ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

วันนี้ผู้เขียนขอเสนอเรื่องฮอตติดลมบนสร้างความฮือฮาเป็นกระแสร้อนแรงของโลกโซเชี่ยลอยู่ในขณะนี้!!และได้มีการแชร์ส่งต่อๆกันออกไปจำนวนมาก ซึ่งผู้เขียนก็เชื่อว่าน่าจะมีท่านผู้ชมหลายท่านเลยทีเดียวที่ต่างก็พากันร้องอ๋อรู้แล้ว…เรื่อง ตุ๊กแก ไงที่กำลังฮอตมากๆ!!! อันนี้ผู้เขียนก็ขอตอบว่าใช่ค่ะ!! วันนี้เราจะมาขุ้ยแคะเจาะประเด็นลึก..ว่ากันด้วยเรื่องของเจ้า “ตุ๊กแก”ค่ะว่ามีความเป็นมาอย่างไรทำไมถึงได้เป็นเรื่องวินเว่อร์โด่งดังมาแรงแซงทางโค้งกลบกระแสข่าวฮอตทั้งหลายไปได้ถึงเพียงนี้…

เอาล่ะเรามาดูกันค่ะว่าข่าวฮอตที่ผู้เขียนเกริ่นไว้ในข้างต้นนั้นมีความเท็จจริงแค่ไหนมารับชมพร้อมๆกันค่ะ

หลังผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก [ ” นุ้งงง’ แข่วว.”  ] ลงประกาศข้อความในเฟซบุ๊กว่ารับซื้อ ตุ๊กแก ให้ราคาอย่างงามถึงหลักล้าน!!!!

“โดยมีข้อความระบุว่า ด่วน!! รับซื้อตุ๊กแกถึงที่ ซื้อจริงไม่ได้โม้ ราคาหลักหมื่น ปล.ขึ้นกับความยาว หากยาว 17 นิ้วขึ้นไปหลักล้าน #จ่ายสด ตุ๊กแกน้ำหนัก 3.5 ขีด ราคา 3,500 บาท ถ้าหนัก 4 ขีด ราคา 10,000 บาท”

ซึ่งก็มีขั้นตอนการซื้อ”ตุ๊กแก” ระบุเอาไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ..

 1.ถ่ายรุปตุ๊กแกคู่กับตลับเมตรแนวตรง

 2.ถ่ายเป็นคลิปเห็นทั้งหมดของตุ๊กแก

พร้อมทั้งได้บอกวิธีการจับเอาไว้เสร็จสรรพดังนี้ค่ะ

1.วิธีวัดตัว”ตุ๊กแก” คือ ใส่ถุงมือวางตุ๊กแกทับตลับเมตร 

2.ค่อยๆลูบหัวจนถึงหางของตุ๊กแก 

3.เขียนวันเดือนปีที่วัดตุ๊กแก 

4.จากนั่นถ่ายรูปไว้พร้อมคลิป

5. เจ้าตัวได้ระบุย้ำเอาไว้อย่างชัดเจนว่า…สนใจสอบถามได้ แช็ตมาเรยจ้า!!!


และนอกจากนี้ก็ยังได้ระบุราคาของ”ตุ๊กแก”เอาไว้ตามความยาวด้วยว่า..

1.หากตุ๊กแกยาว 15 นิ้ว ราคา 200 บาท 

2.ยาว 15.5 นิ้ว ราคา 500-1,000 บาท

3. ยาว 16 นิ้ว ราคา 5,000-10,000 บาท

4. ยาว 16.5 นิ้ว ราคา 20,000-50,000 บาท 

5.และถ้ายาว 17 นิ้วขึ้นไป ราคา 1 ล้านบาท

 

ทีนี้เมื่อผู้เขียนได้ทำการสืบค้นพบข้อมูลอย่างมากพอเป็นที่เรียบร้อยแล้วผู้เขียนจะขอนำท่านผู้ชมมารับทราบถึงประวัติ และ สรรพคุณของ…
เจ้า “ตุ๊กแก”กันค่ะ ว่ามีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไรทำไมถึงได้มีราคาสูงแซงทะลุราคา”รังนก” และ “หูฉลาม “ กับ “ถังเช่า” ไปได้ปานนี้!!

“ตุ๊กแก”...เป็นสัตว์ ประเภทเลื้อยคลานจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ จิ้งจก กิ่งก่า และ 
ตะกวด เป็นต้นฯ และมีหลายสายพันธุ์แตกต่างกันออกไป ลวดลายความสวยงามก็แตกต่างกันอีกด้วย เช่นมีรูปลักษณะทั่วไป คือ “ตุ๊กแก” จะมีเกล็ดขนาดเล็กปกคลุมไปทั่วลำตัวและมีส่วนหัวที่โต
กว่าลำตัว มีเปลือกตาเปิดปิดได้ปกติ แต่ในทางกลับกันก็มี “ตุ๊กแก”อีกหลายสายพันธุ์ที่ไม่มีเปลือกตาซึ่งเปิดปิดได้ แต่ว่ามีเนื้อเยื่อที่ชื่อ” transparent membrane” ช่วยเคลือบตา มันมักจะใช้ลิ้นแลบออกมาเลียเพื่อทำความสะอาดดวงตาอยู่เสมอ... คราใดที่มันทำความสะอาด ดวงตาจะโปนโตเป็นที่น่า
สะพึงกลัวสร้างความสยองขวัญให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก!!โดยจะทำตัวเหมือนว่ามันลืมตาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความน่ากลัวของตุ๊กแกนั้น ดิฉันผู้เขียนเชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงอันเกรียงไกรในเรื่องของความสยองของมันกันเป็นอย่างดี อาจด้วยเพราะว่ารูปร่างของมันโดยปกติเป็นที่สัตว์เลื้อยคลานค่อนข้าง… ซึ่งตรงนี้ผู้เขียนต้องขออนุญาตใช้คำว่า“น่าขยะแขยง”อยู่แล้ว เท่านั้นยังไม่พอค่ะ และ ด้วยสีสันที่ดูแปลกตาเกินกว่าที่พวกเราจะมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดาทั่วได้ แต่มันยังสามารถปรับสีได้อีกด้วยนะคะตามสภาพแวดล้อมที่อาศัย...อย่างที่เรียกว่าเปลี่ยนสี นั่นเอง!!อีกทั้งพวกมันยังใช้ชีวิตที่แปลกประหลาดคือมักชอบออกหากินตอนกลางคืน และมีเสียงร้องอันเป็นที่น่าสะพึงกลัวเอามากๆ คือ มีเสียงร้องว่า “ตั๊กแก”  หรือ “รักแก” (ผู้เขียนขอติดตลกนิดหน่อย) อันนี้ก็ตามแต่ที่เราจะตีความหมายกัน ดังนั้นบ้านเราจึงตั้งชื่อว่า “ตุ๊กแก” ตามเสียงร้องของมันนั่นเอง โดยภาพรวมแล้ว “ตุ๊กแก”นี่ก็นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยมีใครเต็มใจจะต้อนรับและอยากให้อาศัยอยู่เป็นเพื่อนร่วมชายคาร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยมากมายนัก ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีชีวิตมีเผาพันธุ์ดำรงอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างเนิ่นนาน แต่ครั้งดึกดำบรรพ์ก็ตาม ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเช่นในสมัยวัยเด็กพวกเรามักจะได้ยินผู้ปกครองบางท่านทำการข่มขู่ลูกหลานของตัวเองด้วยคำว่า “อย่าร้องไห้นะ อย่าซนนะ อย่าส่งเสียงดังนะ ถ้าไม่เชื่อ ระวังตุ๊กแกมากินตับนะ” และก็มีบางท่านบางกลุ่มถึงกับนำเอามาตีเป็นเลขเด็ด!! อย่างเช่นตามสมาคมชมรมคนรักหวยชอบเล่นหวย โดยจะฟังกันว่า “ตุ๊กแก”ที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้น มันจะส่งเสียงร้องออกมากี่ครั้ง มีเสียงร้องลักษณะอย่างไร แล้วจะนำมาตีเป็นเลขอะไรได้บ้าง ซึ่งนั่นก็สุดแท้แต่เหล่าบรรดาคอหวยทั้งหลายจะเห็นสมควรกันค่ะ

คุณสมบัติพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ของตุ๊กแก คือ มีตีนที่เหนียวเกาะติดผิวผนังต่างๆได้อย่างน่าทึ่ง และสามารถเดินไปตามเพดานได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ตกลงมาบนพื้นเลย 

เคลลาร์ ออทัมน์ นักสัตวศาสตร์จากวิทยาลัยเลวิส แอนด์คลาร์ก รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา และ โรเบิร์ต ฟูล จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ร่วมมือกับ โทมัส เคนนี จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย 

ได้ทำการวิจัยด้วยการจับตุ๊กแกมาส่องกล้องขยายฝ่าเท้า พบว่ามีขนขึ้นอยู่ประมาณ 1,000 กว่าเส้น แต่ละเส้นที่บริเวณปลายแตกกิ่งก้านสาขาออกไปอีกมากกว่า 1,000 แฉก แต่ละแฉกมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 200 นาโนเมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นปลายแหลมเล็กๆ เรียกกันว่าเซเต้ หรือ เซต้า มีความยาวแค่ ประมาณ 100 ไมโครเมตร จากความกว้างเส้นผมของมนุษย์... เซต้านี้จะเป็นตัวที่ช่วยยึดเกาะเหนียวติดพื้น

ตุ๊กแกมีสรรพคุณทางยาตำราไทยโบราณดังต่อไปนี้..

คนไทยสมัยโบราณจะจับเอาตัว “ตุ๊กแก”มาผ่าท้องเอาเครื่องในออก แล้วนำไป ปิ้งไฟ หรือ ตากแห้ง นำดองเหล้าเป็นยา ใช้ดื่มบำรุงร่างกาย แก้โรคปวดข้อ รักษาโรคตานขโมย และช่วยในระบบการไหลเวียนของโลหิตได้ดี หรือ อีกวิธี

ซึ่งผู้เขียนเคยเห็น “คุณยายของผู้เขียนปรุงยาตำหรับนี้ใช้รักษาบรรดาลูกพี่ลูกน้องของผู้เขียนในตอนสมัยที่พวกเรายังเป็นเด็กเล็กๆกัน”ค่ะ

 คือ คุณยายจะใช้วิธีการจับ “ตุ๊กแก”โดยการ เอาปูนแดงผสมเข้ากับยาฉุนมัดรวบกับผ้าขาวบางพันไว้ที่ปรายไม้ไผ่ลำเล็กๆที่มีเชือกผูกปมเป็นบ่วงใช้กระตุกคล้องคอ “ตุ๊กแก”ซึ่งมีความยาวพอเหมาะไปจ่อแยงตรงบริเวณจุดที่มี”ตุ๊กแกอยู่” เมื่อตัว “ตุ๊กแก”ต้องเข้ากับไม้ที่คุณยาย ใช้แหย่ไปก็จะอ่อนแรงไต่หนีไปไหนไม่ได้เนื่องจาก “ตุ๊กแก”นั้นแพ้ปูนแดงกับยาฉุนที่คุณยายผูกเอาไว้บนปรายไม้นั่นเอง

 จึงสามารถคล้องคอเอาลงมาทำยาได้โดยง่าย แต่ตรงนี้ผู้เขียนจะไม่ขอบรรยายต่อนะคะว่าหลังจากที่ คุณยายเอาเจ้า “ตุ๊กแก” ลงมาได้แล้วคุณยายใช้วิธีการขั้นตอนต่อไปอย่างไรกับ “ตุ๊กแก” เอาเป็นว่าผู้เขียนจะขอรวบมาถึงขั้นตอนกรรมวิธีช่วงที่”ตุ๊กแก”เหลือแต่เพียงร่างที่ไร้วิญญาณแล้ว คุณยายก็นำมาถลกหนังออกเอาแต่เพียงส่วนที่เป็นเนื้อทั้งตัวไว้ แล้ว ผ่าควักเอาไส้เครื่องในออก ตำเกลือ พริกไทย กระเทียม รากผักชีไทยรวมกันอย่างละเอียด แล้วนำมาทาทั่วทั้งตัว “ตุ๊กแก”หมักเอาไว้ประมาณ2-3 ชม.แล้วนำมาปิ้งไฟจนสุกเอาเนื้อป้อนให้เด็กกิน เพราะคนสมัยโบราณนั้น มีความเชื่อถือกันว่า…”ตุ๊กแก” เป็นยาบำรุงร่างกาย สามารถ แก้โรคซางตานขโมย และ จะนำเอาส่วนหางที่ย่างไฟจนแห้งกรอบไปบดเป็นผงเพื่อนำมาผสมกับยาสมุนไพรโบราณชนิดต่างๆตามตำหรับยาที่ได้รับการสืบทอดกันมาจากรุ่นต่อรุ่น ซึ่งใช้กวาดคอเด็กเพื่อรักษาแก้อาการเจ็บคอ!!

