็ได้มาห้องแล้วพอคุณแม่มาถึงโทรศัพท์ของนนท์ก็หายอีกรอบ หายไปแบบเปิดโหมดเครื่องบินแล้วปิดโลเคชั่น แม่ของนนท์เลยพูดว่าเดี๋ยวจะเรียกตำรวจมา จะเอากระเป๋าตังนนท์ไปตรวจรอยนิ้วมือแฝง (นางสาว ข ก็หน้าเสียทันที)
วันต่อมา กระเป๋าตังนนท์ก็หาย ตรงกับวันที่ จ่ายค่าเทอมพอดี ของพิ้งก็หายเช่นกัน หายที่ห้องของ นางสาว ข และ นาย ก ซึ่งก่อนหน้านี้สองคนนั้นบอกจะไปกินข้าว พอพิ้งโทรหา 2 คนนั้นบอกว่ากระเป๋าตังหาย สองคนนั้นก็รีบกลับมาไม่ให้หา แล้วชวนเข้ามอทันที
ต่อมาของก็เริ่มหายเรื่อยๆ ทุกวันทุกอย่างที่หาย นางสาว ข มักถามราคาก่อน แล้วจะหายในเวลาต่อมา พอวันที่ 9 มิถุนายน นางสาว ข ก็โดนจับ ข้อหาลักทรัพย์
คือเหตุการณ์วันนั้น นางสาว ข ได้ขโมยรองเท้า holster ของห้อง 24 และ รองเท้าแตะ adidas ของห้อง 28 (ห้องตรงข้ามนางสาว ข) โดยกล้องวงจรปิดจับภาพได้และห้อง 28 เคยแจ้งกับนิติว่า กระเป๋าตังค์ fendi มีเงินสดอยู่ 10,000 บาท ได้หายไปเช่นกัน ตรงกับวันที่นางสาว ข ได้เข้าไปในห้อง 28 พอดี วันนั้นนางสาว ข เลยต้องชดใช้ค่าเสียหายไป 20,000 บาท นางสาว ข ได้มาขอยืมเงินนนท์ไปจ่ายเสียหายครึ่งแรก 1,000 บาท(นางมีอยู่แล้ว 9,000) ตอนที่นางสาว ข หยิบเงินคืนนนท์ 500 บาทแรกหยิบออกจากหมอนข้างและตัวเลขกลับเหมือนแบ้งค์ 500 เราทำหาย เงินเราหายจนจดเลขแบ้งค์
วันจันทร์ที่นางสาวข ต้องจ่ายอีก 10,000 นางก็ได้ทักมาขอยืมเรา และทักไปยืมคนอื่นๆ โดยอ้างว่าจะยืมไปประกันตัวเพื่อน
ต่อมาเราเริ่มจับผิดนางได้หลายๆอย่างเรากับนนท์ได้ออกมาคุยกัน2คนแล้วนั่งเรียบเรียงเหตุการณ์กับเพื่อนคนที่ของหายเหมือนกัน ทุกคนคิดว่านางสาว ข เป็นคนขโมยและ นาย ก เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
และสองคนนั้นก็มีพิรุธโดยการที่เราไลน์จะชวนไปกินข้าวไม่ตอบพอเราไปหาที่ห้องก็บอกว่าโทรศัพท์เสียกลางคืนก็เห็นมาดู story ig ของเราปกติ นางก็อัพ story เป็นกล้อง iphone7 จากเดิมนางใช้ iphone5
แล้วมีเพื่อนเราก็เห็น2คนนั้นในมอ เพือนก็เล่าว่า ข เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นรุ่นเดียวกับนนท์ พอเราไปลงบันทึกประจำวันคุยกับตำรวจทุกอย่าง สรุปตำรวจให้หาหลักฐานเอง เราก็หาหลักฐานเป็นอาทิตย์ดูกล้องวงจรปิดทุกจุด หลักฐานเราพอแล้วตำรวจให้เราไปหาคลิปเสียงเดี๋ยวแปะลิ้งค์ให้นะคะ
แต่สุดท้าย ตำรวจก็ไม่สนใจ ปล่อยให้หนีไป วันที่นัดมาไกล่เกลี่ย ก็ไม่มา ตอนนี้ก็กำลังตามเรื่องนี้อยู่ ที่เราเล่ามาทั้งหมดระยะเวลาที่ของหายคือ เมษา-กลางเดือนมิถุนายน นะคะ
ส่วนรูปที่แปะคือส่วนนึงนะคะ ที่เหลือขอเก็บเป็นหลักฐานในชั้นศาลนะคะ

     อย่างไรก็ตามขอให้ติดตามคนร้านมารับโทษได้โดยเร็ว ใครที่ได้ดูคลิปพบคนลักษณะคล้ายๆกันก้แจ้งเบาะแสกันได้ ส่วนใครที่ต้องไปอยู่คนเดียวก็ดูศึกษาข้อมูลให้ดี และอย่าไว้ใครมากเกินไป

 

ขอบคุณ  FB Kanyapat Pink