เหมือนแดนโจร !!!! ดร.จักษ์ ฟาดกลอน แดนสนธยา ...คนทำดี ถูกตัดตอน ...ชัดๆเลย เงินทอนวัด ซัดคนแฉ!

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา บนเฟซบุ๊กของ ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ได้โพสต์บทกลอนเกี่ยวกับการทุจริตเงินทอนวัด ระบุว่า เหมือนแดนโจร !!!! ดร.จักษ์ ฟาดกลอน แดนสนธยา ...คนทำดี ถูกตัดตอน ...ชัดๆเลย เงินทอนวัด ซัดคนแฉ!

แดนสนธยา

เงินทอนวัด ซัดคนแฉ จนแพ้หมด อำนาจกด คนกล้า จนล้าอ่อน คนทำดี เป้าหมายชัด ถูกตัดตอน เหมือนละคร น้ำเน่า ให้เราชม

ตงฉินตาย วายร้ายอยู่ รู้กันทั่ว เมื่อความชั่ว เททะลาย ขยายข่ม คนล้างบ้าน ถูกขึงพืด พะอืดอม ขยะถม ขย่มขู่ อยู่ไม่นาน

เหมือนแดนโจร โล้นเลี่ยน ผิดเพี้ยนภาค สวมหน้ากาก สร้างเป็นเกราะ พิเคราะห์สาร คนที่สอบ คนที่ขัด ถูกจัดการ เหล่าพวกพาล หลุดจริต เข้าบิดยัน

คงเป็นแดน สนธยา เกินกว่าคิด เขตปลอดผิด โกงได้ ไม่หวาดหวั่น เงินทอนวัด แบ่งกันได้ ไม่ว่ากัน ใครขวางฟัน เราสั่งได้ ใบสั่งมี

จักษ์ พันธ์ชูเพชร ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐

เหมือนแดนโจร !!!! ดร.จักษ์ ฟาดกลอน แดนสนธยา ...คนทำดี ถูกตัดตอน ...ชัดๆเลย เงินทอนวัด ซัดคนแฉ!

ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงเป็นที่ค้างคาใจเป็นอย่างมาก ว่าเพราะเหตุใดนายวิษณุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรี จึงได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้ย้ายพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)มาเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะเมื่อพ.ต.ท.พงศ์พรมารับตำแหน่งนั้น ต้องถือว่ามาอย่างอัศวินม้าขาว เพราะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. และนายกรัฐมนตรี อย่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกคำสั่งตามม.44มาเพื่อให้ให้ปฏิบัติงานเสียด้วยซ้ำแต่หลังจากที่ทำงานมาเพียง6เดือน กับอีก5วัน ก็กลับมีการโยกย้ายออก

ฉะนั้นก็ต้องกลับว่าตั้งคำถามว่า เรื่องนี้เป็นธรรมกับพ.ต.ท.พงศ์พร หรือไม่ เพราะงานที่ผ่านมาก็ถือว่าพ.ต.ท.พงศ์พร ก็ปฏิบัติ ทำงานได้ดีลุล่วง โดยเฉพาะเรื่องวัดพระธรรมกาย ที่สำคัญวันนี้ทุกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพ.ต.ท.พงศ์พรยังปฏิบัติหน้าที่อยู่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือว่าดีเอสไป ซึ่งตำแหน่งเดิม เป็นถึงผู้อำนวยการส่วนสืบสวนสะกดรอย และมีผลอย่างโดนเด่น

พ.ต.ท.พงศ์พร รับราชการที่กรมคดีพิเศษ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2546 ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ก่อนจะขยับขึ้นเป็นผู้อำนวยการส่วนสืบสวนสะกดรอย

ผลงานสำคัญๆ ที่ถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสะกดรอยหาเบาะแสของคนร้าย หลังหัวระเบิดอาร์พีจีสูญหาย จากคลังแสงของกองทัพบก

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำกำลังเข้าจับกุมจับ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ และแกนนำกลุ่มแดงสยาม ในคดีหมิ่นสถาบัน ขณะหลบหนีไปอยู่ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

พ.ต.ท.พงศ์พร มีบทบาทสำคัญขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักคดีภาษีอากรฯ ได้ทำคดีสำคัญๆ ที่เกี่ยวเนื่องคดีรถยนต์หรูเลี่ยงภาษี และรถยนต์โบราณ 2 คัน ที่เป็นข่าวโด่งดัง คือ คดีรถยนต์ของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดยตามแนวทางการสอบสวนเชื่อว่ามีการปลอมลายมือชื่อผู้อื่น และสำแดงการนำเข้าโครงรถยนต์เป็นยี่ห้อแพนเธอร์ ส่วนเครื่องยนต์เป็นยี่ห้อจากัวร์ หมายเลขตัวรถ 731 หมายเลขเครื่องยนต์ 8L 66240-L

และคันที่สองเป็นรถยนต์เบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตั้งแต่กระบวนการนำเข้า การเสียภาษี และพบว่ามีการใช้เอกสารเท็จในการจดทะเบียน

และจะเจริญเติบโตในสายงานของดีเอสไอ มาเป็นเวลาอย่างยาวนานเพราะฉะนั้นต้องกลับมาดู ว่าอะไร น่าจะเป็นสาเหตุ

โดยประเด็นหลักน่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของวัดต่างๆที่มีอยู่ โดยเฉพาะกับประเด็นที่เป็นข่าวใหญ่โต คงหนีไม่พ้นเรื่อ เงินทอนวัดแต่ในข้อเท็จจริงนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว แต่เรื่องใหญ่ ก็คือเรื่อง เงินบริจาคและทรัพย์สินของวัดอื่นๆ เช่นที่ดิน ทรัพย์สินต่างๆที่วัดใช้หาผลประโยชน์ สิ่งเหล่านี้วัดใหญ่ๆที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ล้วนกลายเป็นแหล่งผลประโยชน์อันสำคัญทั้งสิ้น

ซึ่งพ.ต.ท.พงศ์พร ได้เตรียมดำเนินการที่จะตรวจสอบบัญชีวัดทั่วประเทศ และปรากฏว่าเป็นทางของวัดพระธรรมกาย ก็ได้ออกโรงตอบโต้ ว่า สำนักพุทธฯ ไม่มีอำนาจตรวจสอบบัญชีวัดทั่วประเทศ และ เมื่อ 20 มิถุนายน 2560

มีใบปลิวหรือแถลงการณ์ฉบับที่ 1 จากองค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย แสดงความไม่พอใจในการตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัด ถึงขั้นประกาศจะไม่รับเงินอุดหนุนใดๆ จากสำนักพุทธฯ

ดังนั้นการย้ายพ.ต.ท.พงศ์พร ออก เท่ากับ ว่าธุรกรรมต่างๆทั้งหมดนี้ต้องหยุดชะงักลงหรือไม่ ?? เพราะผอ.สำนักพุทธฯคนก่อนนั้น เป็นที่รู้กันว่า รับใช้มหาเถรสมาคม และมหาเถรสมาคมก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย ก็ต้องย้อยแล้วไปดูว่าในกรรมการมหาเถรสามาคมในยุดนี้ ทั้ง11รูป จากทั้งหมด20รูปที่เคยลงมติให้ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไม่ต้องอาบัติปาราชิก เมื่องช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ประกอบด้วย ฝ่ายมหานิกาย ๑. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.๙) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ประธานที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ... อาตมาเองตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ ๘๗ ปีแล้ว เพิ่งจะวันนี้เองที่ได้เดินบนกลีบกุหลาบ จึงชื่นใจ ...

๒. สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙) วัดพิชยญาติการาม กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป เป็นพยานให้ธัมมชโยในคดีอาญา รับรองการสอนของธัมมชโยว่า ถูกต้องตามพระไตรปิฎก ทุกประการ

๓. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.๙) วัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป

๔. พระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร ป.ธ.๓) วัดยานนาวา กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ๕. พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ ป.ธ.๙) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ๖. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ.๙) วัดสามพระยา กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป

๗. พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.๙) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ๘. พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) วัดสระเกศ กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ๙. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙) วัดประยุรวงศาวาส กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป

 

ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ๑. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.๙) วัดสัมพันธวงศาราม กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ๒. พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) วัดสัมพันธวงศาราม (นานาสังวาส?) กรรมการที่ปรึกษา โครงการ (ธรรมกาย) อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป อย่างไรก็ตามก็ต้องจับตาดูว่าการโยกย้าย พ.ต.อ.พงศ์พรในครั้งนี้ จะเป็นเหตุให้การเดินหน้าตรวจสอบบัญชีวัด และการทุจริตในส่วนต่างๆที่กำลังเดินหน้าอยู่ขณะนี้จะต้องหยุดลงหรือไม่ และใครมีส่วนได้ส่วนเสีย

 

 

อ้างอิง ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร