ตราตรึงในใจไม่เคยลืม !!! เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลกับ"นางฟ้าชุดขาว" อีกมุมของหมอ-พยาบาลที่ไม่อยากให้มองข้าม

ตราตรึงในใจไม่เคยลืม !!! เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลกับ"นางฟ้าชุดขาว" อีกมุมของหมอ-พยาบาลที่ไม่อยากให้มองข้าม

ในระยะหลังๆมานี้หลายๆคนอาจได้ยินแต่ข่าวคราวในแง่มุมที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักของบรรดาหมอและพยาบาล เนื่องจากมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นมากมาย ทั้งความเข้าใจที่ไม่ตรงกันของบุคคลากรและคนไข้ ทำเอาหมอและพยาบาลหลายๆคนถึงกับท้อแท้ในการปฏิบัติหน้าที่เลยก็ว่าได้

แต่ทว่ากลับมีอีกแง่มุมที่คนไข้อยากสื่อให้สังคมได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นจากพยาบาลและหมอ เพียงแต่เป็นเสียงเล็กๆที่อาจส่งไปไม่ถึงใครหลายๆคน แต่ทว่าในวันนี้เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ก็ได้หยิบยกคำบอกเล่านั้นออกมาเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้เกี่ยวกับความประทับใจและบริการที่ดีตราตรึงใจของพยาบาลและหมอของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีรายละเอียดว่า

กี่ปีก็ไม่ลืม

ตอนนั้นลูกชายคนโตอายุเจ็ดขวบ โดยที่ไม่มีอาการ ไม่มีวี่แวว หรืออะไรที่เราจะรู้ล่วงหน้าเลย น้องไปโรงเรียนตามปกติเข้าแถวยืนเคารพธงชาติแล้ว จู่ ๆ ก็นั่งลงแล้วร้องไห้อย่างเดียว คุณครูถามอะไรก็ไม่ตอบ ครูก็ได้นำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค ตอนนั้นพบว่าแขนขวาขาขวาไม่มีแรง พูดไม่ได้เลย

ทางโรงพยาบาลขออนุญาตทำซีทีสแกน ก็พบว่ามีเส้นเลือดในสมองแตก ตอนนั้นเราก็ตั้งสติ นึกถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือโทรหาญาติ ๆ ที่อยู่ในแวดวงหมอและพยาบาลเค้าแนะนำว่าให้ไป ที่วชิรพยาบาล

เย็นวันนั้นเองเราก็นำส่งตัวน้องไปวชิระ ที่รพ.นี้เองที่เราได้มีโอกาสเจอกับนางฟ้า ณ ตอนนั้นเชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามถ้าอยู่ ๆ ลูกจะต้องมาผ่าสมองทุกคนก็คงจะสติแตกเหมือนกัน

เมื่อส่งตัวไปอยู่ในห้องไอซียูแล้ว พยาบาลทั้งห้องไอซียูได้เข้ามาคุยกับเราบอกว่าคุณแม่คะใช้สิทธิ์บัตรทองดีมั้ยคะ

ตอนนั้นเราก็นึกอะไรไม่ออก เราก็บอกปฏิเสธไปว่าน้องมีประกันค่ะน้องสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ทางพยาบาลก็ยังคงบอกว่าคุณแม่รักษาบัตรทองก็เหมือนกับรักษาประกันค่ะรักษาดีเหมือนกันคุณแม่เชื่อพยาบาลนะคะ

คุณแม่ไม่ต้องทำอะไรเลยเพียงแต่คุณแม่นำบัตรประชาชนของคุณพ่อกับสูติบัตรน้องมาให้เดี๋ยวพยาบาลจะเขียนเรื่องให้นำสิทธิ์ไปเบิกกับบัตรทองโรงพยาบาลต้นสังกัด

ณ ตอนนั้นเราก็ยังงง ๆ ก็ได้แต่บอกให้คุณพ่อช่วยเตรียมบัตรมาให้ ซึ่งพยาบาลคนนั้นเค้าก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก มีความหวังดีและใส่ใจ คือถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่สนใจเพราะเราบอกว่าเรามีประกันชีวิตแล้วเขาก็คงจะเฉย ๆ แต่พยาบาลคนนี้ เค้าพยายามพูด บอกเราว่าโรคนี้อาจต้องรักษาระยะยาวอันไหนใช้สิทธิ์ได้ให้ใช้ไปก่อนนะคะคุณแม่ ทั้ง ๆ ที่งานในห้อง ICU เยอะแยะแต่น้องเค้าต้องมานั่งเขียนรายงานการขอเบิกสิทธิ์บัตรทองจากต้นสังกัดตั้งหลายหน้า จัดเอกสารแนบการเบิกจ่ายอีก พร้อมยังต้องล่าลายเซนต์ผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมเอกสารจากฝ่ายการเงินอีก

(สรุปการผ่าตัดสมองครั้งนั้นทางครอบครัวเราได้ออกแค่ค่าอุปกรณ์ที่ใช้แทนกระโหลกศรีษะจำนวน5,000 บาท เท่านั้น เพราะว่าทางบัตรทองจะไม่รวมตรงนี้เนื่องจากว่าจัดอยู่ในเรื่องเพื่อความสวยงาม)

ทั้งหมดที่เขียนมานี่ก็เพื่ออยากให้เพื่อน ๆได้มองเห็นแง่มุมอีกด้านนึงของอาชีพพยาบาล ขอบคุณน้ำใจอันแสนงดงามของน้องพยาบาลห้อง ICU แห่งวชิรพยาบาลผ่านไปอีกกี่ปีก็ไม่มีวันลืมค่ะ

และทางเพจเองก็ได้เสริมมาในภายหลังว่า อยากเสริมจากบทความนิดเดียวสำหรับคนทั่วไป ... กรณีส่วนใหญ่ผมก็ยืนยันเช่นกันว่า ใช้สิทธิ์บัตรทองได้ก็ใช้ไปเถอะครับความคิดที่ว่า ใช้สิทธิ์แล้วจะรักษาไม่เหมือนกัน หรือใช้ยาที่ไม่ดีนั้น มันเชยมากแล้วครับ ถ้ามีส่วนเกินส่วนต่างอะไร เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบครับ

สำหรับเจ้าหน้าที่ อ่านแล้วคงคิดเหมือนกันว่าจริง ๆ แล้วที่เราทำไปนั้น เป็นงานปกติเป็นเรื่องแสนเบสิค ที่เราทำกัน แต่เชื่อเถอะครับว่าหลาย ๆ ครั้งมันมีคุณค่ากับคนไข้ และญาติมากมายจริง ๆ อาจจะไม่ได้พูดออกมา อาจจะไม่ได้แสดงออก แต่มันประทับอยู่ในใจจริง ๆ อย่าเพิ่งท้อกันนะครับ

 

อ้างอิง เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล