"ความเชื่อ" ศาสตร์ที่ลี้ลับสำหรับมนุษยชาติทุกศาสนา!!! "ไทย-กัมพูชา"มีความละม้ายคล้ายกันสุดๆ...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

พูดถึงเรื่องความเชื่อ นั้นก็นับว่าเป็นสิ่งที่บางครั้งเราก็ไม่อาจที่จะสามารถพิสูจน์ได้ในแง่มุมของหลักวิทยาศาสตร์ และไม่อาจคาดเดาอะไรใดๆได้ ถึงผลลัพธ์ที่แท้จริง จึงมีประโยคสุดคลาสิคที่ว่า “นี่คือความเชื่อส่วนบุคคล”, “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” และวันนี้ผู้เขียนจะนำท่านผู้ชมผู้อ่านมาความรู้จักกับความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ หรือ เรื่องเหนือธรรมชาติของผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่างกัมพูชากันค่ะ ด้วยเพราะชาวเขมรนั้นมีถิ่นที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่แห่ง อาณาจักรขอม อันเก่าแก่ ซึ่งเคยเรืองอำนาจมากที่สุดในอดีต จึงได้มีความเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆอย่างมากมาย แต่ข้อไหนจะมีส่วนคล้ายกับความเชื่อของไทยเราบ้างหรือไม่นั้น ท่านผู้ชมลองอ่านกันดูนะคะ..

บทความนี้ผู้เขียนขอรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อของชาวเขมร (กัมพูชา)มาไว้ที่นี่นะคะเพื่อความสะดวกในการรับชมของท่านผู้อ่านทุกๆท่านค่ะ

1.ชาวเขมรกับความเชื่อในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสัตว์

1.1 สุนัข
เวลาสุนัขเห่าหอนยามวิกาล แสดงว่าพวกมันเห็นผี ห้ามดูเวลาสุนัขผสมพันธุ์ เพราะจะทำให้ตาบอด

1.2 แมว
 • หากแมวกระโดดข้ามศพ เพราะศพนั้นจะฟื้นคืนชีพ
 • ส่วนแมวสามสีถือเป็นสัตว์มงคลที่จะนำมาซึ่งความสุข

 

1.3 งู
 • หากเห็นงูจงอางเลื้อยตัดหน้าให้ถือเป็นลางเตือนเหตุเภทภัยว่าจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นและผู้เห็นไม่ควรใช้ถนน เส้นนั้น
 • แต่ถ้าเจอ งูเหลือมขดอยู่ในเรือแปลว่าจะมีโชค และโอกาสดีๆ กำลังมาเยือน

1.4 ตุ๊กแก, จิ้งจก
 • จิ้งจกรวมถึงตุ๊กแกร้องทักเป็นสิ่งดี โดยเฉพาะเมื่อมันร้อง 7 ครั้ง
 • อย่างไรก็ตาม สำหรับสาวโสด หากได้ยินจิ้งจกหรือตุ๊กแกร้อง 1 ครั้ง นั่นหมายความว่าจะได้ออกเรือนกับหนุ่มโสด ร้องทัก 2 ครั้งแปลได้ว่าอนาคตจะแต่งกับพ่อม่าย 

1.5 กวาง
ถ้าพบกวางหลงเข้ามาในย่านชุมชนชาวเขมรเชื่อว่ามีคนถูก ผีเข้า
ไม่ควรพูดอำหรือเล่าเรื่องตลกเวลาเดินป่า เพราะจะทำให้หลงทางหรือไม่ก็ถูกสัตว์ป่ากิน

1.6 กินปลา
เวลากินปลาถ้ายังกินด้านหนึ่งไม่หมดห้ามกลับตัวปลา เพราะเชื่อว่าจะทำให้เรือของชาวประมงที่จับปลาตัวนั้นๆ อับปางกลางแม่น้ำหรือทะเล 
(ความเชื่อนี้ค่อนข้างเหมือนกับความเชื่อของคนไทยเรา)ค่ะ

 

 

 

2.มาดูเรื่องความเชื่อของชาวเขมรที่เกี่ยวข้องกับความรักกันต่อค่ะ

2.1 ฉี่รดธรณีประตู
ชาวเขมรเชื่อว่า หากตอนเด็กๆ แอบปัสสาวะรดธรณีประตู เมื่อโตขึ้นจนถึงวัยแต่งงาน ในวันวิวาห์จะมีพายุฝนฟ้าคะนองตกหนัก ไม่เพียงเท่านี้ เพราะในงานจะมีแขกเหรื่อจำนวนน้อยนิดทำให้ได้รับของขวัญน้อยลงไปด้วย .. ที่สำคัญตลอดชีวิตการแต่งงานอาจไม่ราบรื่นดั่งใจคิด

2.2 ไม่ควรแต่งงานกับชายหรือหญิง ที่อายุเท่ากัน
 • เพราะหากปีไหนดวงชะตาไม่ดีก็จะกลายเป็นไม่ดีแบบคูณสอง!!
 • ห้ามคู่รักนั่งข้างๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวช่วงประกอบพิธีมงคลสมรส เนื่องจากจะนำความโชคร้ายมาสู่คู่รักข้าวใหม่ปลามัน
และชาวเขมรยังเชื่อว่าไม่ควรถ่ายรูปร่วมกัน 3 คน เพราะจะเกิดปัญหา หรือมีคนใดคนหนึ่งใน 3 คนนั้นจะมีเหตุให้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกด้วยค่ะ

3.ความเชื่อของชาวเขมรเกี่ยวกับ บ้าน เรือน

  3.1 เวลาจะสร้างบ้านต้องทำพิธีขออนุญาตจากเนียก หรือนาค เพื่อความเป็นสิริมงคล
  3.2 บันไดจะต้องสร้างเป็นจำนวนคี่เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณมาเยือน
 
  3.3 ไม่ควรกวาดเรือนยามวิกาล เพราะจะกวาดเงินทองและความมั่งคั่งออกไปจากครอบครัว
  3.4 ห้ามซื้อตะปูตอนกลางคืน ถ้าไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต

   3.5 ห้ามปลูกต้นกล้วยใกล้หน้าต่าง เนื่องจากผีสางจะใช้เป็นช่องทางเข้าสู่บ้าน

4.ชาวเขมรกับความเชื่อเกี่เรื่องไสยศาสตร์

เมื่อพูดถึงเขมรคงหนีไม่พ้นสิ่งลี้ลับที่เรียกว่า “ไสยศาสตร์” แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังต่อไปนี้ค่ะ…

 1 คุณไสยรักษา ได้แก่ การต่อชะตา และสะเดาะเคราะห์

 2 ส่วนคุณไสยป้องกัน เกี่ยวกับ “คาถา” และการ “สักยันต์” ซึ่งเน้นลวดลายที่ให้ผลคุ้มครองป้องกันภัย เมตตามหานิยม และความคงกระพันชาตรี การสักยันต์ของเขมรนั้นถือเป็นต้นแบบความเชื่อเรื่องการสักยันต์โบราณของไทยด้วย
 
    3 กลุ่มสุดท้ายคือ มนต์ดำ เป็นไสยศาสตร์ที่เกิดจากความประสงค์ร้าย เพราะทำให้ผู้อื่นทุกข์ทรมาน หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ในกัมพูชามีความเชื่อในการทำของใส่ศัตรูที่คล้ายกับไทยมาก รวมถึง…
 “กบา สนาเตะ” ซึ่งก็คือ วัวธนู ควายธนู ของไทยนั่นเอง

5.ความเชื่อของชาวเขมรเกี่ยวกับผีบรรพบุรุษ

ชาวเขมรยังเชื่อการทรงร่างผีอารักษ์เนียะตา หรือ ผีบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นว่าวิญญาณของผู้ที่ตายไปจะวนเวียนอยู่กับครอบครัวเพื่อคุ้มครองดูแล ชาวเขมรในพื้นที่ชนบทมักจะพึ่งพาพิธีทรงดังกล่าวเมื่อคนในบ้านล้มป่วยหรือมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้

ถึงแม้จะเป็นความเชื่อที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิถีแนวทางของวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตชาวเขมรซึ่งให้ความสำคัญกับครอบครัว อย่างมาก ซึ่งก็เป็นความเชื่อที่มีความสอดคล้องตรงกันกับความเชื่อของคนไทยในบางภูมิภาคค่ะ

 

 

 

 

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิพีกิเดีย, คอลัมน์ อาเซียน นสพ.ข่าวสด, คุณกาญจนา วอทอง,คุณนาตยา พันธกิจ,คุณศิริพร สว่างศรี,เจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ:BM Chanikan,banana-tree-pictures,และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์