อ่านด่วนแพทย์เตือน!ใครที่เป็นแบบนี้!อย่าชะล่าใจ!ไอตอนกลางคืนอาจมีภาวะเสี่ยง 5โรคร้าย!!โรคอะไรบ้าง? (อ่านรายละเอียด)

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องลักษณะอาการไอ (Cough)ที่เราต้องรู้และไม่ควรละเลยกันค่ะท่านผู้ชม เนื่องจากอาการไอนั้นอาจเป็นสัญญาณสำคัญของโรคร้ายแรงที่เราทุกคนไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาด!!อาการไอ เป็นกลไกการตอบสนองของร่างกายอย่างหนึ่งต่อสิ่งผิดปกติในทางเดินหายใจและ เป็นกลไกป้องกันที่สำคัญของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรค เสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ และเป็นอาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้บ่อยที่สุด นอกจากนี้อาการไอยังเป็นทางที่สำคัญในการแพร่กระจายของการติดเชื้อในระบบทาง เดินหายใจ 

#ชนิดของอาการไอถ้าแบ่งตามระยะเวลาของอาการไอ แบ่งได้ 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ
ไอฉับพลัน คือ มีระยะเวลาของอาการไอน้อยกว่า 3 สัปดาห์ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด, โพรงไซนัสอักเสบฉับพลัน, คอหรือกล่องเสียงอักเสบ, หลอดลมอักเสบ, อาการกำเริบของโรคถุงลมโป่งพอง, ปอดอักเสบ, การที่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในหลอดลม หรือสัมผัสกับสารระคายเคืองในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ กลิ่นสเปรย์ แก๊ส มลพิษทางอากาศ

2. ไอเรื้อรัง คือ มีระยะเวลาของอาการไอมากกว่า 3 สัปดาห์ ถึง 8 สัปดาห์ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง, รับประทานยารักษาความดันโลหิตสูงชนิด angiotensin-converting enzyme inhibitor (ACE-I) เป็นระยะเวลานาน, โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังแล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ, โรคหืด, โรคกรดไหลย้อน [gastroesophageal reflux (GERD)], การใช้เสียงมากทำให้เกิดสายเสียงอักเสบเรื้อรัง, เนื้องอกบริเวณคอ กล่องเสียงหรือหลอดลม, โรคของสมองส่วนที่ควบคุมการไอ, โรควัณโรคปอด ผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรัง บางรายอาจมีสาเหตุมากกว่าหนึ่งชนิด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องได้รับการตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุค่ะ

ดังนั้นเมื่อเราเกิดมีอาการไอตอนกลางคืนบ่อยๆจึงไม่ควรเพิกเฉยวางใจอย่างเด็ดขาดเลยนะคะท่านผู้ชมเพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคร้ายได้มากถึง 5โรคอีกทั้งยังรบกวนการนอนทำให้เรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วยนะคะซึ่งโรคเหล่านี้ได้แก่..

1.โรคกรดไหลย้อน

อาการไอจากโรคกรดไหลย้อนมักจะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆและในขณะที่ล้มตัวลงนอนนั่นก็เพราะกรดจะไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหารเป็นผลให้เกิดการระคายเคืองจนไอออกมานั่นเองแต่ทั้งนี้มักจะมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาการแสบร้อนกลางอกและอาการเสียงแหบที่เกิดขึ้นทุกครั้งหลังไอเป็นต้น

2.โรคไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบเป็นอีกโรคหนึ่งที่มักจะมีอาการไอมากในตอนกลางคืนโดยบางคนอาจมีอาการไอรุนแรงจนถึงขั้นนอนแทบไม่ได้เลยทีเดียวและนอกจากอาการไอเฉยๆแล้วผู้ป่วยก็อาจมีไข้หวัดและเสมหะข้นเหนียวในลำคออีกด้วยซึ่งหากมีอาการแบบนี้แนะนำว่าควรไปพบแพทย์จะดีที่สุดเพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดอาการอักเสบที่รุนแรงมากขึ้นได้นั่นเอง

 

3.โรคภูมิแพ้

ในกรณีที่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีอาการไอแบบแห้งๆร่วมกับอาการคันคอและมีเสมหะด้วยในบางรายซึ่งก็จะไออย่างรุนแรงมากขึ้นในเวลากลางคืนนอกจากนี้ก็จะมีอาการคันยุบยิบที่ตาร่วมด้วยและเนื่องจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นแบบเรื้อรังโดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งกระตุ้นดังนั้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและเตรียมพร้อมป้องกันไม่ให้อาการกำเริบกันดีกว่า

4.โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน

สำหรับโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันมักจะมีอาการไอแบบเรื้อรังนานมากถึง1-3สัปดาห์ขึ้นไปโดยมีอาการไอมากขึ้นในช่วงกลางคืนซึ่งอาการที่จะบ่งบอกได้ถึงการป่วยด้วยโรคนี้ก็คืออาการไอแบบแห้งๆพร้อมกับมีเสมหะสีขาวส่วนไข้หวัดอาจมีหรือไม่มีก็ได้

5.โรคหอบหืด

โรคหอบหืดก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีอาการไอตอนกลางคืนอย่างเห็นได้ชัดและไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาดโดยโรคนี้จะมีอาการไอแห้งติดกันเป็นจังหวะรัวเร็วตามด้วยอาการหายใจไม่สะดวกหอบและเจ็บหน้าอกร่วมด้วยซึ่งทุกครั้งที่มีอาการไอก็จะเกิดอาการเหนื่อยล้าอย่างหนักหากไม่ได้รับการรักษาให้อาการทุเลาลงก็อาจเสียชีวิตได้เลยทีเดียวดังนั้นหากมีอาการไอที่ดูเหมือนว่าจะเป็นโรคหอบหืดแนะนำให้รีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด

จะเห็นได้ว่าอาการไอตอนกลางคืนนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างที่คิดกันเพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคร้ายที่น่ากลัวอย่างมากมายเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นหากพบว่ามีอาการไอต่อเนื่องตอนกลางคืนบ่อยๆล่ะก็แนะนำให้รีบไปพบแพทย์รับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการไอที่เราเป็นโดยด่วนจะได้ทำการรักษาได้ทันถ่วงทีหากว่าเรากำลังป่วยด้วยโรคที่รุนแรงนั่นเองค่ะ

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย, 
,และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย: โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์