ไร้จรรยาบรรณ!! ดราม่า วัยรุ่นไปฝังยาคุมตามนโยบายรัฐฯ กลับถูกหมอและจนท.เหยียด เด็กสมัยนี้ไวไฟจัง ถ้าไม่อยากมีลูกก็ใส่ถุงยางดิ

โครงการฝังเข็มคุมกำเนิดฟรีให้สิทธิ์กับวัยรุ่นหญิงอายุตั้งแต่ 10-20 ปี สามารถเข้ารับการฝังยาคุมกำเนิดฟรีได้ที่โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ ตาม พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นปี 2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ. 2559 ทั้งนี้ การคุมกำเนิด ที่สามารถขอรับบริการได้ฟรี สำหรับวัยรุ่นอายุ 10-20 ปี คือ การใช้ยาฝังคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวร โดยฝังไว้ใต้ผิวหนัง ท้องแขน มีทั้งแบบชนิด 3 ปี และ 5 ปี ล่าสุดเกิดประเด็นดราม่าขึ้นเมื่อเพจ Drama-addict ได้แชร์เรื่องราวของนักเรียนชั้นม.6 ที่ได้ไปขอรับฝังยาคุมกำเนิดฟรีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่กลับถูกหมอและเจ้าหน้าที่ซักถามว่าเคยมีเพศสัมพันธุ์และเคยมีลูกมาก่อนใช่ไหม โดยรายละเอียดดังนี้ หลังจากที่ช่วยรัฐเขาโปรโมทนโยบายฝังยาคุมฟรีให้วัยรุ่นไป มีวัยรุ่นโดยเฉพาะสาวๆหลายคนที่อยากทำตามนโยบายนี้ แต่พอไป รพ กลับเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีกลับมา แล้วมาเล่าให้ฟังแบบนี้หลายคนเลย อันนี้จากน้องนักเรียนคนนึง ลองอ่านดู

ไร้จรรยาบรรณ!! ดราม่า วัยรุ่นไปฝังยาคุมตามนโยบายรัฐฯ กลับถูกหมอและจนท.เหยียด เด็กสมัยนี้ไวไฟจัง ถ้าไม่อยากมีลูกก็ใส่ถุงยางดิ

สวัสดีค่ะจ่า หนูอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเข้ารับกับฝังยาคุมกำเนิดฟรีสำหรับวันรุ่นอายุไม่เกิน20ปี หนูเป็นนักเรียนชั้นม.6 ค่ะ วันนี้หนูได้ไปที่ร.พ.รัฐแห่งหนึ่งประจำอำเภอ เพื่อขอรับการฝังยาคุมกำเนิดฟรีตามโครงการรัฐบาล พอหนูไปทำบัตรและไปที่ตึกครอบครัว พอหนูบอกว่าหนูมาฝังยาคุมกำเนิด คุณหมอเองก็ทำหน้างงๆ หนูก็งงว่าทำไมคุณหมอต้องทำหน้างง คุณหมอก็ถามว่า5ปีเลยนะ หนูก็บอกว่าแบบ3ปีก็มีค่ะ. เท่าที่หนูอ่านมาตามโครงการรัฐบาล
เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ จากนั้นคุณหมอประจำตึกก็ได้มารุมถามหนูเกี่ยวกับหนูเคยมีเพศสัมพันธุ์ไหม มีแฟนไหม เคยมีลูกไหม เรียนหนังสือไหม อยู่ ม.ไหน หนูก็ตอบไปตามความจริงว่าไม่เคยมีลูก อยากป้องกันไว้ก่อน

คุณหมอก็พูดว่าโกหกเคยมีใช่ไหมตอนนี้มีสามีใช่ไหม กลัวอดใจไม่ไหวใช่ไหม คุณหมอถามว่าคิดว่าฝังทำไม ป้องกันการท้องถ้าไม่มีก็ไม่ท้อง ถ้าอยากมีก็ใส่ถุงยางเอา หรือว่าเธอมี มีก็ป้องกันไม่ใช่มาขอฝังยาคุม (หนูมีแฟนและหนูกับแฟนต่างเรียนหนังสือคนละจังหวัด) ประจำเดือนมาวันไหน หนูก็เลยบอกว่ามาพรุ่งนี้(ประจำเดือนมาตรงตามการนับวัน) คุณหมอก็พูดประมาณว่าถ้าพรุ่งนี้ประจำเดือนหนูไม่มาล่ะ ถ้าหนูท้องล่ะ ถ้าหนูไม่ทำคงไม่อยากมาฝังหรอก ถ้าอยากมีเพศสัมพันธ์ก็ใส่ถุงยางสิ หนูอยู่ในกลุ่มที่ไม่ต้องฝังก็ได้

ตอนนั้นรู้สึกอายมาก เพราะในห้องมีคนหลายคนเจ้าหน้าพนักงานคุณหมอแล้วก็ลูกของคุณหมอที่เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนและมีคนนอกเครื่องแบบใส่ชุดธรรมดาเป็นผู้ชายยืนหัวเราะและพูดเหน็บประมาณว่าเด็กสมัยนี้ทำไมไวไฟ ถ้าไม่มีคงไม่ทำหรอก คุณหมอก็ทำหน้าตาเหยียดหนูมาก
ตอนนั้นหนูรู้สึกอยากจะหมุดแผ่นดินหนีมากหนูอายมากสุดท้ายหนึ่งในเจ้าหน้าที่ก็พูดปลอบใจหนูและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ ตอนนี้หนูมานั่งกลัวว่าการที่หนูมาขอฝังเรื่องนี้จะหลุดไปถึงหูคนในโรงเรียนมากๆ เพราะมีรุ่นน้องในโรงเรียนนั่งอยู่ด้วย
 

 

คุยไปคุยมา น้องคนนี้บอกว่า คงไม่ไปฝังยาคุมอีกแล้ว เพราะอายไม่อยากเจอประสบการณ์แบบนี้อีก คือเราส่งเสริมนโยบายนี้กันก็จริง แต่ถ้าไม่ปรับทัศนคติของ จนท แล้วทำให้เด็กๆวัยรุ่นเขาเกิด impression ที่ไม่ดีแบบนี้ หรือกระทั่งบางคน เด็กๆไปขอฝังยาคุมก็ทำหน้าเหรอหราไม่รู้ว่ามีนโยบายนี้ด้วยทั้งที่เขาประกาศกันโครมๆ

ดังนั้นจะให้การคุมกำเนิดในวัยรุ่นสำเร็จ คงเป็นไปได้ยาก

ไร้จรรยาบรรณ!! ดราม่า วัยรุ่นไปฝังยาคุมตามนโยบายรัฐฯ กลับถูกหมอและจนท.เหยียด เด็กสมัยนี้ไวไฟจัง ถ้าไม่อยากมีลูกก็ใส่ถุงยางดิ

ไร้จรรยาบรรณ!! ดราม่า วัยรุ่นไปฝังยาคุมตามนโยบายรัฐฯ กลับถูกหมอและจนท.เหยียด เด็กสมัยนี้ไวไฟจัง ถ้าไม่อยากมีลูกก็ใส่ถุงยางดิ