จะว่าไปแล้ว “ตุ๊กแก”นั้นถือว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในความเชื่อของชาวไทยมาแต่โบราณอีกด้วย เช่น เชื่อว่าตุ๊กแกมักถูก [งูเขียว] เข้ามากินตับโดยอ้าปากให้งูเข้าไปกินถึงในท้อง แท้ที่จริงแล้ว งูเขียวเมื่อหาอาหารไม่ได้จะบังคับให้ตุ๊กแกอ้าปากเพื่อเข้าไปกินเศษอาหารที่ติดตามซอกปากของตุ๊กแก
นอกจากนี้แล้ว คนสมัยโบราณยังเชื่อว่าเสียงร้องของตุ๊กแกยังเป็นการบอกถึงโชคลางของผู้ที่ได้ยินอีกด้วย ตามเวลาและจำนวนครั้งที่ต่างกัน เช่น 1 ครั้ง เชื่อกันว่า ผู้ได้ยินจะเสียเงินทองโดยไม่เต็มใจ แต่ถ้าได้ยินเสียงตุ๊กแกร้อง 3 ครั้ง เชื่อว่า คนในบ้านจะอยู่เย็นเป็นสุข พบกับความเจริญรุ่งเรือง หรือ ตุ๊กแกร้องตั้งแต่เวลา 6 นาฬิกาจนถึงเที่ยง เชื่อว่า จะได้รับข่าวดี เป็นต้นฯ

ปัจจุบันบริษัทยาระดับแนวหน้าของนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีทำการวิจัยพบว่า มียารักษาโรคเบาหวานชนิดหนึ่ง ที่มีการพัฒนามาจากน้ำลายของตุ๊กแกสายพันธุ์ Gila จากทะเลทรายแอริโซนา 

และนับตั้งแต่ได้มีการพบตำหรับยาของ “ราชวงศ์ซ้อง”ซึ่งเป็น ตำรับยาจีนที่มีอายุกว่าพันปีระบุว่า” ตุ๊กแก”สามารถนำมาทำยาบำรุงไต ปอด และบำบัดผู้มี อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ดี จึงมีการนำเข้าตุ๊กแกตากแห้งจากไทย ปีหนึ่งมูลค่านับร้อยล้านบาท 

ในทางแพทย์แผนจีนนั้นไม่น่าเชื่อว่าตุ๊กแกกลับกลายเป็นสัตว์ที่มีค่าหัวสูงและหาตัวจับยากขึ้นทุกวัน (Most Wanted) ถึงขั้นติดป้ายประกาศจับและให้รางวัลค่าตอบแทนอย่างงดงามทีเดียวเชียวค่ะ เนื่องจากสรรพคุณของตุ๊กแกที่ยากจะหาใครเทียบได้ในด้านการบำรุงธาตุหยางของระบบไต และระบบปอด ถึงแม้ความแรงอาจจะไม่เท่ากับเขากวาง แต่ก็มีจุดเด่นในด้านรักษาผู้ป่วยโรคหอบหืด
 ไอเรื้อรังได้เป็นอย่างดีค่ะ สืบเนื่องมาจากทฤษฏีของแพทย์แผนจีนที่กล่าวถึงโรคหอบหืดที่เป็นมานานรักษาไม่หายว่า เกิดจากระบบการทำงานของปอดและไตพร่องไม่สมดุล ระบบธาตุหยางของไตไม่สามารถกักเก็บลมปราณเอาไว้กับตัวได้ ลมปราณจึงไหลเวียนผิดแปลกไป อีกทั้งระบบปอดเองก็ทำหน้าที่ไหลเวียนลมปราณได้ไม่ดี ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหอบหืดแบบเรื้องรังขึ้น ดังนั้นการใช้”ตุ๊กแก”
จึงมีคุณค่าอย่างยิ่งเพราะการบำรุงไตนั้นถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานและต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมากมักใช้สิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อมาบำรุง และตุ๊กแกก็ตกเป็นหนึ่งในนั้นที่มีความสามารถในการบำรุงเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาโรคหอบหืดเป็นหลัก อีกทั้งการบำรุงธาตุหยางของไตแล้ว “ตุ๊กแก”ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสารจิงคือ  “สารจำเป็น หรือ Essential”คือ สิ่งที่เก็บสะสมไว้ในไต มีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและมีพัฒนาการอย่างเป็นลำดับ ควบคุมความสามารถในการสืบพันธุ์ แปรเปลี่ยนเป็นเลือดและชี่ (พลังชีวิต) เพื่อหล่อเลี้ยงอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ รวมถึงมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและ เลือดอีกทั้งในทางกลับกันยังช่วยบำรุงได้อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม”ตุ๊กแก”ถึงต้องนำมารักษาโรคในทางแพทย์แผนจีน อีกทั้งในปัจจุบันก็มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ป่วยเป็นโรคทางเดินระบบหายใจเรื้อรัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและการใช้ชีวิตของมนุษย์ในแต่ละประเทศ ที่อุตสาหกรรมพัฒนาไปค่อนข้างมากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการไปอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่าใจหาย และส่งผลกระทบ ซึ่งมาจากการที่เราปล่อยปะละเลยธรรมชาติ จึงเป็นสาเหตุเชื้อโรคบางโรคนั้นสามารถบ่มเพาะกระจายสายพันธุ์ที่มีความแข็งแรงเกิดขึ้นอย่างรวดและสามารถแฝงฝังตัวเข้ากับสภาวะโลกในปัจจุบันได้แล้วนั่นเองค่ะ!!

