ดวงเมืองปี2561 !?!? "ฟองสนาน" ทำนาย เมืองพลิกสู่ขาขึ้น... ถูกเขย่าเพื่อเปลี่ยนใหญ่ในแผ่นดินหรือกวาดสิ่งเก่าสร้างสิ่งใหม่

ฟองสนาน จามรจันทร์ โพสต์เฟสบุค ดวงเมืองปี2561  โดยระบุข้อความว่า 

ดวงเมืองปี2561 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ โหรสมัครเล่น เมืองพลิกสู่ขาขึ้น(มากกว่าลง)

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ (ภาพที่1)  

ทักษากำเนิด วันอาทิตย์

ทักษาจร 21เมษายน 2560-21เมษายน2561 ตกภูมิกลาง 

ทักษาจร21เมษายน 2561-21เมษายน 2562 ตกภูมิจันทร์

 

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่กำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา06.54น.ลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟดังรูปนั้นยืนหยัดผ่านร้อน-หนาวอายุจะครบ236ปีในวันที่21เมษายน 2561 นั้นจะมีปรากฎการณ์ทางโหรที่น่าสนใจที่จะเกิดในระยะอันใกล้และตลอดปี 2561คือ

1.เรื่องที่ยังโดดเด่นต่อมาและต่อไปคือเมืองจะยังถูกเขย่าเพื่อเปลี่ยนใหญ่ในแผ่นดินเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือกวาดสิ่งเก่าสร้างสิ่งใหม่(ลางนำมาก่อนตั้งแต่ประมาณกลางกรกฎาคม 2558-และเป็นจริงเป็นจังเรื่อยมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559)เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม-โครงสร้างแปลกๆ พิสดาร หากทำได้ดีจะนำไปสู่ความก้าวหน้านำสมัย วิถีชีวิในเมืองก้าวหน้าอย่างประหลาดแต่หากเรื่องใด-ประเด็นใด-องค์กรใดฝืนกระแสอาเพศเคยทำอย่างไรก็ทำอยู่อย่างนั้นก็จะพบกับการถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงกระทันหัน เกิดเคราะห์กรรมโดยไม่คาดฝัน และคนที่เกี่ยวข้องจะลำบากแยกแค้นแสนสาหัสปรากฎการณ์นี้จะเป็นไปถึงประมาณกลางกรกฎาคม 2565(มฤตยูเจ้าของภัยอาเพศ-การปฏิวัติ-การเปลี่ยนแปลงสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ทับลัคนาเมือง) 

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยทำนายไว้ว่าประมาณกลางปี 2565 เมื่อเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครเราจะสงสัยและถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

ขณะนี้อาการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในเมืองทยอยปรากฏเป็นจริงแล้วเช่นการเปลี่ยนรัชกาล หรือธุรกิจบางอย่างทำท่าจะล้าสมัยล้มหายตายจากเช่นสื่อสิ่งพิมพ์- นิตยสาร- สาขาธนาคารลดจำนวนลง -การค้าขายทางออนไลน์พุ่งกระฉูดฯลฯ
อีกทั้งเมืองกำลังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศใหญ่โตเช่นรถไฟฟ้า-รถไฟรางคู่-อีอีซี.ซึ่งประชาชนในเมืองควรรับมือโดยพยายามทำสิ่งก้าวหน้าทันสมัยหรือต่อยอดสิ่งเก่าๆให้เพิ่มมูลค่า เพราะผลจากมฤตยูนี้หากใครไม่เปลี่ยนแปลงจะถูกบังคับให้เปลี่ยน หรือไม่ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

 

