สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!

สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!

การทำคุณไสย์มีหลายแบบหลายวิธี ซึ่งปัจจุบันนี้เมืองไทยเราก็ยังคงมี การทำคุณไสยใส่กัน
เช่นสมัยก่อน สำหรับผู้ที่ไม่มีความเชื่อในเรื่องเหล่านี้ ก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่งมงายไร้สาระไม่มีทางเป็นไปได้เดี๋ยวนี้มันยุคสมัยไหนพ.ศ.อะไรแล้ว? หากผู้ใดมีความเชื่อถือในเรื่องแบบนี้ ก็คือคนล้าสมัยหัวโบราณจึงดูเป็นที่ตลกขบขันในสายตาความคิดและความรู้สึกของผู้ที่ไม่มีความเชื่อถือในเรื่องของศาสตร์อาถรรพ์ลี้ลับเหล่านี้ ซึ่งมันเป็นศาสตร์แขนงด้านอวิชาที่อันตรายมากสามารถทำให้ผู้ที่ถูกกระทำคุณไสยใส่นั้นเสียชีวิตลงภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น,บางรายก็มีอาการแปลกประหลาดโดยที่การแพทย์ปัจจุบันไม่อาจตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคได้…(แพทย์จึงมักสรุปว่า เป็นโรคทางจิตเวช)**

**โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมสาระข้อมูลดังต่อไปอย่างรอบคอบที่สุด!!เนื่องจากทางผู้เขียนไม่มีเจตนาใดๆหรือจงใจชักชวนให้ผู้ใดเชื่อหรือมีความงมงายแต่อย่างใด****

สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!

เช่าพระคลิ๊กที่นี่
บ้านพระเครื่อง

 

 ผู้ที่สามารถทำให้เกิดโรคถูกกระทำ ที่เราพอจะทราบกันนั้น มีอยู่หลายกลุ่ม อาทิ คุณไสยของหมอเขมร ,หมอแขก ,หมอลาว ,หมอไทย ,และชาวเขา ลักษณะวิธีการทำก็จะมีตั้งแต่เสกคุณไสยเข้าตัว,เอาคุณไสยให้กิน, ฝังรูปฝังรอย(เรียกจิตผูกจิต) .... ว่ากันว่า ศาสตร์วิชาของหมอเขมรกับหมอแขกนั้นค่อนข้างจะโหดสุด โดนแล้วจะแก้ยากมาก บางรายใช้ผงอาคมโรยใส่ไปในอาหารให้ผู้อื่นกินโดยใช้วิธีการเสก หรือ เอากระดูกผีตายโหงมาใช้ แล้วสั่งให้ไปทำร้ายผู้อื่น สำหรับทางด้านวิธีการรักษานั้นจะมีอยู่แค่ทางเดียว ก็คือ ต้องแก้ด้วยพลังจิต ซึ่งผู้แก้จะต้องเป็นผู้มีพลังจิตสูงกว่าคนทำจึงจะแก้ได้สำเร็จไม่เกิดอันตรายแก่ตัวเอง

ในส่วนของการทำคุณไสยนั้นผู้เขียนต้องขอบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ว่าใครนึกอยากจะทำก็สามารถทำกันได้เดี๋ยวนั้นตอนนั้นเลยนะคะ จากการสืบค้นข้อมูลผู้เขียนพบว่า การทำคุณไสยทุกอย่างจะมีขั้นตอนในการทำยิ่งเป็นศาสตร์วิชาของเขมรที่เขาทำแล้วได้ผลไว ก็เพราะเขาทำจริง โดยผู้กระทำนั้นจะตัองตั้งมั่นมีสมาธิสูงมากต้อง ใช้พลังจิตทำร่วมกับพิธีกรรมต่างๆอีกหลายอย่าง ซึ่งเราจะเรียกว่านี่เป็นการใช้ "มิจฉาสมาธิ" ก็ได้เพราะผู้ทำนำเอาพลังจิตมาใช้ในทางชั่วช้า!!

สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!

 

สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!

องค์ประกอบที่จะทำคุณไสยให้สำเร็จได้นั้นมีดังต่อไปนี้

1.คนทำจะต้องมีพื้นดวงของผู้ที่จะถูกกระทำคุณไสยใส่

2.หมอที่จะกระทำจะต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูงมากเพราะต้องใช้พลังจิตทำร่วมกับพิธีกรรมต่างและอุปกรณ์อีกหลายอย่าง

3.อาคมที่จะใช้กระทำคุณไสยนั้นจะต้องเป็นอาคมชั้นสูง (สายวังเขมร)

4.วัสดุอุปกรณ์และพิธีกรรมจะต้องมีความถูกต้องตรงตามตำราโบราณทุกอย่างต้องไม่มีขาดตกบกพร่องสิ่งใดๆแม้แต่อย่างเดียว คือ คนกระทำ (หมอทำ)ต้องเคร่งและละเอียดมากกับพิธีรีตองทุกขั้นตอนไม่ให้เกิดมีความผิดพลาดได้เลยนั่นเอง

5.สิ่งที่จำเป็นมากๆจะขาดไม่ได้เลยในพิธีการที่กระทำนั่นก็คือ..”สัมภเวสี”เข้าพวก
(วิญญาณที่เป็นมิจฉาทิฐิสูง)เพราะวิญญาณเหล่านี้ล้วนมีนิสัยเกเรเหี้ยมโหดดุร้ายมาก


แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นดวงของผู้ที่จะถูกกระทำคุณไสยใส่ด้วยนะคะ ถ้าหากว่าคนที่จะถูกกระทำน่ะดวงเขายังดีอยู่ แล้วจู่ๆจะไปกระทำคุณไสยใส่เขาทำอะไรใส่เขาล่ะก็
ไม่มีทางแน่นอน ต่อให้ผู้กระทำเสกจนครบ 7คาบ 7เดือนก็ป่วยการเสียเวลาเปล่า เรื่องพื้นฐานของดวงชะตาของผู้ที่จะถูกกระทำนี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากอันดับหนึ่งที่เดียว หากว่าดวงคนที่ถูกกระทำนั้น ดวงของเขายังดีอยู่ต่อให้ หมอทำ เก่งวิเศษแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาได้


                        แต่ถ้าหากว่าขณะนั้นเป็นช่วงที่ดวงเขาตกหรือเป็นช่วงที่มีดาวร้ายมาทับลัคนาราศีเกิด ซึ่งเป็นอริและดาวให้โทษปรากฎอยู่ในดาวจรของพื้นดวงแล้วล่ะก็ หมอทำ ใช้ระยะเวลาเสกเป่าทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์แค่ 3 คืนเท่านั้นแหละคนๆนั้นก็จะมีอันเป็นไป คือ เดี้ยงด้วยอาการต่างๆที่เกิดจากการถูกกระทำคุณไสยใส่ ดังนั้นก็สรุปได้ว่า หมอทำ จะสามารถกระทำคุณไสยใส่ใครได้เป็นผลสำเร็จนั้นจะต้องอาศัยกระทำในช่วงผู้ที่จะถูกกระทำดวงตก
มีดวงเจ็บสาหัสกระทั่งมีดวงตายนั่นแหละ แม้แต่โหราศาสตร์ต่างก็ออกมายืนยันอีกด้วยว่าผู้ใดมีดวงดาวที่ไม่ดีปรากฎในดวงของผู้นั้นแล้วล่ะก็ ย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการโดนกระทำย่ำยีโดนอาคมโดนไสยศาสตร์ต่างๆได้ง่ายมาก

                          ในส่วนของด้านพลังจิตและอาคมนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน
ผู้ที่เป็น..หมอทำ..จะต้องมีพลังจิตสมาธิสูงและนิ่งมากเลยทีเดียว กอรปด้วยวิชาอาคมชั้นสูงในสายวังเขมร เพราะมีความเชื่อที่สะสมตกทอดต่อๆกันมาว่าในสมัยก่อนเรื่องการฆ่ากันด้วยวิธีการใช้วิชาอาคมด้านคุณไสยนั้นมีอยู่จริง โดยเฉพาะในวัง เจ้านายฝ่ายเหนือของเขมร เรียกได้ว่าเป็นวิธีการอันเหี้ยมโหดและร้ายแรงมากๆเลยทีเดียว และกาลต่อมาวิชาอาคมต่างๆสายวังเขมรที่ตกทอดจากรุ่นต่อรุ่นก็ได้กระเด็นเล็ดลอดหลุดออกมาจากวังมากมาย และได้มีผู้รับการสืบทอดเอาไว้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
           