แต่ทั้งนี้สุดท้ายแล้วดิฉันผู้เขียนก็ใคร่ขอฝากข้อคิดไว้ แด่ท่านผู้ชมผู้อ่านทุกท่านที่กำลังอ่านและกำลังรับชมบทความนี้กันอยู่ว่า “ชีวิตทุกชนิดนั้นมีค่า การที่มนุษย์เรา หรือ ทุกๆสรรพสิ่งที่มีการบังเกิดขึ้นมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เกิดมาอาศัยอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันแล้วนั้น สิ่งมีชีวิตทุกชนิดย่อมล้วนมีคุณค่าเหมาะสมและคู่ควรแก่การดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ถึงแม้ว่าสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดนั้นอาจจะสร้าง หรือ ทำประโยชน์ให้แก่โลกใบนี้ได้แตกต่างกันออกไป ไม่มากก็น้อย แต่ดิฉันผู้เขียนก็เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า..การที่เราปกป้องและช่วยกันดูแลทุกๆสรรพสิ่งที่มีคุณค่าต่อโลกใบนี้เอาไว้นั้น จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับโลกของเราได้อย่างเอนกอนันต์ ส่วนตัวดิฉันในฐานะที่เป็นผู้เขียนบทความอันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียง ที่ไม่ช่วยสนับสนุนการใช้ยาจีนบางตำหรับและตัวยาบางชนิดถ้าหากว่าไม่มีความจำเป็นอย่างมาก

ไม่มีความจำเป็นอย่างมากมายใดๆนักสำหรับตัวผู้ป่วยแล้วล่ะก็ เราก็ไม่ไม่ควรที่จะเบียดเบียนสรรพสิ่งอันเป็นชีวิตที่มีค่าของสัตว์อื่นๆทุกชนิดเช่นกันค่ะ “ใจเขาใจเรา” แม้ว่า...ในความน่าขยะแขยงน่าเกลียดน่ากลัวและดูอัปลักษณ์ “ตุ๊กแก”ก็ยังมีคุณค่าแฝงอยู่ในตัวของพวกมันอยู่ไม่น้อย...เราจึงควรมีความเมตตาให้กับพวกมันบ้าง อย่าได้คิดรังเกียจเดียดฉันท์และรังแกสัตว์ผู้เป็นเพื่อนร่วมโลกตัวน้อยๆเหล่ากันนี้เลยนะคะ ชีวิตใครใครก็รัก”

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ตุ๊กแก !!! เดียรัจฉานสัตว์ที่น่ารังเกียจและขยะแขยง แต่สนนราคาแพงลิบลิ่วด้วยคุณค่าในเชิงการแพทย์...เยียวยาชีวิตมนุษยชาติ

 

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก [ ” นุ้งงง’ แข่วว.”  ], 
วิพีกิเดีย,บทความอ้างอิง
[1] 钟知霖.发现中药[M].北京:人民军医出版社,2014.10.
และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์