2. เป้าหมายสำหรับของการเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติของมฤตยูผู้อาเพศยังพุ่งเป้าไปที่ การเมือง-นักการเมืองบุคคลสำคัญในเมืองทุกระดับ- ผู้นำในองค์กรต่างๆต่อไป เพื่อเปิดทางให้เกิดแนวทางใหม่-พรรคการเมืองใหม่-นักการเมืองใหม่ๆ-นโยบายใหม่ๆ-ผู้เล่น-ผู้นำใหม่ๆเข้ามาโลดแเล่นในกติกาใหม่ ในระดับที่นักการเมืองคนใดฝืนกระแสก็จะถูกบังคับให้เปลี่ยน หรือไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวดเช่นกัน(มฤตยูจรที่ราศีเมษทับพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง(๑)ซึ่งเป็นตัวแทนการเมือง-นักการเมืองและผู้มีอำนาจ-ผู้นำในองค์กรต่างๆ)

ระหว่างวันเกิดดวงเมืองที่21 เมษายน 2561-21เมษายน2562 ภาพรวมการเมือง-นักการเมืองคาดว่าคงจะพลิกผันวุ่นวายสับสนน่าดู(พระอาทิตย์ตัวแทนการเมืองนักการเมืองเป็นกาลิกณีจร)
โดยจังหวะที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้งเล็กหรือมินิเลือกตั้งจะเป็น

ประมาณ9กุมภาพันธ์2561-21เมษายน 2561
ส่วนการเลือกตั้งใหญ่รอบนี้นั้นคาดว่าจะอยู่ระหว่างประมาณ6ตุลาคม 2561-30ตุลาคม 2562โดยคาดว่าผลการเลือกตั้งคงจะออกมาแบบแปลกประหลาด พลิกผัน ล้อคถล่มพลิกความคาดหมายอะไรคิดว่าจะใช่กลับไม่ใช่-อะไรที่คิดว่าไม่ใช่จะพลิกเป็นใช่ เพราะพื้นฐานของประชาชนส่วนใหญ่เปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้งเป็นโอกาสดีทีนักการเมืองหน้าใหม่ ทัน-ล้ำสมัยจะเข้าสู่การเมือง
และในท่ามกลางความเป็นไปเหล่านั้นขอคาดหมายต่อไปอีกว่าประมาณกันยายน 2561 เป็นต้นไป พวกมีส่วนได้เสียทางการเมืองคงสู้กันอย่างหนักคงจะเป็นเพราะต้องหาเสียง แต่เมื่อเลือกตั้งแล้วคาดว่าจะมีการรวมหัวกันแบบแปลกๆพิสดารเกินคาด

และตั้งแต่ประมาณกลางเดือนธันวาคม2561 เป็นต้นไปคาดจะได้นายกรัฐมนตรีแบบชวนแปลกใจภายในหนึ่งเดือน โดยเกณฑ์คือจะได้คนเก่ากลับมา ส่วนจะเป็นคนไหนต้องดูดวงชะตาวันเลือกตั้งอีกครั้ง

 

3.ทิศทางเศรษฐกิจหลังจากเมืองเจอปัญหาทางเศรษฐกิจมาตั้งแต่ประมาณพฤศจิกายน 2557 ในระดับกระตุ้นหรืองัดอย่างไรก็มีแต่ทรงกับทรุดนั้น(พระเสาร์จรดาวโทษทุกข์ทำมุมถึงราศีพฤษภดินแดนของการทำมาได้ของเมือง)

อาการฟื้นทางเศรษฐกิจจะเริ่มเห็นวี่แววตั้งแต่ 6 กันยายน 2560 เป็นต้นไปดูได้จากตลาดหุ้นที่ทำสถิติใหม่เป็นระยะตามสูตรที่ว่า ตลาดหุ้นจะบอกแนวโน้มทางเศรษฐกิจก่อน

ต่อมาจุดพลิกกลับทางเศรษฐกิจน่าจะเริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นมา(อันนี้ส่งไปสื่อต่างๆเขียนไปเป็น2561ขออภัย...เพราะน้องๆอาจไม่เฉลียวใจ)

และแรงกดดันทางเศรษฐกิจชาติเริ่มลดลง(เพราะเสาร์จรย้ายจากราศีพิจิกยุติการเล็งใส่พฤษภขอบเขตของเศรษฐกิจของชาติ) เริ่มมีการปรับตัวเลขการส่งออก-การปรับประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจของหน่วยงานต่างๆ- ธนาคารโลกทำนายว่าเราจะหลุดพ้นประเทศที่ยากจนฯลฯ 
และให้จับตาระหว่าง21เมษายน 2561-21เมษายน 2562 คาดว่าจะเป็นปีทองของข้าว –การก่อสร้าง-ขยะมูลฝอย-ทำความสะอาดประเทศ-ปลูกต้นไม้-สำรวจปิโตรเลี่ยม-ปูน(พระเสาร์เป็นศรีจร) แต่ก็เป็นระยะที่ต้องระวังความผันผวนของค่าเงิน หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราและทองคำ(พระอาทิตย์เป็นกาลกิณีจร)

ส่วนตลาดหุ้นนั้นก็มีโอกาสสร้างสถิติใหม่เป็นระยะๆเพราะระดับพื้นฐานทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่ข้อเตือนใจตามโฉลกคือเมืองได้อะไรที่ดีๆอาจจะรักษาไว้ไม่ได้(พระเสาร์จรเป็นเก้ามีโฉลกว่า…หาลาภได้แต่เก็บไว้ไม่ยืนยง

 

4.ด้านร้ายที่แทรกเข้ามาคือเพราะพระราหูจรเดินอยู่ในราศีกรกฎภพที่สี่ของเมืองตลอดทั้งปีทำให้เมืองต้องระวังเพราะนี่คือจุดที่ทำให้ชะตาเมืองแตก ด้วยเรื่องหนี้สิน ฉะนั้นการก่อหนี้ใดๆต้องระวังความคุ้มค่า อีกทั้งประชาชนเองก็ต้องระวังการใช้จ่าย ภาคเอกชนอย่ามองแต่ทางได้ไม่คิดทางเสียเกี่ยวกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

ถ้าจะให้ถูกโฉลกรัฐบาลอาจพลิกหาทางช่วยประชาชนปลดหนี้อีกทั้งภพที่สี่คือเขตแดนของประเทศอาจจะมีปัญหาไม่คาดฝันปะทุขึ้นมา ข้อเสนอคือเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยนแปลงเขตแดนโดยการตั้งจังหวัดใหม่

 

5.เกณฑ์พิเศษอื่นๆในเมือง
1.เป็นปีที่กรรมเก่าจะแรงมากทั้งด้านดีด้านร้าย คนที่ทำร้ายประเทศชาติไว้กฎหมาย-พระสยามฯจะเอาคืน ขณะที่คนดีได้รับการตอบสนอง
2.เรื่องฉาวโฉ่ เช่นโกงที่ทำไว้กับเมืองจะถูกเปิดโปง-รื้อฟื้น
3.เกณฑ์ความแตกแยกในเมืองที่เป็นมาตั้งแต่ประมาณปลายปี2555ลดลง
4.เกณฑ์ร้ายในพื้นที่กลุ่มคนมุสลิมลดลง
5 .เริ่มเปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงอายุสังคมเห็นโอกาสลงทุนเพื่อคนกลุ่มนี้
6.ควรปฏิรูปหรือปฏิวัติการศึกษาของชาติไม่เช่นนั้นชาติจะล้าหลัง
7.เป็นปีแห่งการสร้างหนี้ของชาติในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องน้ำ -รถไฟ -สนามบิน -ท่าเรือ ฯลฯ
8.เป็นปีของงการเปลี่ยนแปลงใหญ่ด้านค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้วิธีการทันหรือล้ำสมัยจึงจะอยู่รอด
9.เป็นปีที่ราคาพลังงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊สจะพุ่งใส่ประชาชนโดยตรง
10.เป็นปีทีพายุแปลกๆและใหญ่น่าจะมากกว่าปกติ

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Fongsanan Chamornchan