                              เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันว่าอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการประกอบพิธีกรรมนั้นต้องมีลักษณะคุณสมบัติอย่างไรถึงจะนำเอาเข้ามาใช้ในพิธีกรรมได้โดยไม่ผิดหลักของศาสตร์ตำราโบราณ.. ซึ่งจากการที่ผู้เขียนได้ทำการสืบค้นข้อมูลจากที่ต่างๆผู้เขียนพบว่าข้อมูลส่วนใหญ่จะตรงกัน คือ เครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์การกระทำคุณไสยนั้น จะต้องเป็นของเก่าคร่ำคร่าที่ผ่านการเข้าทำพิธีกรรมต่างๆมาอย่างยาวนาน ไม่ใช่ของใหม่ที่จะเดินไปซื้อมาจากตลาดแล้วเอามาเข้าใช้กระทำร่วมในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ได้เลยนะ!! เพราะว่ามันไม่ได้ผล “ซึ่งตรงส่วนนี้ผู้เขียนได้รับความเมตตาจาก”ผู้มีความรอบรู้”ในด้านนี้ท่านหนึ่ง (ท่านไม่สะดวกให้เปิดเผยนาม)โดย”ท่านผู้รอบรู้”ได้บอกกับผู้เขียนว่า…เรื่องเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำเข้าไปใช้เป็นองค์ประกอบในพิธีกรรมนั้น ถ้าหากว่าเป็นด้านศาสตร์วิชาอาคมไสยศาสตร์ชั้นสูงของ…
“สายวังเขมร”แล้วล่ะก็จะมีความสำคัญมากๆถือเป็นตัวชูโรงเลยก็ว่าได้ เพราะศาสตร์นี้จะเคร่งมากต้องไม่ให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเด็ดขาด และ”เจ้าตัวชูโรงหรือหัวใจหลัก”ของพิธีกรรมนี้ ก็คือ “ความเก่าแก่”ของเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์นี่เอง ที่จะต้องมีความเก่าคร่ำคร่ายิ่งมีความเก่ามากเท่าไร ก็มีส่วนในการช่วยผลัดดันให้การกระทำพิธีกรรมนั้น ประสบผลสำเร็จมีความเข้มขลังมากเป็นเท่าตัวนั่นเอง!! (นี่เฉพาะส่วนความเชื่อของศาสตร์วิชาอาคม”สายวังเขมร”)เท่านั้นนะคะในส่วนสายศาสตร์วิชาอื่นๆเอาไว้ผู้เขียนจะมาจรดปลายปากกาเล่าสู่ผู้ชมอีกในวาระต่อไป

