- 27 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จบไปแล้วกับ วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖o เป็นวันที่ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศได้ร่วมใจกันอีกครั้ง เพื่อนอบน้อมส่งเสด็จพ่อหลวงของแผ่นดิน สู่สรวงสวรรคาลัย โดยวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดประชาชนทยอยเดินทางเข้าพื้นที่บริเวณโดยรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวงอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร
เเละทั้งนี้วันที่ ๒๖ ต.ค. ๒๕๖o เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะมีพระราชพิธี ๓ ช่วงคือ
-ช่วงที่หนึ่ง เวลา o๗.๓o น.อัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นพระราชยานเข้าขบวนแห่ไปตรงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปสู่ท้องสนามหลวง
-ช่วงที่สองคือ การถวายพระเพลิงในเวลา ๑๗.๓o น.
-ช่วงที่สาม เวลา ๒๒.00 น. เป็นการถวายพระเพลิงจริง
และในการถ่ายทอดสดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งในวันที่ 27 ตุลาคม 2560 นี้ จะมีการเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระที่นั่งราเชนทรยาน และเชิญพระบรมราชสรีรางคารขึ้นประดิษฐานในพระที่นั่งราเชนทรยานน้อยจากพระเมรุมาศเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
ส่วนวันที่ 29 ตุลาคม 2560 จะเป็นการเชิญพระโกศพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในช่วงเช้า ส่วนในช่วงเย็นจะเป็นพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ณ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
ทั้งนี้มี 2 คำศัพท์ ที่หลายคนอาจไม่ทราบความหมายที่แท้จริง ซึ่งก็คือ “พระบรมอัฐิ” และ “พระบรมราชสรีรางคาร”
สำหรับ อัฐิ แปลตรงตัวว่า กระดูกคนที่เผาแล้ว ส่วนคำว่า สรีรางคาร ซึ่งสามารถเขียนเป็น ราชสรีรังคาร ก็ได้ ซึ่งหมายถึง เถ้าถ่านที่ปะปนกับกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยของศพที่เผาแล้ว ดังนั้น พระบรมอัฐิ จึงหมายถึงกระดูกที่เป็นชิ้นใหญ่ ส่วนพระบรมราชสรีรางคาร เถ้ากระดูกที่เหลือจากการถวายพระเพลิงนั่นเอง