กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.2 "พายุบอละเวน" จ่อกระทบไทย 6 - 7 ม.ค. เตือนประชาชนโปรดระมัดระวัง (รายละเอียด)

กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.2 "พายุบอละเวน" จ่อกระทบไทย 6 - 7 ม.ค. เตือนประชาชนโปรดระมัดระวัง (รายละเอียด)


                                   ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
                                   "พายุ “บอละเวน”" 
                                   ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 03 มกราคม 2561
     เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (3 ม.ค.61) พายุโซนร้อน “บอละเวน”(BOLAVEN) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.2 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็ว ประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2561 พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรชันและหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม (ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ในช่วงวันที่ 6-7 มกราคม 2561 ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนเกิดขึ้นได้ ขอให้เกษตรกรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
        สำหรับคลื่นลมในบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

       

        ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

       

        ประกาศ ณ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.

        กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.00 น.

       

       

        (ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย

        (นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)

        อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

     ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือจะมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก และเกษตรกรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย 

     สำหรับภาคใต้มีฝนบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง 

     บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาว ทำให้ภาคเหนือตอนบนมีฝนเกิดขึ้น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง อนึ่ง พายุโซนร้อน “บอละเวน”(BOLAVEN) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ในช่วงวันที่ 6-7 มกราคม 2561 ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนเกิดขึ้นได้

     ภาคเหนือ    
อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา 
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

     ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    
อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

     ภาคกลาง    
อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
 

     ภาคตะวันออก    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีหมอกในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร 

     ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง 
สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส 

     ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล 
อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

     กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีหมอกในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.