                         จากที่ผู้เขียนได้บรรยายเอาไว้ในข้างต้น อาจมีหลายคนมีความสงสัยว่า…เจ้าคำว่า”สัมภเวสีเข้าพวก”ที่ว่าน่ะมันคืออะไร ?ทีนี้ผู้เขียนจะขอตอบแบบสรุปว่า ความหมาย ของคำว่า “สัมภเวสีเข้าพวก”ก็คือ(ดวงวิญญาณที่มีมิจฉาทิฏฐิสูง)ประเภทที่มองเห็นกงจักรสวยงามดั่งดอกบัวนั่นแหละ !!วิญญาณจำพวกนี้จะมีนิสัยที่เหี้ยมโหดดุร้ายเกเรชอบกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่นโดยสันดาน วิญญาณจึงติดอยู่ใน นรกอเวจี ขุมที่ลึกที่สุด หรือ จะเรียกวิญญาณเหล่านี้ว่า “อสูรกาย “ก็ได้ ฉะนั้นเจ้าพวกวิญญาณเศษสวะเดนผีประเภทนี้จึงไม่มีโอกาสได้รับอานิสงส์ผลบุญกุศลใดๆที่ญาติพี่น้องในชาติภพต่างๆได้ทำบุญอุทิศส่งให้…จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดทนทุกข์ทรมานอยู่ใน ขุมนรกอเวจี ชั่วกัปชั่วกัลป์เพราะ”ดวงวิญญาณมีมิจฉาทิฏฐิสูง”ทำให้ภวังค์มีแต่ความมืดบอดสนิท จึงไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างแห่งเส้นทางบุญ แต่มักมองเห็นและปิติยินดีชื่นชอบในสิ่งชั่วร้ายเสมอ คราวใดที่ผู้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า 
(หมอทำ) ทำพิธีปลุกเรียกดวงวิญญาณเหล่านี้ขึ้นมาแล้วอุทิศเศษผลบุญเล็กๆน้อยๆให้หรือตั้งเครื่องเซ่นไหว้เชิญพวกดวงวิญญาณเหล่านี้ให้มากิน ดวงวิญญาณเหล่านี้ต่างมีความลิงโลดพอใจเป็นยิ่งนัก.. จึงยินดีรับอาสาออกหน้าไปลุยจัดการทำร้ายผู้ ซึ่งถูกกระทำเวทย์มนต์คุณไสยใส่ตัวอย่างโหดเหี้ยมร้ายกาจมากจนกระทั่ง ผู้ถูกกระทำนั้นตายลงอย่างอนาถในรูปแบบต่างๆแล้วแต่ผู้ทำจะสั่งมากับดวงวิญญาณเหล่านี้..จึงถือเป็นอันว่าดวงวิญญาณทำผลงานชิ้นโบแดงให้กับผู้กระทำ (หมอทำ)ลุล่วงเป็นที่สำเร็จเรียบร้อย

สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!

แต่เท่าที่ผู้เขียนทราบมาจากคำบอกเล่าของ ท่านผู้มีความรอบรู้ในเรื่องนี้ ท่านบอกว่า…”แม้อวิชาอาคมด้านไสยศาสตร์“สายวัง”ของเขมรจะมีฤิทธิ์อันเหี้ยมโหดร้ายแรงเข้มขลังมากสักเพียงใด!!ก็ไม่อาจจะกล่ำกรายทำอันตราย หรือ ทำร้ายอะไรกับ..
”พระภิกษุ”ที่มีศีลบริสุทธิ์ได้เลย” อ่อยังมีอีกประเด็นหนึ่งนะ อาจจะดูแปลกแหกกระเชอไปหน่อย แต่ว่ามันก็คือเรื่องแปลกแหกกระเชอที่จริงแท้มากๆเชียวหละ!!!
 ไม่ต้องงงนะจริงๆก็คือเรื่อง“หมอผีเขมร หรือ (หมอทำคุณไสย)กับวิญญาณผีเหล่าสัมภเวสีนั่นแหละไม่ต้องคิดกันไปไกลถึงไหนๆหรอก!!(ผู้เขียนแค่อยากสร้างจุดประกายความสงสัยใคร่รู้ให้ท่านผู้ชมเล็กน้อยๆเท่านั้นเอง)ความจริงก็คือไม่มีความลับอะไรในพุ่มในกอตำแยแห่แมวเหมียวจริงๆค่ะ
เอาล่ะทีนี้ผู้เขียนจะบรรยายอธิบายให้ ท่านผู้ชม ได้ทราบกันเอาไว้เพื่อเป็นการประดับความรู้กันแบบกระจ่างแจ้งกันเลย!!! คือ เรื่องหมอเขมร
(หมอทำไสยศาสตร์)กับวิญญาณผี น่ะดูเหมือนว่าจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว เพราะอะไร
น่ะเหรอ? ก็เพราะว่า..บางที”พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์”อาศัยใช้ให้วิญญาณเหล่านั้นไปทำร้ายคนที่ถูกกระทำไสยศาสตร์เข้าตัวด้วยฝีมือ”พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์” แต่ทว่าครั้งนี้ “พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์”นั้นเกิดถึงคราวเคราะห์หามยามซวยดวงตกเข้าพอดิบพอดี และดันไปเจอกับเจ้าดวงวิญญาณที่มันเจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัดไม่มีความซื่อสัตย์เข้าล่ะก็ต่อให้เป็น “พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์”ที่วิเศษสักแค่ไหนก็เถอะ!!!มีหวังได้แซ่บสะใจสาหัสสากรรจ์ไปถึงขั้วตับขั้วไตเชียวแหละ บางรายนี่ “ท่านผู้มีความรอบรู้” ..บอกกับผู้เขียนว่าถึงกับแทบจะเอาชีวิตตัวเองไม่รอดเป็นบ้าบอ วิกลจริตไปเลยหละ!!!
(ขอบรรยายเสริมทัพประดับความรู้ไว้สักหน่อยก็แล้วกันท่านผู้ชมจะได้ไม่งง..คือ จริงๆแล้วพวกดวงวิญญาณมิจฉาทิฐิสูงน่ะมันไม่มีความซื่อสัตย์โดยพื้นฐานสันดานเดิมของมันอยู่แล้ว) ถ้าหากว่าผู้ถูกกระทำนั้นรู้ตัวทราบว่าตนโดนอาคมคุณไสยกระทำย่ำยี แต่ทว่าผู้ซึ่งถูกกระทำคุณไสยใส่ตัว นั้นพอที่จะมีความเชื่อถือในเรื่องนี้อยู่บ้าง ก็อาจจะวิ่งโร่พาตัวเองไปหาวิธีถอดถอนเอาของออกจากตัวได้ทันท่วงที ก็ยังมีสิทธิ์รอดไป ไม่ต้องตายเพราะอำนาจแห่งเวทย์มนต์คำสั่ง
แห่งอวิชาที่เหี้ยมโหดอำมหิตสุดร้ายกาจของ “พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์” ก็นับว่ายังมีบุญอยู่มากโขเลยทีเดียว…

สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังโดนคุณไสย!!!!           

ทีนี้แหละอะไรมันจะเกิดขึ้นกับ “พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์”ถ้าหากดวงวิญญาณที่ส่งให้ไปทำร้ายผู้ถูกกระทำ..มันสู้ไม่ได้เกิดความหวาดเกรงกลัวในวิชาอาคมอันแก่กล้าจากผู้ที่มีพลังจิตสมาธินิ่งมากและมีบารมีสูงกว่า “พ่อหมอเขมรจอมขมังเวทย์”แล้วมันกลับไปสมยอมเกี้ยเซี้ยเข้าสวามิภักดิ์เชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝั่งตรงข้ามเข้าล่ะทีนี้หละ! เจ้าคุณไสยที่ทำส่งไปเข้าตัวคนอื่นมันจะย้อนกลับมาเข้าตัวเองจังๆเลย แบบนี้เขาเรียกว่า…
 “กรรมตามสนอง“สินะ!! ท้ายนี้ผู้เขียนอยากจะฝากข้อคิดไว้ สำหรับคนที่เป็น หมอทำ ซึ่งหากว่ากำลังหลงเดินอยู่บนเส้นทางสาย อวิชา ล่ะก็ถ้ายังพอกลับตัวกลับใจได้ก็หันหน้าเข้าสู่เส้นทางธรรมตั้งมั่นอยู่บนความถูกต้องเถอะอย่าทิ้งชีวิตที่เหลือให้จมปลักอยู่กับอวิชชาเหล่านั้นเลย …มันมีแต่ความเสื่อมทำให้ตัวเองตกสู่อบายภูมิได้โดยง่าย จงพึงระลึกเอาไว้เสมอว่า ไม่มีอวิชาใดจะสามารถเอาชนะธรรมะแห่ง”องค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้า”ไปได้ ที่ใดแคว้นใดมีอวิชา มี อธรรม ครอบงำเป็นที่ตั้งแล้วไซร์ ที่แห่งนั้นย่อมไม่มีความเจริญ ..กฏแห่งกรรมมีความยุติธรรมและมีความเสมอภาคกับทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้เสมอ “เหนือฟ้าย่อมมีฟ้าที่สูงกว่า”ค่ะ

                    
                     ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูล

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ

และขอขอบคุณแหล่งสาระความรู้ข้อมูลด้านไสยศาสตร์มนต์ดำสายเขมร (บางส่วน!!)จากอินเตอร์เน็ต ค่ะ

เรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์