พี่สาวน้องมิน "ติดใจการทำงานจนท.สหรัฐฯในการกู้รถล่าช้า" #2นักศึกษาไทยขับรถตกเหว

จากกรณีนางสาวทิวาดี แสงสุริยฤทธิ์ หรือน้องมิน อายุ 24 ปี นักเรียนไทยที่เข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา (University of South Florida) ได้ขาดการติดต่อกับเพื่อนและญาติเมื่อวันพุธที่ 26 กรกฏาคม 2560 พร้อมเพื่อนชายชื่อกอล์ฟ นายภคพล ชัยรัตนทรงพร อายุ 27 ปี หลังจากที่ทั้งสองได้เช่ารถยนต์ขับมุ่งหน้าไปเที่ยวตั้งแคมป์กางเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา 

หลังจากทางเพื่อนและญาติของน้องมินได้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขอความช่วยเหลือตามหา ต่อมา นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ทราบเรื่องจึงสั่งการให้นายธาตรี เชาวชะตา ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ ประสานงานไปยังสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ให้ช่วยประสานติดตามเรื่องนี้
บ่ายวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 มีรายงานจากทางกงสุลใหญ่ว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เวลา 01.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทางสถานกงสุลใหญ่ (สกญ.) ณ นครลอสแอนเจลิส ได้รับแจ้งจากเอเจนซี่จัดส่งนักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศ (U-ED) ว่ามี นักศึกษาไทย 2 คน จากมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา (University of South Florida) มาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน รัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่วันพุธที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมาและได้หายตัวไปหลังจากเช็คอินที่โรงแรมรีดลีย์ อินน์ (Reedley Inn) เมืองรีดลีย์ ทางโรงแรมฯได้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นติดตามตัว แต่ไม่พบและได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจพื้นที่ กระทั่งพบรถยนต์คันหนึ่งตกอยู่ในเหว เบื้องต้นจากลักษณะรถคล้ายรถเช่าของ 2 นักศีกษา ดังกล่าว ทางสถานกงสุลใหญ่ฯจึงได้ประสานกับกรมตำรวจเมืองรีดลีย์แล้วเพื่อแจ้งเรื่อง นักศึกษาหายตัว
ทั้งนี้จากอุบัติเหตุรถตกเหวทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบยากที่จะประเมินสถานการณ์เนื่องจากเป็นเหวลึก พบตกจากฟรีเวย์ 180 ตัวรถจมอยู่ในน้ำประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ การส่งคนลงไปด้วยวิธีเดินเท้าทำไม่ได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศตรงที่เกิดเหตุยากแก่การเข้าถึงเพราะเป็นหน้าผาสูงชัน 500 ฟุต และรถจมน้ำ เฮลิคอปเตอร์เข้าไปใกล้มากไม่ได้และไม่มีที่ลงจอดที่ปลอดภัย มีทางเดียวที่จะเข้าถึงรถคือใช้เรือ แต่พบปัญหาอีกอย่างคือระดับน้ำสูง ไหลเร็วและแรงมาก มีน้ำละลายจากหิมะบนภูเขาลงมาสมทบ ทำให้นำเรือออกไม่ได้ มีอันตรายมาก การค้นหาและช่วยเหลือจึงยังระบุกำหนดเวลาแน่ชัดไม่ได้ และอาจใช้เวลาเป็นเดือนและต้องดูสถานการณ์เป็นระยะๆ

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ในนครลอสแองเจลิส ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนน Freeway 180 เส้นทางมุ่งหน้าไปยังอุทยาน Kings Canyon National Park มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับหน่วยงานกู้ภัย เตรียมเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินขึ้นบินสำรวจพื้นที่เพื่อเร่งกู้ซากรถขึ้นมา และยังไม่สามารถมองเห็นนักศึกษาทั้งสองคนที่ติดอยู่ภายในรถ เนื่องจากถุงลมนิรภัยแตกออก  ทางด้านครอบครัวของน้องมิน ทิวาดี แสงสุริยฤทธิ์ ประกอบด้วยนางกัลยา แสงสุริยฤทธิ์ (มารดา) น.ส.ทิวาพร แสงสุริยฤทธิ์ (พี่สาว) น.ส.ทิวารัตน์ แสงสุริยฤทธิ์ (พี่สาว) และมารดาของน้องกอล์ฟ ภคพล ชัยรัตนทรงพร ได้เดินทางถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ที่สนามบินนานาชาติลอส แองเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยจะเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดยกงสุลใหญ่ ณ. นครลอสแองเจลิส นายธานี แสงรัตน์ และทีมข่าวสยามทาวน์ยูเอส พาครอบครัว นศ.ไทยที่สูญหายเข้าพบหน่วยงานท้องถิ่นและดูสถานที่เกิดเหตุ

วันที่ 5 สิงหาคม 2560 เตรียมใช้โดรนสำรวจรถน.ศ. ตกเหว ทางกงสุลใหญ่ฯ ติงดำเนินการช้า ต่อมาสื่อไทยได้ทำข่าวเกาะติดกระเเสข่าวสองนักศึกษาขับรถตกเหวทำให้เริ่มเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยลและคนไทยที่ทั้งอาศัยในสหรัฐอเมริกาและไทย เพื่อเร่งให้การกู้รถเร็วขึ้นไม่มากก็น้อย

วันที่ 7 สิงหาคม ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ จัดให้ครอบครัวไปบำเพ็ญกุศลถวายสังฆทานและกรวดน้ำที่วัดป่าธรรมชาติ เมืองลาพวนเต้ โดยมีพระครูปลัดอ่อน มุทุจิตโตรองเจ้าอาวาส ปฏิบัติศาสนพิธีและ Hsi Lai Temple เมืองไฮเซนด้า ไฮทส์ ช่วงบ่ายครอบครัวได้ไปพักผ่อนบริเวณชานนครลอสแอนเจลิสและตามรอยเส้นทางบางส่วนที่ นศ.ทั้งสองอาจจะเดินทางตามแผนเดิม ในช่วงเย็น สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับแจ้งจากหัวหน้าทีมกู้ภัยได้ว่าขึ้นติดตามสภาพอากาศบริเวณที่เกิดเหตุเกือบทั้งวัน พบว่ามีพายุลมพัดแรงทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถบินลงในหุบเขาได้และไม่สามารถเก็บกู้ในวันที่ 8 สิงหาคมได้ ซึ่งนับเป็นวันที่ 12 นับจากวันที่เกิดเหตุวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 และได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า อาจจะเก็บกู้ได้ในวันพุธที่ 9 สิงหาคม ทางด้านครอบครัว ของสองนักศึกษารู้สึกผิดหวังและเศร้าเสียใจมากยิ่งขึ้นที่ได้ทราบข่าวการไม่กู้ภัยดังกล่าว

มีรายงานข่าวล่าสุด ทางด้านพี่สาว น้องมินได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าทั้งสองครอบครัวเกิดความไม่สบายใจ เเละตั้งข้อสงสัยในการช่วยเหลือที่ล่าช้า จากความรู้สึกที่มีความหวังว่าทั้งสองจะรอดชีวิต จนเวลานี้ทำใจเเละรู้สึกเสียใจกับความล่าช้า ในขณะที่อยู่ ตรงจุดเกิดเหตุทางด้าน คุณเเม่น้องมิน ที่ด้วยอายุ 60 กว่าปีกล่าวด้วยความเป็นห่วงลูกสาว  'มีเชือกให้แม่มั้ย แม่จะขอไต่ลงไปช่วยน้องเอง ไม่มีเจ้าหน้าที่ใช่มั้ย แม่ก็ขอลงไปเอง' เเละทางด้านพี่สาวน้องมินกล่าวขอบคุณสื่อเเละทุกภาคส่วน ที่หาวิธีเร่งรัดขั้นตอนการกู้รถให้เร็วที่สุด

ความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร ทางทีมข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป

ขอบคุณ SiamTownUS