ติดตามข่าวสารได้ที่ www.mouthkrajay.com

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 30 มกราคม 2561
"สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนกับฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้(มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม จนถึง วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561) " 


ในช่วงวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีสภาพอากาศแปรปรวนโดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ส่วนภาคเหนือมีลมตะวันตกพัดเข้ามาปกคลุมทำให้ยังคงมีอากาศหนาวเย็น


อนึ่ง ในช่วงวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2561 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องและอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


ส่วนในช่วงวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ประกาศ ณ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.

       
(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย

(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ประกาศเตือนฉบับที่ 15 !! กรมอุตุฯ เผย วันที่ 30 ม.ค.- 6 ก.พ. ไทยเจออากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อุณหภูมิลดลง 1–3 องศา (รายละเอียด)

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น. โดยได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ มีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

 

ประกาศเตือนฉบับที่ 15 !! กรมอุตุฯ เผย วันที่ 30 ม.ค.- 6 ก.พ. ไทยเจออากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อุณหภูมิลดลง 1–3 องศา (รายละเอียด)


ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนบริเวณภาคเหนือ มีกระแสลมตะวันตกในระดับบนพัดเข้ามาปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ 

ภาคเหนือ    

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 12-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    

อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร อุณหภูมิต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 26-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 


ภาคกลาง    

มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากจังหวัดราชบุรี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 


ภาคตะวันออก    

อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    

มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.