หนีศาล..เรียกเสียสละหรือ?? ฤาษีพุทธจรัล เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้หลบหนี แต่เสียสละ เพื่อให้บ้านเมืองสงบ พร้อมฝาก รบ.อย่าสองมาตรฐาน!?!

กรณี วันที่ 26 สิงหาคม 2560 มีผู้ใช้งาน เฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Somsri Chantorn ได้โพสต์ข้อความ เรื่องราว ฤาษีพุทธจรัล แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษาของศาล เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ทั้งนี้ คณะพิจารณาแล้วไม่น่าเชื่อว่าจำเลยอาการป่วยจริง และไม่สามารถเดินทางมาฟังได้ อีกทั้งไม่มีใบรับรองแพทย์ อันเชื่อได้ว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยฤาษีพุทธจรัล มองว่า การที่ไม่ได้มองว่าเป็นการหลบหนี แต่มองว่าเป็นการเสียสละ ตนเชื่อว่ามีสิทธิ์ที่จะเลือก ที่จะต่อสู้เพื่อพรรค หรืออุดมการณ์ หรือยอมให้ คสช.มีบทบาททำหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้โพสต์ได้ระบุรายละเอียดไว้ดังนี้

"ฤาษีพุทธจรัล" เชื่อ "ยิ่งลักษณ์" เสียสละ เพื่อไม่ให้ประเทศบอบช้ำ แต่เป็นการไปเพื่ออนาคตประเทศ เพื่อให้บ้านเมืองสงบ แต่ไม่ได้หนี เปรียบเสมือน "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" ขณะแกนนำแดง เพื่อนสมัยเรียนปู เผย เคารพการตัดสินใจของอดีตนายกฯ และฝาก รบ.อย่ามีสองมาตรฐาน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ส.ค.60 ที่ อาศรมอมราวตี จ.เชียงใหม่ ฤาษีพุทธจรัล กล่าวถึงการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า อดีตนายกฯ ปู ทำถูกเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ การที่อดีตนายกฯ ปูยอมแพ้ และไปอยู่ต่างแดน ถือว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เขาเห็นความสำคัญของประเทศมาเป็นอันดับแรก เมื่ออดีตนายกฯ ปูห่างการเมือง เสียงสนับสนุนทั้งหลายก็จะค่อยๆ หมดไป แน่นอนเขาจะรู้สึกผิดหวังอกหักได้ แต่ชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน และตนก็เชื่อว่าการออกไปเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของสยามประเทศ และคณะ คสช.จะได้มีบทบาท หรือมีโอกาสทำงานอย่างเต็มที่ในการจัดสรรปัดเป่าบ้านเมืองให้อยู่ในสภาวะที่สงบร่มเย็น ปากท้องอิ่ม ทุกคนมีความสุข

สื่อข่าวถามว่า ทุกคนมองภาพของการหลบหนีศาลของอดีตนายกฯ ปู เป็นภาพแห่งการพ่ายแพ้ ฤาษีพุทธจรัล กล่าวว่า ตนไม่ได้มองว่าเป็นการหลบหนี แต่มองว่าเป็นการเสียสละ ตนเชื่อว่ามีสิทธิ์ที่จะเลือก ที่จะต่อสู้เพื่อพรรค หรืออุดมการณ์ หรือยอมให้ คสช.มีบทบาททำหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตนจึงมองว่าไม่ได้หนี แต่เป็นการเสียสละ อย่างที่เคยมีคำกล่าวกันว่า “แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร” เพื่อตัวเองจะได้เป็นคนที่สังคมระลึกถึงกล่าวขวัญถึงในอนาคตข้างหน้า เขาไม่ได้ทิ้งประเทศ หากเขาอยู่ต่อสู้ประเทศก็จะบอบช้ำ แต่ถ้าไปประเทศก็จะมีโอกาส ตนคิดเช่นนั้น และเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ก็มองอย่างนั้น แน่นอนข่าวที่ออกมาว่า ทิ้ง หนี กลัว ตนมองว่าเขาไม่ได้กลัว หากเขากลัวเขาคงไม่มาเป็นนายกฯ และหากจะหนี 3 ปีมาแล้วเขายังไม่คิดจะหนี มันไม่ใช่เรื่องนี้แต่เป็นเรื่องการไปเพื่ออนาคตของส่วนรวมด้าน นายมหวรรณ กะวัง แกนนำคนสำคัญของคนเสื้อแดง เพื่อนชั้นเรียน ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยว่า ในการเดินทางออกนอกประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พวกเราก็เป็นห่วง ไม่เชื่อว่าอดีตนายกฯ ปูจะหนี แต่ว่าเมื่อได้คุยกันแล้วในกลุ่ม ก็มีความคิดเห็นเดียวกันว่าท่านตัดสินใจดีที่สุด

 

โดยส่วนตัวตนเคารพในการตัดสินใจของอดีตนายกฯ ปูเพราะท่านเองต้องเป็นผู้ผจญสถานการณ์แบบนั้น ตนเชื่ออดีตนายกฯ ปูไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะหนี เพราะท่านได้ประกาศจนนาทีสุดท้ายว่าไม่หนี แต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. น่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างประกอบการตัดสินใจ ตนเองในฐานะเพื่อนก็ได้ไลน์ไปบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงมวลชน เพราะมวลชนไปรอให้กำลังใจอยู่จำนวนมาก สำหรับแนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเราสงบกันแล้ว หลังจากมีการยึดอำนาจ เราไม่คิดต่อต้านรัฐบาล เพียงแต่ว่าต่อนี้ไปก็อยากฝากถึงรัฐบาลว่าให้คำนึงถึงคนส่วนใหญ่ และคำถึงความถูกต้องเป็นหลัก ขออย่าเลือกที่รักมักที่ชัง อย่าให้เขาต่อว่าได้ว่าเมืองไทยมีสองมาตรฐาน หากอยากให้ประเทศชาติมีความรักสามัคคีต้องเอาความปรองดองความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานสากลกลับมาสู่ประเทศให้ได้ คนเสื้อแดงก็ไม่คิดต่อต้านแต่อย่างใด แต่หากรัฐบาลทำอะไรที่ไม่ได้มาตรฐาน สังคมส่วนรวมเขาจะพิพากษาเอง.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Somsri Chantorn