- 01 ส.ค. 2560
คนกตัญญูไม่มีวันตกต่ำ!! สาวจีน ยอมทิ้งงาน เพื่อดูแลพ่อบุญธรรม ที่ป่วยหนัก ชาวเน็ตแห่ชื่นชม
สำนักข่าว ซินหัว รายงานข่าว เมื่อวันที่ (31 ก.ค.) ได้เผยแพร่ภาพ หญิงสาวชาวจีน จางจื้อจวี๋ วัย 24 ปี เธอได้ลาออกจากงาน หยิบยืมเงินเพื่อมาเป็นค่ารักษาและค่ายาให้พ่อบุญธรรมของเธอ ที่ป่วยติดเตียง เนื่องจากเป็นโรคมะเร็ง ชนิดสะความัสเซลล์ ในต่อมน้ำลายพาโรติด ที่ให้ให้บุตรหลานดูแลอย่างใกล้ชิด จนชาวเน็ตต่างชื่นชมในความกตัญญูของเธออย่างมาก
โดย จางจื้อจวี๋ เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ อายุ 2 เดือน พ่อแม่ที่แท้จริงได้ทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังเล็ก พ่อบุญธรรมของเธอ ชื่อ จางเฉิงกุ้ย ได้รับเธอมาเลี้ยงดู จนกระทั่งตอนนี้พ่อบุญธรรมได้ล้มป่วย ด้วยโรคมะเร็งชนิดสะความัสเซลล์ (Squamous-cell) ในต่อมน้ำลายพาโรติด ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ บุตรสาวจึงตัดสินใจลาออกจากงาน และกู้ยืมเงินเพื่อมาเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้เป็นพ่อ โดยมีเนื้อหาระบุไว้ดังนี้...
ไม่ลืมบุญคุณ! สาววัย 24 ลาออกมาดูแลพ่อบุญธรรมซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็ง
ปี 1993 เด็กหญิงจางจื้อจวี๋ซึ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 2 เดือนโดนพ่อแม่ทิ้งขว้าง จางเฉิงกุ้ยรับเธอมาเลี้ยงดู วันเวลาผ่านไปกระทั่งปี 2016 จางเฉิงกุ้ยผู้เป็นพ่อบุญธรรมล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดสะความัสเซลล์ (Squamous-cell) ในต่อมน้ำลายพาโรติด
จางจื้อจวี๋ตัดสินใจลาออกจากงานกลับมาดูแลพ่อบุญธรรมที่บ้านเกิด หยิบยืมเงินมาจ่ายค่ายารักษา เธอกล่าวว่า “ฉันต้องเป็นไหล่ให้พ่อ เพราะฉันคือที่พึ่งพิงของพ่อ”
ชาวเน็ตพากันให้กำลังใจและอวยพรให้คุณพ่อบุญธรรมของเธอหายเป็นปกติโดยเร็ว ทั้งยังชื่นชมว่า “ความกตัญญูสำคัญที่สุดในบรรดาคุณธรรมนับร้อย” และ “บุญคุณของการให้กำเนิดไม่เทียบเท่าผู้ที่เลี้ยงดูเรามา”
แม้จะมีผู้ที่เห็นว่าการลาออกจากงานและหยิบยืมเงินผู้อื่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม แต่คนส่วนใหญ่ก็มองว่าการดูแลผู้สูงอายุควรอยู่ใกล้ชิด 24 ชั่วโมง รวมถึงต้องการความรักจากบุตรหลานมากกว่าสิ่งอื่นใด เงินนั้นยังหาใหม่ได้ แต่ชีวิตของบุพการีไม่อาจมีสิ่งใดทดแทน
อย่างไรก็ตาม การวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ต ที่แสดงความคิดต่อการกระทำของ สาวจางจื้อจวี๋ บางคนก็เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ เพราะมองว่าเป็นวิธีที่แก้ปัญหาไม่เหมาะสมของเธอ ที่เธอลาออกและหยิบยืมเงินมา แต่ในขณะเดียวกันชาวเน็ตก็ชื่นชมเธอมากที่ตัดสินใจ จะออกมาดูแลพ่ออย่างใกล้ชิด เพราะเงินนั้นยังหาใหม่ได้ แต่ชีวิตของบุพการีไม่อาจมีสิ่งใดทดแทน และต่างพากันส่งกำลังใจให้สาวจางจื้อจวี๋ พร้อมอวยพรให้พ่อของเธอ หายเป็นปกติโดยเร็ว