- 27 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
"แต่ก่อนเคยคลอเคียงกัน ทุกวันคืนชื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยนวิญญาณ์ เหมือนดังนภาไร้ทินกร แดดรอนรอน หากทินกรจะลาโลกไปไกล ความรักเราคงอยู่คู่กันไป ในหัวใจคงอยู่คู่เชยชม"
ปี ๒๕๒๑ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานสัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ บีบีซี ว่า มันไม่ใช่ Love at first sight แต่เป็น Hate at first sight "สำหรับข้าพเจ้า เป็นการเกลียด แรกพบ มากกว่า รักแรกพบ เนื่องเพราะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่า จะเสด็จถึงเวลาบ่าย ๔ โมง แต่จริงแล้ว เสด็จมาถึง ๑ ทุ่ม ช้ากว่านัดหมาย ตั้ง ๓ ชั่วโมง ทรงทำให้ข้าพเจ้า ต้องซ้อมถอนสายบัว อยู่จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการเกลียด เมื่อแรกพบ มากกว่า รักเมื่อแรกพบ" แต่ที่คุณหญิงไม่เคยรู้ คือว่าที่พระองค์ทรงสาย ก็เพราะรถพระที่นั่งประสบปัญหา (ธรรมดาโลกจริงๆพวกเราเจอกันทุกคน คือ ผู้หญิงเคืองไปแล้ว แต่ผู้ชาย'สายเงียบ' ก็ไม่ได้อธิบาย) มีการถ่ายรูปหมู่ ในหลวงทรงเป็นผู้อยู่หลังกล้อง มรว.สิริกิตต์หลบไปอยู่หลังกลุ่ม ในหลวงต้องทรงบอกว่า "ยู้ฮู คนข้างหลังน่ะ มาข้างหน้าหน่อย" .....และรูปนั้นเอง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตัดรูปคนอื่นออก เหลือแต่มรว.สิริกิตต์ ใส่กระเป๋าไว้ตลอด ...ตามเคยของพระเอกสายขรึม นางเอกไม่เคยรู้ ”ตอนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประสบอุบัติเหตุ ก็มีรับสังให้ครอบครัวเราเข้าเฝ้า เพราะทรงได้รับบาดเจ็บที่พระเนตรและพระเศียร คุณแม่ก็เข้าไปก่อน ตอนเข้าเฝ้าฯ ก็ให้จับพระหัตถ์ท่านแล้วบอกชื่อ พอถึงสมเด็จฯ ท่านก็ทูลว่า หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เพคะ พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงจับมืออยู่นานพอสมควรเลย ”
ท่านผู้หญิงบุษบา สธนพงษ์ เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นในหนังสือ “ ด้วยพลังแห่งรัก ” สมเด็จพระนางเจ้าทรงพระราชทานสัมภาษณ์ BBC ว่า "ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนว่า พระองค์ท่าน ทรงรักข้าพเจ้า เพราะเวลานั้น อายุเพิ่งย่าง ๑๕ ปี ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักเปียโน เป็นนักเปียโนที่แสดงในงานคอนเสิร์ต ตอนพระองค์ท่านประทับที่โรงพยาบาล หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีพระอาการหนักมาก ตำรวจเขาโทรศัพท์ไปกราบบังคมทูลสมเด็จพระราชชนนี พระองค์ท่านรีบเสด็จไปทันที แต่แทนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระราชปฏิสันถารกับ พระองค์(สมเด็จย่า) ท่านกลับทรงหยิบรูปข้าพเจ้าออกมาจากกระเป๋าโดยที่ข้าพเจ้า ไม่เคยทราบ มาก่อนเลยว่า พระองค์ทรง มีรูปของข้าพเจ้าอยู่แล้ว พระองค์ก็ตรัสให้นำตัวข้าพเจ้าเข้าเฝ้า พระองค์ทรงรักข้าพเจ้า... ตอนนั้นข้าพเจ้าคิดถึงแต่เรื่องที่จะอยู่กับคนที่ข้าพเจ้ารักเท่านั้น ไม่ได้นึกไปไกลถึงหน้าที่และ ภารกิจของพระราชินีเลย ....."