ต้องทนฟังบิ๊กๆรัฐบาลนี้พูดแบบนี้มาหลายปีแล้ว?!? ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ออกโรง!!! เมืองไทยวันนี้ มีแต่ ซ่อม ซ้อม แดก ตาย ???

จากกรณีนายพิเชษฐ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ ได้ร้องสื่อมวลชนว่าลูกชายคือ นักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตในวันที่ 17 ตุลาคม หลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน และไม่ได้รับคำชี้แจงรายละเอียดจากผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเพียงใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการตายจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ครอบครัวจึงข้องใจถึงสาเหตุการตาย รวมทั้งยังพบว่า อวัยวะภายในของ น้องเมย บางส่วนได้หายไป ต่อมาพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกชี้แจงซึ่งทำให้เป็นทุถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงคำพูดของผู้บริหารประเทศระดับรองนายกรัฐมนตรี

“กองบัญชาการกองทัพไทยได้ทำการชี้แจงไปหมดแล้ว แล้วก็มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน มีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ขณะที่แพทย์ได้ประสานไปยังผู้ปกครองให้มารับอวัยวะภายในจำนวน 4 ชิ้นคืนแล้วภายหลังการพิสูจน์ โดยเรื่องนี้ผ่านมาเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว โรงเรียนเตรียมทหารได้พูดคุยกับครอบครัว ช่วยเหลือการจัดงานฌาปนกิจ ส่วนตัวมีความเห็นใจครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูกชายคนเดียว ยืนยันว่าว่าเด็กเสียชีวิตเนื่องจากสุขภาพของตัวเอง ไม่มีการซ่อมอะไรทั้งสิ้น เขาป่วย และเชื่อว่าทางโรงเรียนไม่ได้ปิดบังข้อมูล แม้ว่าบริเวณที่เด็กล้มลงจะไม่มีภาพวงจรปิดก็ตาม เพราะหากเสียชีวิต ใครจะมาปิดบังสาเหตุก็ไม่ได้”

ทั้งนี้พลเอก ประวิตร ยังกล่าวอีกว่า เมื่อสมัยเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ตนเองก็เคยโดนซ่อม แต่ไม่เสียชีวิต ยืนยันว่าการซ่อมไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน  “ผมก็เคยโดนมาเหมือนกัน เช่น วิดพื้น วิ่ง สกอตจัมป์ ไม่ต้องถูกตัวกัน และการซ่อมไม่ได้มากมายอะไร ขณะเดียวกันประเด็นที่เด็กเคยโดนซ้อมจนหยุดหายใจไปครั้งหนึ่งนั้นเพราะเขาเป็นโรคฮีตสโตรก ซึ่งการเป็นโรคนี้เกิดจากการฝึก หรือแม้แต่ยืนตากแดดเฉยๆ ก็เป็นได้ เพราะอากาศร้อน ใครจะไปรู้ว่าลูกเขามีภาวะหัวใจล้มเหลวฉับพลัน ผมก็เคยโดนซ่อมจนเกินกำลังจะรับได้และสลบไปเหมือนกัน แต่ผมไม่ตาย”

ขณะเดียวกัน เมื่อถามอีกว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก พลเอก ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องเข้ามาเรียน ไม่ต้องมาเป็นทหาร เราเอาคนที่เต็มใจ และการเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารต้องเตรียมใจเรื่องการธำรงวินัย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารควรเป็นด้วยเหตุผลอื่น เช่น การออกสงคราม และการต่อสู้กับผู้ร้าย

กรณีนี้เด็กเสียชีวิตเพราะไม่สบาย ถ้าให้ตนเลือกตายได้ก็ขอตายในสนามรบ” พลเอก ประวิตรตอบ

ล่าสุดวันนี้(23พ.ย.) ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก  Arthit Ourairat  ถึงกรณีการเสียชีวิตของน้องเมย และการออกมาชี้แจงของพลเอกประวิตรด้วย ซึ่งอดีตประธานสภาฯได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวถึง2ข้อความดังนี้

“ต้องทนฟังบิ๊กๆรัฐบาลนี้พูดแบบนี้มาหลายปีแล้ว” (พร้อมแชร์โพสต์ข่าวของสำนักข่าวทีนิวส์ ที่พาดหัวข่าวว่า  นี่หรือคำพูดผู้นำ!! "ครอบครัวน้องเมย" สุดเศร้าใจ คำพูด "บิ๊กป้อม" เคยซ่อมแค่สลบแต่ไม่ตาย ก่อนลั่นแรง..ใส่กองทัพทำเอาเห็นด้วยทั้งประเทศ!!  )

อย่างไรก็ตาม1ชั่วโมงถัดมา ดร.อาทิตย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat  อีกครั้ง โดยเป็นการแชร์ความทรงจำเมื่อครั้งที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น “อยากให้ปลูกบวบปลูกแตงมะเขือเทศตามซุ้มในสวน” ซึ่งข้อความที่โพสต์มีเนื้อหาดังนี้

“Shirakawa เมืองมรดกโลกของญี่ปุ่น

เมืองไทยไม่มีวันมีอย่างนี้ มีแต่ ซ่อม ซ้อม แดก ตาย”

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Arthit Ourairat