ต้นไม้ฆาตกร!? "Pisonia brunoniana" ตำนานความพิศวงจากธรรมชาติ ที่น่าขนลุก!!

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง และ www.tnews.co.th

Pisonia Brunoniana เป็นพรรณไม้ที่มีดอกขนาดเล็กมีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อนจากฮาวายถึงนิวซีแลนด์และไกลไปทางตะวันตกของอินเดีย ต้นพีโซเนียเป็นไม้เนื้ออ่อน มีใบเป็นมันวาวขนาดใหญ่และมีความลี้ลับบางอย่างแฝงอยู่ หากคุณขุดลงไปยังส่วนราก คุณจะพบชิ้นส่วนกระดูกเล็กๆ เหมือนเป็นสุสานที่เก็บมัมมี่ร่างเล็กจำนวนมาก เป็นคุณลักษณะที่น่ากลัวที่ทำให้ต้นไม้ต้นนี้มีชื่อเล่นที่น่าขนลุก คือ "ต้นไม้ฆาตรกร"

 

ต้นไม้ฆาตกร!? "Pisonia brunoniana" ตำนานความพิศวงจากธรรมชาติ ที่น่าขนลุก!!

ภาพจาก : stuff

 

ต้นพีโซเนีย จะผลิตฝักเมล็ดที่ปกคลุมไปด้วยของเหลวที่มีความเหนียว แมลงและนกจะถูกล่อลวงไปติดในกับดักนี้ นกบางตัวที่ไปติดในกับดักนี้อาจเป็นเพราะจะไปจับแมลงที่ติดอยู่ก่อนหน้ากินเป็นอาหาร แมลงที่ติดอยู่จะมีลักษณะคล้ายกับการเกาะบนกิ่งไม้ธรรมดาทั่วไปทำให้นกไม่สงสัย หากนกหรือแมลงไม่ทันระวังหรือไม่รู้แล้วบินมาเกาะเมล็ด ยิ่งขนของพวกมันไปติดบนเมล็ดหลายๆ ลูก ก็จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักทำให้บินออกมายาก และอาจตายอยู่ตรงนั้น หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว นกที่มาติดกับดักของต้นพีโซเนีย มักจะหนีออกมาไม่ได้ ทำให้ตายอย่างช้าๆจากความอดอยากและกลายเป็นศพแห้งบนต้นไม้ แล้วห้อยลงมาเหมือนสิ่งประดับบนต้นคริสต์มาสที่น่าขนลุก นกที่ติดอยู่บนต้นไม้ ทั้งมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว มักจะเป็นเหยื่อล่อให้นกตัวอื่นๆ สนใจ และมาติดกับดักด้วยในที่สุด นับว่าเป็นวัฏจักรชั่วร้าย

 

ต้นไม้ฆาตกร!? "Pisonia brunoniana" ตำนานความพิศวงจากธรรมชาติ ที่น่าขนลุก!!

ภาพจาก : commons.wikimedia.org

 

เมื่อ Alan Burger นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ที่คร่าชีวิตนกนับไม่ถ้วน เขาเกิดความสงสัยว่ามีเหตุผลอยู่เบื้องหลังกลไกการดักจับหรือมันอาจจะเป็นแค่วิวัฒนาการของต้นไม้เท่านั้น ดังนั้นในต้นเดือนพฤษภาคม ปี 1999 Burger จึงเดินทางไปยังหมู่เกาะเซเชลส์ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อทำการศึกษาต้นพีโซเนีย และอยู่ที่นั่นนานถึง 10 เดือน 

Burger กล่าวว่า “จากการทดลองของผมพบว่า ต้นพีโซเนียไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการที่ดักจับสัตว์เลย เมล็ดไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือน้อยลงจากการที่มีนกมาตายบนต้นไม้” เขาได้ทำการทดลองต่อไปจนพบว่าต้นพีโซเนียได้รับสารอาหารจาก Guano (ขี้นก) มากกว่าซากนกที่ตาย นั่นแสดงว่านกที่มีชีวิตมีประโยชน์กับต้นไม้มากกว่าตอนมันตาย

ประเด็นถัดมาคือ ทำไมเมล็ดของต้นพีโซเนียถึงมีความเหนียว? Burger ได้ลองนำเมล็ดไปทำการทดลอง เพื่อทดสอบว่าต้นไม้ใช้ซากศพในการแพร่พันธ์ตัวเองหรือไม่ แต่จากการทดสอบกลับพบว่าเมล็ดจะตายภายใน 5 วัน ต่อมาเขาก็เลยขอทดสอบพ่นน้ำใส่เมล็ดพีโซเนีย เป็นเวลาหลายสัปดาห์ พบว่ามันเมล็ดยังสามารถเติบโตได้ตามปกติ

 

ต้นไม้ฆาตกร!? "Pisonia brunoniana" ตำนานความพิศวงจากธรรมชาติ ที่น่าขนลุก!!

ภาพ: ไดอารี่ของ Tamer's Garden

 

ดังนั้นการดักจับนกจึงไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ต้นไม้มีการแพร่กระจาย แต่เมล็ดสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ด้วยวิธีการทางธรรมชาติของมัน โดยไม่ต้องพึ่งซากนก อย่างไรก็ตามนกที่ยังมีชีวิตอยู่ที่สามารถหลุดไปได้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นพีโซเนียมีการแพร่พันธุ์ แต่น่าเสียดายที่เมล็ดของมันมีความเหนียวและการผลิตเมล็ดพันธุ์ก็มีจำนวนมากเกินไป ทำให้นกบางชนิดมาบินมาติดจนไม่สามารถบินออกไปได้ เพราะฉะนั้นการที่ต้นไม้ฆ่านกนับไม่ถ้วนนั้นเป็นเพียงความไม่ตั้งใจเท่านั้น แต่ตราบเท่าที่เมล็ดยังอยู่บนต้น มันจะยังคงเจริญเติบโตได้ตามปกติ 

แต่มีบางอย่างที่แปลกคือ แม้ต้นไม้จะอันตรายสำหรับนก แต่นกกลับรักต้นพีโซเนีย และบินเข้ามาเกาะเอง Beth Flint นักชีววิทยาสัตว์ป่าจาก U.S. Fish and Wildlife Service กล่าวว่า “มักจะไม่ค่อยมีการพบต้นพีโซเนียที่ไม่มีซากสัตว์อยู่ ในต้นพีโซเนียจะมีซากสัตว์อย่างน้อยหนึ่งตัวเสมอ”

 

ต้นไม้ฆาตกร!? "Pisonia brunoniana" ตำนานความพิศวงจากธรรมชาติ ที่น่าขนลุก!!

ภาพ: video screengrab

 

บางครั้งมนุษย์เองก็ได้เข้ามาแทรกแซงวัฏจักรดังกล่าวเช่นกัน บนเกาะนอร์ทของนิวซีแลนด์ ต้นพีโซเนียแทบจะสูญพันธุ์ เนื่องจากมนุษย์ได้ทำการตัดทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้นกไปติดตายอยู่บนต้นไม้ นอกจากนี้บนเกาะ Cousine เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่ามีนโยบายให้ช่วยเหลือนกที่ไปติดอยู่บนต้นพีโซเนีย ขจัดความเหนียวออกจากตัวพวกมัน และให้การช่วยเหลือจนกว่ามันจะกลับมามีชีวิตปกติ
 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : odditycentralcatdumb