อย่ามองข้าม!!!โรคที่โหดร้าย ไข้สุกใส ภัยร้ายที่แฝงมากับอากาศหนาว

โรคไข้สุกไส ชื่อนี้อาจไม่ค่อยมีใครคุ้นหูมากนัก แต่ถ้าเปลี่ยนมาเรียกว่าโรคอีสุกอีใสคงจะพอคุ้นหูกันบ้าง โรคไข้สุกใสนั้นเป็นโรคที่ติดต่อกันทางผิวหนังอย่างหนึ่งทำให้ร่างกายเกิดผื่นคัน มีตุ่มนู้นขนาดเล็ก และมีน้ำใส ๆ อยู่ภายใน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย หลายคนมีความเชื่อว่าหากเคยเป็นโรคนี้มาก่อนแล้วครั้งหนึ่งก็จะไม่เป็นอีก ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด!!!

ผู้ที่เป็นไข้สุกใสมักมีไข้ต่ำ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เหนื่อยง่าย เฉื่อยชา ปวดศรีษะ เจ็บคอ ไม่รู้สึกอยากอาหาร จากนั้นจะมีผืนแดงจุด ๆ ขึ้นตามร่างกายและใบหน้าและจะมีอาการคันบริเวณที่เกิดตุ่มพอง ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่ไม่อันตรายสำหรับเด็กเล็ก แต่ในทางกลับกันเป็นโรคที่อันตรายต่อผู้ใหญ่หรือผู้ที่เคยฉีดยาป้องกันโรคอีสุกอีใสนี้ก่อนแล้วก็ยังสามารถเสี่ยงติดโรคอีกครั้งได้เช่นกัน แต่มักพบได้น้อยมาก

 

วิธีการรักษาที่ถูกต้องหากเป็นผู้ป่วยทั่วไปสามารถดูแลตนเองได้ที่บ้าน แต่หากเป็นรายที่มีอาการหนักหรือเป็นในสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำควรปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อน สำหรับผู้ที่อาการไม่หนักนิยมทานยาต้านการอักเสบของตุ่มน้ำที่ไม่ใช้แอสไพริน เช่น ยาพารา และบรรเทาอาการคันด้วยการทาคาลาไมน์ หากอาการรุนแรงขึ้นมาอีกระดับมักมีการทานยาฆ่าเชื้อควบคู่กันไป ปัจจุบันมีการป้องกันโรคไข้สุกใสด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งจะต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเข็มแรกสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ปี และเข็มที่สองคือการฉีดเพื่อกระตุ้น โดยนิยมฉีดช่วงอายุประมาณ 4-6 ปี หากเป็นผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อนในช่วงเด็กขั้นตอนการฉีดเข็มแรกและเข็มที่สองจะห่างกัน 28 วัน ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันจะสามารถลดความรุนแรงของโรคลงได้ถึง 90% ตามรายงานของสํานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังสถานการณ์ของโรคอีสุกอีใส พบว่า ในปี พ.ศ. 2557-2559 มีอัตราการป่วย 129.57 ต่อแสนประชากร 79.82 ต่อแสนประชากร และ 66.57 ต่อแสนประชากร ตามลำดับ ส่วนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้พบได้น้อยมากหรือแทบไม่พบในบางปี ดังนั้นแม้เคยฉีดวัคซีนแล้วก็อาจติดเชื้อและเป็นซ้ำได้ ทางที่ดีแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย....ด้วยรักและหวังดี